ตอนที่5
นักศึกษาชั้นปีสุดท้ายที่ใกล้จะจบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่จะได้ก้าวสู่วัยทำงานอย่างเต็มตัวซึ่งบางคนมีกิจการของที่บ้านรองรับ ส่วนบางคนก็ต้องพยายามค้นคว้าหาสิ่งที่ตัวเองถนัดอย่างเช่นเธอที่ไม่รู้ว่าหากเรียนจบไปแล้วจะไปทำงานอะไร
“ริสา ถ้าเรียนจบแล้วเธอจะไปสมัครงานที่ไหนเหรอ”
“ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็คงเลือกบริษัทเล็กๆ นั่นแหละ”
“ทำไมล่ะ ผลการเรียนแบบเธอยื่นเข้าบริษัทใหญ่ๆ ยังได้เลยนะ”
“ฉันไม่มั่นใจน่ะ แล้วหนูนิดล่ะมีบริษัทในใจหรือยัง” อัญริสาเอ่ยถามเพื่อนในกลุ่มไม่ค่อยสุงสิงกับใครพอๆ กับเธอ
“ที่จริงก็มีบริษัทที่อยากไปอยู่นะแต่คงไม่ได้หรอก คุณแม่ให้ช่วยงานที่บ้านน่ะ” นิราตอบด้วยใบหน้าซึมๆ เธอมีบริษัทที่อยากทำงานด้วยมากๆ ที่หนึ่ง แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะนั่นคือบริษัทคู่แข่งของครอบครัวเธอ ทว่าเธอไม่เคยบอกใครว่าที่บ้านทำธุรกิจอะไรเพราะไม่อยากดูเหมือนคนอวดรวยเกินไป
“ได้ทำงานกับที่บ้านดีออกจะตาย” อัญริสารู้สึกน้อยใจนิดๆ ที่ตอนนี้เธอไม่มีคนในครอบครัวที่พึ่งพาได้เลย แม่ของเธอก็ตัดขาดความเป็นแม่ลูกไม่ติดต่อหาเธอเลยสักครั้ง ส่วนพ่อแท้ๆ ก็ไปมีครอบครัวใหม่ลืมเธอไปเสียสนิท
“ไม่ดีเลยสักนิด ทำงานกับที่บ้านเหนื่อยมากกว่าอีก”
“แต่ก็ดีที่ไม่ต้องลุ้นว่าบริษัทจะรับหรือเปล่านี่นา”
“เรื่องนั้นมันก็จริง แต่ฉันก็อยากทำที่อื่นอยู่ดีแหละ เฮ้อ” นิราถอนหายใจเฮือกใหญ่หลายคนอิจฉาชีวิตเธอที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน แต่ตัวเธอก็ไม่ได้ชอบสิ่งที่ตัวเองเป็นขนาดนั้น
อัญริสานั่งมองโทรศัพท์ที่ไร้การติดต่อจากใครไม่มีสายโทรเข้า ไม่มีข้อความ ไม่มีแม้แต่การแจ้งเตือนใดๆ และเธอก็ไม่กล้าเป็นฝ่ายติดต่อไปหาเขาก่อน ถึงจะแค่อยากส่งข้อความไปถามไถ่เขาก็กลัวเขาจะรำคาญจึงทำได้แค่นั่งอ่านข้อความเก่าๆ ที่เขาเคยส่งมาเท่านั้น
“ริสา วันนี้ไปกินซูชิกันไหม มีร้านเปิดใหม่ฉันอยากลองน่ะ”
“มีใครไปบ้างเหรอ?” อัญริสาลองเกริ่นถามก่อนเพราะไม่ค่อยสะดวกใจหากเพื่อนอีกสองคนไปด้วย
“ก็หลายคนอยู่นะ ฉันกับเธอแล้วก็เธอฉัน คิกๆ” นิราหัวเราะคิกคักเพราะรู้ว่าอัญริสาก็ไม่ค่อยชอบเพื่อนอีกสองคนเช่นกัน แต่ที่อยู่กลุ่มเดียวกันนั่นก็เพราะต้องทำงานร่วมกัน
“ถ้างั้นไปก็ได้ วันนี้ฉันว่าง”
“ฉันรู้ว่าเธอว่างเลยชวนนี่ไง มีแค่วันศุกร์ที่เธอไม่ว่าง”
“คิกๆ มันเป็นวันพิเศษน่ะ”
“มีพิรุธนะ แอบมีแฟนหรือเปล่าเนี่ย”
“แฟนอะไรล่ะ ไม่มีหรอก” อัญริสารีบตอบกลับทันควัน สถานะของเธอกับชานนท์เรียกแฟนกันไม่ได้เพราะเขาไม่เคยให้สถานะกับเธอ ถ้าเรียกให้ถูกคงเป็นแค่คู่นอนชั่วคราวเท่านั้น
“เธอไม่ว่างทุกวันศุกร์จนยัยสองคนนั้นคิดว่าเธอเป็นเด็กเสี่ยแล้วนะ”
