ตอนที่หนึ่ง
5 ปีต่อมา
ตุบ!!
เสียงตบโต๊ะดังลั่นแสดงให้เห็นถึงอารมณ์คนโกรธ ตามมาด้วยน้ำเสียงที่ตะเบ็งด่าลูกน้องในการดูแลของตัวเองจากทีมช่างใหญ่ของบริษัท
"คุณจะบ้าหรอห้ะ!! คิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหนถึงได้กล้าคิดโปรเจ็กไปเสนอหัวหน้า!!" ฟลุ๊คก้มหน้าแล้วปล่อยให้ตาแก่ผมหงอกตรงหน้ากร่นด่าเขาต่อไป
"อย่าคิดว่าตัวเองเก่งให้มันมากนักนะ กับอีแค่ป.ตรีใครๆ เขาก็จบกันทั้งนั้น เกียรตินิยมที่คุณได้มามันก็แค่กระดาษแผ่นเดียว!!"
พรึบ!!
เอกสารวิจัยทั้งหมดที่ฟลุ๊คทุ่มเทเวลากว่าสามเดือนศึกษาถูกปากลับคืนมาจนถูกใบหน้าของเขา ฟลุ๊คไม่โต้ตอบอะไรแม้ในใจของเขามันจะครุ่นมัวแค่ไหนก็ตามที
"ออกไปซะ!!" ร่างสูงก้มลงเก็บกระดาษเงียบๆ ก่อนจะเดินออกมา เหล่าพนักงานมากมายที่คอยสมน้ำหน้าเขาต่างก็หัวเราะชอบใจที่เห็นเขาถูกด่า.....
ทำไมเขาถึงได้ตกต่ำขนาดนี้นะ
เพราะที่บ้านเป็นหนี้หลายสิบล้านทำให้กำหนดการไปเรียนต่อต่างประเทศที่ตั้งใจต้องจบลงและหางานทำ จบวิศวะดีกรีนักเรียนเกียรตินิยมแต่กลับถูกย้ายมาทำงานในบริษัท ทำงานออฟฟิศที่มีแต่เอกสาร เขาไม่เถียงหรอกเรื่องเงินเดือน สวัสดิภาพ กับงานที่แค่พิมพ์ข้อมูล ยืนยันคำสั่งจากลูกค้าไปวันๆ แต่ได้เงินเดือนสี่ห้าหมื่นมันดีแค่ไหน แต่โอกาสในการก้าวหน้าไม่มี หัวหน้าก็เฮ็งซวยเห็นใครดีใครเก่งก็จ้องจะหาเรื่อง เพื่อนร่วมงานก็ไม่ชอบหน้าเพราะเขาถูกย้ายมาจากเหตุผลว่าคนไม่พพอและสามารถหาลูกค้าสาวๆ ที่หลงเสน่ห์เขาไม่ได้ใช้ความสามารถจริง
หึ....ทำงานแทบตาย แต่ถูกนินทาว่าไปหลอกลูกค้าสาวๆ มาทำสัญญา.... สังคมที่เอาแต่ชิงดีชิงเด่น ไม่พอใจใครไม่ชอบใครก็จับกลุ่มนินทา วิพากย์วิจารณ์คนอื่นไปทั่วโดยไม่ดูสารรูปตัวเอง
ไอ้พวกผีเน่า
อยากจะย้ายออกจากบริษัทนี้ แต่เพราะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ถ้าลาออกตอนนี้คงอีกหลายเดือนกว่าจะหางานได้ อีกอย่างเขาน่ะ นอกจากหนี้สิบล้าน นอกจากพ่อและแม่ที่ต้องดูแล เขายังต้องดูแล.....ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ด้วย
ตุบ!
