บทที่5
“อ้อ..แล้วฉันจะบอกให้เธอรู้ไว้อย่างนะ เผื่อเธอจะไม่รู้”
“….”
“ตระกูลวรรณศิลป์ไม่มีทางยอมรับ..ผู้หญิงที่เคย..” เสียงหวานกระซิบข้างหู ก่อนจะปรายตามองไล่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ขายตัว..เข้าร่วมวงศ์ตระกูล”
เพียะ
ใบหน้าเล็กสะบัดตามแรงที่กระทำ สร้างความตกใจให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนางสาลี่ที่เห็นลูกสาวแท้ๆ ถูกตบ ส่วนผีพนันแก่รีบเข้าไปดึงลูกสาวตัวปลอมออกห่างทันที
“หน๊อย อีลูกนอกคอก แกกล้าตบลูกฉัน” คนเป็นแม่ผู้เลี้ยงดูมาหลายปีกล่าว มือเหี่ยวย่นตามวัยเข้าไปประคองลูกสาวตัวจริง ก่อนจะฟาดหน้าลูกสาวตัวปลอม
เพียะ
“นี่แม่ตบน้องเหรอคะ?” คนหน้าสวยถามเสียงสั่น
“เออ..มึงอยากทำร้ายลูกกูทำไมล่ะ!!”
“ฮึก..แม่แม่งโคตรใจร้ายเลย ฮึก..ทำไมแม่ทำกับน้องแบบนี้”
“แกมันไม่ใช่ลูกฉัน..เลิกเรียกฉันว่าแม่ได้แล้ว”
ทั้งเรื่องจงใจสลับตัวเด็ก และอีกในหลายๆ เรื่องในชีวิตที่พาให้เธอถึงจุดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ หญิงแก่ตรงหน้าราวหลุดออกมาจากนรกไม่มีผิด
หล่อนเจ็บซ้ำ..เจ็บซาก...ทุกๆ อย่างที่ทำล้วนแต่ทำเพื่อพวกเขาทั้งนั้น แล้วดูซิหล่อนได้อะไรกลับมา
ดวงตาคู่สวยที่แดงช้ำอยู่แล้วบัดนี้แดงก่ำจนเห็นเส้นเลือดฝอย
แตกสลายซ้ำไปซ้ำมา..มันเป็นแบบนี้เอง
เสียงหัวเราะเคล้าน้ำตาดังลั่นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่..บ้านที่หล่อนทุ่มเทหาเงินซื้อมันมาเพื่อให้ครอบครัวได้มี 'ชีวิตที่ดีขึ้น'
เงินทุกบาททุกสตางค์ไม่เคยได้ใช้เพื่อตัวเอง แม้แต่ศักดิ์ศรี..ลูกชาย..ร่างกายล้วนแต่เสียสละเพื่อแค่คำว่า 'กตัญญู'
“ฮึก..ฮ่าๆ ตลกนะคะ โคตรตลกเลย”
“อีบ้า แกบ้าไปแล้วเหรอนังน้อง” คนเป็นแม่ชี้นิ้วด่า เสียงหัวเราะเคล้าน้ำตาน่าสมเพชเหมือนคนบ้าชวนขนลุกนัก
“บ้า? ใช่..หนูมันโคตรบ้าเลย ฮึก..ทั้งบ้าทั้งโง่ หนูเคยสงสัยมาตลอดทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่เคยรักหนูเลย”
“….”
“วันนี้หนูถึงได้รู้..พวกคุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหนูไม่ใช่ลูกแท้ๆ ทำไมคะ? ศีลธรรม..มโนธรรม..จิตสำนึกไม่มีกันบ้างหรือยังไง”
“อีน้องนี่..มึงด่าพวกกูเหรอ” คนเป็นแม่ปลอมชี้นิ้วด่า
“ก็มันจริงนี่ค่ะ ครอบครัวพวกคุณมันไม่ต่างจากพวกขี้ขโมย…แล้วก็..ฮึก…ยิ่งกว่าปลิงดูดเลือดอีก!”
“อี…”
“แต่ว่า..หนูก็ยังหน้าโง่..ทำเรื่องโง่ๆ ทำทุกอย่างตามที่พวกคุณขอ..ทั้งๆ ที่พวกคุณไม่เคยคิดว่าหนูเป็นลูกอีกคนด้วยซ้ำ...แม้แต่ตอนนี้หนูก็ยังหวังว่าเรื่องทั้งหมดคือเรื่องโกหก ฮึก..ส่วนเธอ..เธอมันก็เหมือนครอบครัวแท้ๆ ของเธอนั่นแหละ อีพวกสันดานกาฝาก” ประโยคหลังหันไปต่อว่าไฮโซสาวที่ยื้อแย่งทุกอย่างจากหล่อนไป
“อีน้อง…แกด่าใครว่ากาฝาก?” ไฮโซสาวจอมแอ๊บใสแทบเต้นเมื่อเจอคำจี้ใจดำ มือเรียวผลักทายาทตัวจริงจนร่างอรชรอ้อนแอ้นเซไปกระแทกโซฟาที่อยู่ด้านหลัง
อารมณ์คั่งค้างจากการโดนไถเงินประกอบกับอารมณ์เก็บกดจาก ‘สถานะ’ ที่ดำรงอยู่ส่งผลให้ไฮโซสาวขึ้นควบร่างอีกฝั่งทันที แรงมีเท่าไรฟาดใส่หญิงสาวด้านล่างเพื่อระบายอารมณ์
โดยลืมคิดไปว่าดีชั่วยังไงขนิษฐาคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอไว้
คนอายุมากกว่าเองพยายามใช้แรงสู้กลับ แต่เนื่องจากร่างกายที่ทรุดโทรมประกอบกับพึ่งผ่าคลอดลูกทำให้เรี่ยวแรงหดหายเสียเปรียบเป็นอย่างมาก
ดวงตาคู่สวยร้าวรานขอความช่วยเหลือถูกส่งไปให้บิดามารดาที่เลี้ยงตนมาตั้งแต่เกิด ทว่าสิ่งที่ได้รับคือท่าทางเฉยเมยเย็นชา
นี่..นะเหรอ ครอบครัวที่หล่อนทุ่มเททั้งชีวิตให้
ขนิษฐาหันไปต่อว่า ในขณะที่มวยผมถูกจิกขึ้น
“ฮึก..หยุดเดี๋ยวนี้นะ เธอมันบ้าไปแล้ว”
“เพราะแก..ถ้าแกตายไปสักคน..ชีวิตฉันก็ไม่ต้องคอยนอนผวา” ธารินยิ่งพูดยิ่งคลั่ง น้ำหนักมือที่ลงกับหญิงสาวตรงหน้ายิ่งนานยิ่งเพิ่มความแรง
ความกลัวสูญเสียและไม่มั่นใจในตนที่แฝงอยู่ในใจลึกๆ สะท้อนผ่านดวงตา..ชั่ววูบเมื่อคิดได้ว่าถ้าคนตรงหน้าไม่อยู่แล้ว..ความเสี่ยงที่จะสูญเสียสถานะจะกลายเป็นศูนย์ ส่งผลให้ร่างกายคว้าที่ทับกระดาษซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างโซฟาขึ้นมาฟาดยังไร้สติ
ผลัวะ ผลัวะ
“แกต้องตายนังน้อง..แกต้องตาย”