“ใครจะคิดอะไรก็ปล่อยเขาเถอะ” สิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้ก็แทบจะไม่ต่างจากที่คนอื่นเข้าใจ นอนกับผู้ชายแลกความสบายถ้าเรียกให้ถูกก็คือการขายตัวแลกเงิน เป็นของเล่นคลายเหงาให้คนรวย
อัญริสาและนิราตกลงที่จะไปกินซูชิกันตามที่คิดไว้เมื่อถึงร้านคนที่เอ่ยปากชวนมาก็จัดการสั่งให้เสร็จสรรพโดยที่อัญริสาเองก็ไม่ขัดเพราะเธอก็ไม่ค่อยถนัดการมากินที่ร้านเช่นกัน
“ถ่ายรูปส่งให้ใครเยอะแยะหนูนิด” เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อนที่ถ่ายรูปอาหารตั้งแต่จานแรกที่มาเสิร์ฟจนถึงจานสุดท้ายที่ถูกวางบนโต๊ะ
“ส่งให้พี่ชายน่ะ ฉันชวนพี่หลายครั้งแล้วแต่ไม่ว่างสักที ชิ!” นิราน้อยใจที่พี่ชายไม่มีเวลาว่างให้เธอเลยจึงแกล้งส่งไปประชดพี่ชายตนเอง
“เธอมีพี่ชายด้วยเหรอ ไม่เห็นเคยรู้เลย”
“อืม มีสิแต่อายุห่างกันเยอะอยู่นะ”
“น่าอิจฉาจัง บ้านเธอต้องเป็นครอบครัวที่อบอุ่นแน่ๆ” คนที่บ้านมีครอบครัวให้กลับไปหาน่าอิจฉาสำหรับคนที่ไม่มีใครคอยเป็นห่วง การอยู่ตัวคนเดียวทั้งเหงาและโดดเดี่ยวแต่เธอก็ชินกับมันเสียแล้ว
“วันหลังเธอไปกินข้าวที่บ้านฉันไหม แม่ฉันทำอาหารอร่อยมากเลยนะ”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่รบกวนดีกว่า”
“รบกวนอะไร เธอเป็นเพื่อนฉันนะในบรรดาเพื่อนทั้งหมด ฉันสบายใจตอนอยู่กับเธอที่สุดแล้ว” เพราะนิสัยคล้ายๆ กันจึงไม่ค่อยเกร็งไม่ต้องแสร้งพยายามจนไม่เป็นตัวเอง แต่ด้วยความที่พูดน้อยด้วยกันทั้งคู่ทำให้ทั้งสองคนไม่ค่อยได้คุยกันมากนัก
“ขอบคุณนะ ว่าแต่พี่ชายเธออายุห่างกับเธอกี่ปีเหรอ”
“เก้าปี อันที่จริงฉันเป็นลูกหลงน่ะ”
“งั้นพี่ชายเธอก็อายุสามสิบแล้วสิ”
“อืมใช่ เดือนหน้าก็วันเกิดพี่ฉันแล้ว วันไหนว่างๆ เธอไปช่วยฉันเลือกของขวัญให้พี่หน่อยสิ ฉันไม่รู้จะให้อะไรน่ะ” นิราถือโอกาสชวนเพื่อนไปช่วยเลือกของขวัญวันเกิดให้พี่ชาย
“ได้สิ”
“เธอตกลงแล้วนะ ห้ามเทล่ะ”
“จ้ะ ไม่เทแน่นอน”
ทั้งคู่พูดคุยแลกเปลี่ยนคำถามกันไปมาตลอดมื้ออาหาร แต่จนแล้วจนเล่าอัญริสาก็ไม่รู้ว่าครอบครัวของนิรามีกิจการอะไร เธอไม่กล้าถามเพราะดูเหมือนก่ายก้าวเรื่องส่วนตัวของเพื่อนมากเกินไป
“ฉันเลี้ยงเอง”
“ไม่ได้ มากินด้วยกันก็ต้องหารกันสิ” อัญริสารีบทักท้วงพร้อมกับเตรียมจะยื่นเงินส่งให้เพื่อน
“ก็บอกว่าจะเลี้ยงไง ครั้งหน้าเธอเลี้ยงฉันคืนแล้วกัน” ว่าจบก็ยื่นบัตรเครดิตส่งให้พนักงานทันทีไม่สนใจคำทักท้วงของเพื่อน
“ก็ได้ ครั้งหน้าฉันเลี้ยงนะ”
“อืม ฉันจะกินให้เยอะๆ เลย”
หลังจากจ่ายเงินเสร็จนิราอาสาขับรถไปส่งอัญริสาที่บ้าน แต่เธอจำเป็นต้องปฏิเสธเพราะชานนท์เคยส่งว่าห้ามให้ใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน อัญริสาที่เชื่อฟังมาโดยตลอดจึงขอกลับเอง
