บทที่ 1
ภายในห้องหรูหรากว้างขวางของคอนโดมิเนียมส่วนตัวใจกลางเมืองบัลลู ซึ่งเป็นเมืองย่อยที่อยู่ติดเมืองหลวงอย่างเมืองซิย่า ภายใต้ประเทศทาเกียร์อันเป็นดินแดนทะเลทรายอันร้อนระอุ มีสองร่างที่กำลังโรมรันนัวเนียกันอยู่บนเตียงอย่างเร่าร้อน เสียงครางของสาวงามเรือนร่างสะโอดสะองนามว่าลอร่าดังกระเส่าขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจจากการปรนเปรอของชายหนุ่ม ผู้มีเรือนร่างเขย่าใจและหน้าตาหล่อเหลาดุจพระเจ้าปั้นแต่งก็ไม่ปาน
ลอร่าเป็นลูกสาวของนักธุรกิจชาวอังกฤษที่เดินทางมายังประเทศทาเกียร์ เพื่อเจรจาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้าของแบรนด์ Kshar ในประเทศของตัวเอง ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างรอคำตอบ แต่หญิงสาวกลับถูกชายหนุ่มเจ้าของแบรนด์ดังหิ้วมาปล้นสวาทจนถึงคอนโดมิเนียมส่วนตัว แน่นอนว่ามันเกิดขึ้นด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งยวดของเธอเอง
ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธชายหนุ่มรูปงามวัยยี่สิบแปดปีผู้นี้ให้เสียน้ำใจ ความเร่าร้อนจากดวงตาสีเทาดึงดูดให้ลอร่ากลายเป็นผู้หญิงใจง่าย แค่เห็นเขาแย้มยิ้มเพียงเล็กน้อย หัวใจเธอก็สั่นไหวเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และพอได้อยู่กันตามลำพัง เธอก็รู้ซึ้งทันทีว่าเขาช่างมีเสน่ห์ร้ายกาจสุดจะทานทน
ชายหนุ่มแนบริมฝีปากบดจูบเคล้าคลึงบนเรียวปากอิ่ม มือหนาสัมผัสไปทั่วร่างเปลือยงามอย่างหลงใหล เป็นครั้งที่สามแล้วสำหรับคืนนี้ ที่เขาตักตวงความสุขจากแม่สาวผมบลอนด์คนสวย ร่างกำยำพาตัวเองเข้าแนบชิด ก้มหน้าลงลิ้มชิมความนุ่มหยุ่นของทรวงสวย เรียวลิ้นตวัดไล้ปลายถันสีอ่อน พร้อมเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นเคล้นคลึงหนักหน่วง ก่อนจะบดเบียดสะโพกเข้าหาเพื่อสอดผสานสองร่างให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างลึกซึ้ง
เขาครางด้วยความพึงพอใจเมื่อถูกความคับแน่นกลางกายสาวโอบกระชับตัวตน เร่งขยับสะโพกโจนจ้วงเข้าหาคนใต้ร่างอย่างไม่ปราณี
หญิงสาวบิดกายไปมา ไฟสวาทที่โหมกระหน่ำเข้ามานั้นราวกับพายุทะเลทราย ซัดเข้าใส่รัวเร็วจนเรียกเสียงครวญครางไม่ขาดปาก
กระทั่งคลื่นความสุขแล่นวาบเข้ามาตรงหน้าท้อง ส่งผลให้ร่างบางเกร็งกระตุกและกรีดร้องเบาๆ ก่อนที่เขาจะครางเสียงดังตามมา เมื่อสามารถพากันไปแตะขอบสวรรค์ได้สำเร็จ
พ่อคนเร่าร้อนนอนหอบหายใจอยู่ไม่นานก็ลุกขึ้นจากเตียงนอน ผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ เช้านี้เขามีนัดกับพ่อแม่ของลอร่าเรื่องการตัดสินใจให้เปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าของเขาที่ประเทศอังกฤษ แม้ตอนนี้เพิ่งจะหกโมงเช้า แต่มันก็หมดเวลานอนกกกอดผู้หญิงอยู่บนเตียงแล้ว