ฟลุ๊คโยนเอกสารทั้งหมดทิ้งลงกองขยะรีไซเคิลและเอาความโกรธไปทิ้งพร้อมกันโดยการเดินเข้ามาในห้องน้ำ ร่างสูงกำหมัดแน่นระบายอารมณ์โกรธ อยากจะระบายเรื่องนี้ให้ใครสักคนฟังแต่ถ้าเอาเรื่องนี้ไปพูดกับเพื่อนทุกคนต้องยื่นมือช่วยเหลือเขาแน่....เขายังไม่อยากเป็นคนอ่อนแอที่รอรับการช่วยเหลือ.....
"กูจะต้องออกจากที่เฮ็งซวยนี่ให้ได้" ฟลุ๊คให้คำมั่นสัญญา ร่างสูงทำใจให้อารมณ์เย็นลงก่อนจะกลับมาทำงาน เตรียมเอกสารสำหรับจะนัดคุยกับลูกค้าวันนี้ รายละเอียดของลูกค้าที่ฟลุ๊คได้มาทีน้อยมากถ้าเทียบกับลูกค้าคนอื่น เพราะเป็นลูกค้าใหม่ที่ทำการค้าขายครั้งแรก แต่แม้แต่หน้าก็ยังไม่เคยเห็นงานนี้ขอให้เป็นไปด้วยดีเถอะไม่งั้นเขาคงถูกไอ้แก่นั่นด่าอีกรอบแน่
หลังจากเตรียมเอกสารฟลุ๊คก็มาที่โรงแรมที่ได้นัดเอาไว้ ห้องอาหารสุดหรูถูกจัดการอย่างเป็นระบบ
"ฟลุ๊คครับ ที่จองไว้" ฟลุ๊คเดินนำพนักงานไปที่โต๊ะของตัวเองและถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงยอดที่ต้องทำให้ได้
ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้ลูกค้าคนนี้ตกลงเซ็นต์สัญญาให้ได้เพราะลูกค้าคนนี้สนใจสินค้าของบริษัทจำนวนมาก..... ไม่ว่ายังไง...
"ขอโทษนะครับ คุณฟลุ๊คใช่มั้ยครับ?" ร่างสูงเงยหน้ามองผู้ชายร่างเล็กที่ยืนอยู่หน้าทางเข้า ฟลุ๊คลุกขึ้นยืนก่อนจะพยักหน้า
"ครับ คุณมินใช่มั้ยครับ"
"ขอโทษนะครับที่มาสาย ผมทำให้คุณรอนานรึเปล่า" อีกฝ่ายรีบนั่งลงตรงข้ามก่อนจะขยับแว่นไปมา
"เปล่าครับผมก็เพิ่งมา ที่จริงยังไม่ถึงเวลานัดเลย"
"พอดีผมวุ่นๆ กับเส้นทางน่ะครับเพิ่งกลับมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน"
"ปกติไม่ได้อยู่ที่นี่หรอครับ"
"เปล่าครับๆ ผมอยู่กับแฟนที่ต่างประเทศ แต่ตอนนี้เขาย้ายมาบริหารงานที่นี่....เราสั่งอะไรสักหน่อยดีมั้ยครับ คือว่าผม...แหะๆ ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า" คนตัวเล็กยิ้มแหยะ ท่าทีน่ารักน่าเอ็นดูของลูกค้าทำให้ฟลุ๊คคลายความเครียดลง
"เชิญครับๆ" หลังจากสั่งอาหารระหว่างรอฟลุ๊คก็จ้องมองคนตัวเล็กที่มองนั่นมองนี่ไปมา
"ขอโทษนะครับที่อาจจะเสียมารยาท คุณมินนี่น่ารักจังนะครับ" มินชะงักก่อนจะยิ้มออกมา
"ไม่เป็นไรครับ คุณฟลุ๊คก็หล่อมากนะครับเนี่ย...จะว่าไป หน้าคุ้นๆ นะครับ"
"จะคุ้นได้ยังไงล่ะครับคุณมินอยู่ต่างประเทศไม่ใช่หรอ"
"ที่จริงผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็กนั่นแหละครับ จนเรียนจบป.ตรีก็หมั้นกับแฟนแล้วย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศ"
"ดีจังนะครับผมก็ตั้งใจจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแต่มีอะไรผิดพลาดนิดหน่อยเลยต้องมาทำงานที่นี่" ฟลุ๊คหัวเราะออกมาอย่างผ่อนคลาย คนตัวเล็กได้ยินเรื่องงานก็นึกขึ้นมาได้
"จริงด้วยครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งคุณฟลุ๊คครับ กระทันหันไปหน่อยแต่ผมก็เพิ่งได้รับเรื่องมาเมื่อเช้า....ผมจะบอกคุณฟลุ๊คว่า..." ฟลุ๊คนิ่งรอฟังอย่างตั้งใจเพราะกลัวจะถูกปฏิเสธแต่ว่า...
