ตอนที่ 3: ลักหลับ
เสียงสุนัขเห่าหอนในเขตวัดใกล้บ้านปลุกให้ปริ๊นเซสสะดุ้งตื่นอย่างรวดเร็ว มือเรียวยื่นไปหยิบนาฬิกาปลุกเรือนเล็กทำด้วยเหล็กขึ้นมาดูเวลา
เด็กรุ่นใหม่คงไม่รู้วิธีอ่านเข็มนาฬิกาแล้วเพราะทุกคนดูเวลาจากโทรศัพท์กันหมด แต่ปริ๊นเซสยังใช้นาฬิกาปลุกของเธออยู่เพราะมันเป็นนาฬิกาที่พ่อของเธอซื้อให้ในวันเกิด
"ซื้อแบบตัวเรือนเหล็ก เวลาปริ๊นโมโหขว้างมัน มันจะได้ไม่แตก" พ่อเอ่ยด้วยอารมณ์ขัน เมื่อมอบมันให้กับเธอ
ปริ๊นเซสไม่เคยคิดว่านาฬิกาจะอยู่ทนกว่าพ่อซึ่งตายพร้อมกับแม่ของเธอด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำตอนทั้งคู่ไปฮันนีมูนรอบสอง นับตั้งแต่นั้น ปริ๊นเซสในวัย 18 ปี ก็ต้องหาเงินช่วยเหลือตัวเองและจ่ายค่าเทอมไปพร้อม ๆ กัน โดยอาศัยเงินประกันชีวิตที่ได้มานิดหน่อย มาเช่าร้านเปิดเป็น Triskele ขึ้น
ปริ๊นเซสได้ไอเดียนี้มาจากเพื่อนคนหนึ่งซึ่งชอบนิยาย 50 shades of grey มากตั้งแต่นิยายยังไม่ถูกทำเป็นภาพยนตร์ด้วยซ้ำไป
ตีสาม...หญิงสาวถอนหายใจ ว่ากันว่าสาเหตุที่หลายคนมักจะตื่นขึ้นมาในช่วงเวลานี้บ่อย ๆ ก็เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผีออกมาจ้องหน้าดูเรานอน แต่ไม่ว่าตำนานจะว่ามาอย่างไร เธอก็มักจะสะดุ้งตื่นเวลานี้เป็นประจำ ราวกับได้เวลาที่พ่อกับแม่จะมาเช็กดูว่าเธอสบายดีไหม
เจ้าบูฟฟี้ ดันบานประตูที่แง้มอยู่ให้เปิดออกกว้าง เพื่อที่จะเข้ามาหาเธอ เจ้านี้ก็ตรงเวลาเหมือนกัน พอเธอตื่นมันก็วิ่งเข้ามานอนอยู่บนเตียงเธอ
ห้องนอนของปริ๊นเซสอยู่ติดกับห้องนอนของแดน ทั้งสองคนจะแง้มประตูห้องนอนไว้เพียงเพื่อให้บูฟฟี้สามารถเดินออกจากเตียงแดนมานอนที่เตียงปริ๊นเซสได้ เมื่อก่อนหญิงสาวเคยปิดประตูล็อกห้องอยู่หรอกนะ แต่เจ้าบูฟฟี้เล่นขูดประตูตลอดเช้าเพียงเพื่อให้มันได้เข้ามานอนกับเธอ เธอจึงยอมแพ้ความดื้อดึงของเจ้าหมาตัวยักษ์
ปริ๊นเซสครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่พักใหญ่ พอเหลือบดูนาฬิกาอีกทีก็ปาเข้าไปเกือบตีห้าแล้ว เธอได้ยินเสียงแม่ค้าหาบเร่เริ่มเดินคุยกันหน้าบ้าน อย่างที่เธอบอก ถนนแถวฝั่งธนฯนั้นแคบกว่าถนนตัดใหม่ในย่านอื่น เธอจึงต้องนอนฟังเสียงกิจกรรมยามเช้าข้างถนนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บูฟฟี้นอนหลับไปแล้ว กรนด้วย... หากพอปริ๊นเซสลุกขึ้นจากเตียงมันก็เงยหน้าขึ้นจ้องเธอ กระดิกหางเป็นพวงของมันอย่างช้า ๆ หญิงสาวไม่สนใจมัน เธอเดินออกไปผลักประตูห้องแดนให้เปิดออก แล้วตรงไปคร่อมขาลงบนสะโพกของเขา
แดนรู้ว่าเป็นเธอแต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นดูทำราวกับว่าเขาเหน็ดเหนื่อยเสียเต็มประดา ปริ๊นเซสถอดกางเกงชั้นในของเขาออก อวัยวะของชายหนุ่มตั้งตึงเป็นปกติในยามเช้าเพราะผู้ชายลามกอย่างเขาถ้าได้นอนเป็นได้ฝันถึงผู้หญิง หญิงสาวไม่รอช้า ฉวยโอกาสกดหว่างขาของเธอเข้ากับท่อนล่างของเขา ลักหลับเอาดื้อ ๆ
"อืม... ความสุขที่สุดของผู้ชายคือถูกปลุกด้วย Pussy ของผู้หญิง" เขาครางก่อนจะลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าเธออย่างอ้อยอิ่ง