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเข็มนาฬิกาที่ชี้นิ่งอยู่ตรงเลขเจ็ด หญิงสาวยังคงนอนหลับอุตุอยู่บนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน ชายหนุ่มกระตุกยิ้มให้กับผลงานของตัวเอง แล้วเดินไปชงกาแฟในส่วนของห้องครัว ที่คอนโดฯ ของเขาไม่มีสาวใช้บริการเหมือนเวลาอยู่ที่คฤหาสน์ฟาห์ชาร์ ซึ่งเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวในเมืองหลวงอย่างซิย่า แต่มันก็เป็นส่วนตัวดี จนเขารู้สึกว่ามันไม่ได้ทำให้ชีวิตยุ่งยากอะไร
กัฟฟาห์ ชาร์จาราห์ คือชีครูปงามแห่งเมืองซิย่า เป็นลูกชายของชีคกัสซาน ชาร์จาราห์ กับชีคคามิล่า ชาร์จาราห์
ชีคกัสซานนั้นเป็นน้องชายแท้ๆ ของท่านชีคอับดุลลา ที่เสียชีวิตไปในอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน พร้อมกับบุพการีของเขา
หลังจากนั้นเมืองซิย่าก็ตกอยู่ในการปกครองของชีคราซัค บิน อับดุลลา อัล ชาร์จาราห์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับกัฟฟาห์ ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา เมื่อช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ กัฟฟาห์ก็เพิ่งจะทิ้งงานไปเผชิญกับปัญหามากมายร่วมกับชีคหนุ่มผู้พี่ เมื่อเรื่องราวอันน่าปวดหัวจบสิ้นลง ชายหนุ่มจึงวางใจมากพอที่จะกลับมาทำงานในส่วนของตัวเองต่อไป ผลพวงจากการผ่านทุกข์ร้อนมาด้วยกัน ทำให้ทั้งคู่นั้นสนิทสนมกันแน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้น
อันที่จริงเมื่อหลายปีก่อน ชีคราซัคเคยขอให้น้องชายเข้าไปช่วยบริหารบ้านเมือง เสนอตำแหน่งสำคัญให้เลือกตามใจชอบ แต่ได้รับการปฏิเสธอย่างนุ่มนวล เพราะกัฟฟาห์คิดเสมอว่าตัวเองเหมาะกับการเป็นคนธรรมดามากกว่า เขาเป็นคนหัวสมัยใหม่ ใฝ่ฝันอยากประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอเพียงสมบัติที่ได้รับตกทอดมาจากบุพการี และไม่อยากใช้ชีวิตวุ่นวายขาดอิสรภาพ
ชายหนุ่มจึงตัดสินใจแยกตัวมาอยู่เมืองใกล้เคียง เพื่อทำธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์เนมชื่อดัง ซึ่งตัวเขาลงทุนเป็นนายแบบให้กับแบรนด์ของตัวเอง
ภาพลักษณ์อันสง่างามหรูหราราวกับเจ้าชายในฝัน ทำให้ธุรกิจนี้เป็นที่โด่งดังและส่งผลให้เขากลายเป็นที่รู้จักมากมาย สื่อต่างๆ พากันให้ความสนใจเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของเขาเป็นอย่างมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งการถูกทาบทามให้ไปเป็นดาราหรือนายแบบ แต่ชายหนุ่มปฏิเสธทั้งหมด เพราะพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่แล้ว สิ่งเดียวที่เขารู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่มีวันอิ่มเอม เห็นจะเป็นเพียงเรื่องผู้หญิงเท่านั้น
เจ้าชู้ เร่าร้อน และต้องได้ในทุกสิ่งที่ต้องการ...นั่นคือคำนิยามของกัฟฟาห์
หลังจากนั่งละเลียดกาแฟร้อนหอมกรุ่นจนหมดแก้ว ชายหนุ่มก็ออกไปจากห้อง ลงไปยังลานจอดรถที่มีสารถีคู่ใจซึ่งควบตำแหน่งบอดี้การ์ดอย่าง ‘จามาล’ รออยู่ก่อนแล้ว ฝ่ายนั้นโค้งศีรษะลงทำความเคารพ แต่กัฟฟาห์โบกมืออย่างรำคาญ เขาไม่ชอบการมีพิธีรีตอง บอกอยู่เสมอว่าให้ทำตัวตามสบายเหมือนเพื่อนกัน แต่จามาลคุ้นเคยกับธรรมเนียมปฏิบัติจนไม่เคยชินที่จะทำตัวล่วงล้ำเจ้านายนัก
“วันนี้ท่าน...เอ่อ คุณกัฟฟาห์จะกลับเมืองซิย่าไหมครับ”