"ผมจะขอเพิ่มจากที่ตกลงกันไว้ว่าจะส่งอะไหล่หนึ่งหมื่นชิ้น จะเพิ่มเป็นหนึ่งหมื่นสองพันชิ้นจะได้มั้ยครับ"
"ได้ครับ!!" ฟลุ๊ครีบตกลง มินถอนหายใจอย่างโล่งอก
"เห้อออ ผมก็นึกว่าจะไม่ได้ ตอนนี้ที่โรงงานเรามียอดผลิตสูงมากเลยครับ นี่ถ้าไม่ได้บริษัทคุณฟลุ๊คหาอะไหล่ให้ผมกับแฟนก็คงไม่รู้จะไปเอาที่ไหน"
"ยินดีมากเลยครับ จะเพิ่มอีกก็ได้" ทั้งสองหัวเราะออกมา
"ผมก็ลุ้นนึกว่าจะไม่เอา ผมไม่ค่อยได้ทำสัญญากับลูกค้าใหม่น่ะครับค่อนข้างกลัวมากเลยเพราะเจ้านายผมดุ"
"เอาแน่ครับเอาแน่ แฟนของผมเขาศึกษามาแล้วครับว่าบริษัทคุณมีคุณภาพ อ๊ะ...อาหารมาพอดี ผมกำลังหิวเลย ผมขอทานก่อนเซ็นต์สัญญาได้มั้ยครับ"
"ได้ครับ! ได้แน่ เชิญครับ" ฟลุ๊คพูดด้วยความดีใจ....ได้ยอดเพิ่มอีกตั้งสองพัน โบนัสก็เพิ่ม ค่าคอมมิชชั่นก็เพิ่ม กลับไปถึงจะถูกนินทาแต่คงไม่ถูกไอ้แก่นั่นบ่นแน่ๆ...คิดแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
"เอ่อคุณมินครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ"
"ครับๆ ถ้าผมตอบได้ผมก็จะตอบครับ"
"บริษัทของคุณมินนี่เป็นบริษัทที่เพิ่งเปิดใหม่หรอครับ"
"ใช่ครับ ผมกับแฟนลงทุนร่วมกันมาเปิดบริษัทและโรงงานนี้ เราทำงานกันหนักมากและไม่คิดว่าจะมียอดสั่งสูงขนาดนี้ เกินคาดมากครับ"
"เก่งจังเลยนะครับ ดูแล้วคุณมินน่าจะอายุน้อยกว่าผมอีก"
"หืมม ผมว่าไม่นะครับ ผมอายุยี่สิบหก"
"ฮ่ะๆ ผมยี่สิบแปดแล้วล่ะครับ"
"จริงหรอครับ คุณดูเด็กอยู่เลย อ๊ะ...ผมเรียกพี่ฟลุ๊คได้มั้ยครับ ต่อไปเราคงได้ทำงานกันอีกนาน"
"ได้ครับ"
"พี่ฟลุ๊คก็เรียกมินว่ามินปกติได้นะครับ แบบนี้ดีกว่า สบายๆ ดี"
"อ่า...ครับ มิน" ทั้งสองคนหัวเราะกันเล็กน้อย ฟลุ๊คกับมินทานอาหารไปพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ นาๆ จนกลับมาที่เรื่องของหน้าที่การงานอีกครั้ง
"ผมจบวิศวะมาครับ แต่ถูกย้ายมาเป็นเซลล์ทำงานออฟฟิศ แล้วผมก็ขายงานให้ลูกค้าได้เยอะด้วยทำให้ถูกดึงไว้ที่นี่ ผมอยากไปทำงานช่างนะครับ บอกตรงๆ งานบริหารไม่ค่อยเหมาะกับผมเท่าไหร่"
"ไม่ต่างกับแฟนของผมเลยครับ รายนั้นจบวิศวะมาแต่มาบริหารธุรกิจซะงั้น แตกกันที่เขาชอบครับเพราะเวฟน่ะชอบทำงานแบบนี้" ฟลุ๊คชะงัก
"เวฟ...ผู้ชายหรอครับ?" มินนิ่งไปก่อนจะพยักหน้า ตอบอ้อมแอ้ม
"ครับ....ผะ...ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย พี่ฟลุ๊คจะโอเค..."