"ฉันนึกว่าคุณจะด่าใส่ กะจะยั่วโมโหสักหน่อย" ปริ๊นเซสบ่นเหมือนเสียดายที่กวนโทสะเขาไม่ได้
"ผมไม่ชอบด่าผู้หญิง" เขาขยับสะโพกขึ้นลงเพื่อช่วยให้ปริ๊นเซสขับเคลื่อนตัวได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้ลมหายใจของทั้งคู่ประสานเป็นจังหวะเดียวกันจนคนที่คร่อมอยู่เหนือร่างของเขา ครางตามแรงดันของเขาภายในก้อนเนื้อของเธอ
"ทำไมผู้ชายถึงชอบให้ผู้หญิงลักหลับตอนเช้า" ปริ๊นเซสชวนเขาคุยทั้งที่เสียงสั่นพร่า เพราะไม่อยากให้เขาจบเกมเร็วจนเกินไป
"ไม่รู้สิ ตอบไม่ถูก รู้สึกดีละมั้ง" เขาตอบแล้วหลับตาเพื่อซึมซาบเอาไออุ่นจากเรือนร่างของหญิงสาว
"เพราะทำให้ฉี่ง่ายขึ้นหรือเปล่า" หญิงสาวคิดไปไกลถึงเรื่องที่แดนเคยบอกว่าเวลาตื่นขึ้นมาตอนเช้า ๆ ถ้าจู๋ยังแข็งอยู่จะฉี่ลำบาก "หรือว่าเป็นเพราะไม่ต้องพยายามทำให้มันแข็งตัว เรียกว่าเปิดประตูปุ๊บก็เสียบได้เลย" ปริ๊นเซสยังไม่เลิกสอบสวน
เธอใช้เขาเป็นแหล่งความรู้เรื่องกายภาพของผู้ชาย เธอมักถามคำถามแปลก ๆ เหล่านี้แต่เขาก็ชอบตอบเธอ เพราะมันทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลัง Sex talk กับคนรักเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศอยู่
"ผมไม่ต้อง 'พยายาม' ทำให้ตัวเองแข็งเพราะแค่ได้เห็นหน้า..." เขาเกือบจะพูดคำว่าเห็นหน้าสวย ๆ ของเธอ แต่ก็รั้งไว้เนื่องด้วยไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอกลายเป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อน "ผู้หญิง ผมก็แข็งแล้ว"
"คุณนี่มันโคตรลามกเลย" ปริ๊นเซสเบ้ปากใส่คำตอบของเขา
แดนหัวเราะแล้วใช้มือถอดเสื้อยืดที่เธอใส่นอนออกเพื่อจะได้ชื่นชมทรวงอกที่กระเพื่อมตามแรงขยับของร่างเขา เขาเอื้อมมือขึ้นขยำลงไปเบา ๆ กัดริมฝีปากแสดงอาการมันเขี้ยว
"คุณนี่แปลก ตัวเล็กแต่นมใหญ่จัง ไปทำมาหรือเปล่า" แดนถามแต่ก็อดหัวเราะออกมาในเวลาเดียวกันไม่ได้เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าทรวงอกคู่นี้ไม่ใช่ของปลอม เขาเคยจับของปลอมมาก่อน ความรู้สึกจะไม่เหมือนกัน
"ปลอมกะผีอะไร...ไปดีกว่า ไม่ให้จับแล้ว" หญิงสาวหยุดขยับแล้วผลักตัวออกจากสะโพกเขาเดินหนึเสียดื้อ ๆ จนแดนต้องรีบคว้าข้อมือเธอกลับพร้อมกับทุ่มเธอลงบนเตียงเบา ๆ แล้วเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเธอแทน
"Geezus Lady! That's not nice." เขาบ่นเธอเป็นภาษาต่างด้าว "ทำตัวให้น่ารักหน่อยสิ อย่าโหดร้ายนัก"
ชายหนุ่มขยับเข่าลงบนเตียงแล้วสอดแท่งแข็งร้อนกลับลงไปบนช่องสวาทของปริ๊นเซสอีกครั้ง เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขานอนด้วยแล้วไม่ใส่ถุงยาง ตอนที่ปริ๊นเซสบอกเขาว่าเธอกินยาคุมเขาก็เชื่อเธอสนิทใจ ผิดกับผู้หญิงคนอื่นเขาไม่เคยเชื่อ
แดนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเชื่อแต่คำพูดของปริ๊นเซส อาจจะเป็นเพราะอาชีพของเธอที่แดนรู้ว่าหญิงสาวต้องรู้จักการป้องกันตัวที่ดี หรืออาจจะเป็นเพราะเขาไม่แคร์ถ้าเขาเกิดมีลูกกับเธอเขาก็ไม่แน่ใจ
เขารู้แต่ว่าเขาเชื่อใจเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่นและปริ๊นเซสเองก็คิดเหมือนกัน เธอเชื่อใจเขามากกว่าผู้ชายคนไหน ๆ