"ดีจังเลยนะครับ!" ฟลุ๊คพูดออกมาด้วยความชื่นชอบ
"อายุก็ยังน้อย แต่ประสบความสำเร็จมีบริษัทเป็นของตัวเอง มินไม่ต้องกังวลเลยนะว่าใครจะมองว่ายังไง เราต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ!" มินยิ้มกว้างทันที
"ดีจังที่พี่รับได้ ผมน่ะไม่ค่อยได้เจอคนแบบนี้ ถ้าไม่รังเกียจก็เฉยชาไปเลย.....รู้สึกดีจัง" ฟลุ๊คยิ้มอย่างเอ็นดู
"เมื่อก่อนผมก็เคยคบ....." มินมองร่างสูงที่นิ่งไป แววตาฟลุ๊คฉายให้เห็นความเศร้าขึ้นมาทันที คนตัวเล็กไม่รู้จะทำยังไงเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
"ของหวานมั้ยครับ?"
"อ่ะ...เอ่อ..ครับ" เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ หลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสองก็เดินมาที่ชั้นดาดฟ้านั่งชมบรรยากาศ มินอ่านสัญญาอย่างละเอียดครบทุกตัวอักษร ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามร่างสูง ฟลุ๊คชอบคนแบบนี้ คนที่จริงจังกับงานแต่อยู่ด้วยแล้วไม่เครียด ระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังอ่านร่างสัญญาก็มีเสียงเรียกเข้าโทร.มาพอดี มินออกจากโต๊ะเดินไปรับสายก่อนจะเดินกลับมา
"แฟนผมมารับแล้วครับ เขากำลังขึ้นมา พอดีเลยพี่ฟลุ๊คจะได้รู้จักแฟนผมคนที่บริหารงานทุกอย่าง ยังไงผมให้เขาตรวจสอบสัญญาแทนผมอีกรอบได้มั้ยครับ"
"ได้เลยครับ เป็นเกียรติมากที่จะได้พบ" ฟลุ๊คเริ่มเกร่งอีกครั้ง ร่างสูงมองประตูดาดฟ้าที่ค่อยๆ เปิดออก จะเป็นคนแบบไหนนะ คนเย็นชา ขี้เล่น น่ากลัว หรือตรรกะป่วยแบบไอ้หัวหน้าเวนนั่น....
ประตูชั้นดาดฟ้าถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างสูทในชุดสูทเต็มยศอย่างสง่าผ่าเผย ฟลุ๊คมองรองเท้าหนังเรียบเงาราคาแพงก่อนจะกวาดสายตามองขึ้นมาเรื่อยๆ ชายตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้และใกล้พอที่จะให้เขาเห็นหน้าได้อย่างชัดเจน
ตุบ
เอกสารตกหล่นเสียงดังเพราะถูกปัดออก ฟลุ๊คเบิกตากว้างมองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า
100%
#โปรดติดตามตอนต่อไป...
