บท
ตั้งค่า

ฉ่ำรัก ที่ 1 บุปผางามในหอนางโลม

ฉ่ำรัก ที่ 1

บุปผางามในหอนางโลม

นังผู้หญิงแพศยา!

พลันความสนใจในตัวชายลึกลับก็จางหาย เมื่อม่านสีขาวถูกปิดลงพร้อมกับตะเกียงบางดวงที่ทอแสงอ่อน ส่งผลให้ชั้นสองของหอนางโลมเหม่ยซิงตกอยู่ในความสลัวเลือนรางราวกับจมอยู่ในห้วงแห่งความฝัน

ทุกคนเงียบกริบจ้องมองไปบนเวทีอย่างรอคอยจนแทบได้ยินเสียงกระพือปีกของเหล่าแมลงยามค่ำคืนที่กำลังล้อเล่นกับเปลวไฟ

เสียงกู่เจิงดังขึ้นแผ่วเบาเป็นท่วงทำนองแสนเศร้า บีบรัดหัวใจคนฟังจนรับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าของผู้บรรเลง เสียงดีดสายที่ขึงตึงสูงต่ำสลับไปมาอย่างช้าๆ ยิ่งฟังยิ่งให้ความรู้สึกอึดอัดราวกับกำลังจมลงสู่ก้นบึ้งมหาสมุทร

‘น้ำตามหาสมุทร’

ชายชุดดำนิ่วหน้าไม่คิดว่าหญิงแพศยาผู้มีจิตใจเหี้ยมโหดจะเลือกบรรเลงบทเพลงที่ลึกซึ้งเช่นนี้ บทเพลงที่พร่ำพรรณนาถึงความรัก ความหวัง และศักดิ์ศรี ที่ถูกความพลัดพรากฉุดกระชากให้มลายหายสิ้น เหลือทิ้งไว้เพียงหยาดน้ำตา ที่หลั่งไหลไม่หยุดจนกลายเป็นมหาสมุทรที่กว้างใหญ่

ใช่ว่าใครจะบรรเลงเพลงนี้ได้อย่างลึกซึ้ง น้อยคนนักที่จะบรรเลงบทเพลงนี้แล้วทำให้คนฟังรู้สึกโศกเศร้าจนหลั่งน้ำตา

ทว่าหญิงแพศยาผู้นี้ทำได้!

แน่ละ! นางทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งคร่าชีวิตของคนที่รักนางมากที่สุด นางก็ลงมือทำได้อย่างเลือดเย็นมาแล้ว

ชายชุดดำกำจอกสุราในมือเอาไว้แน่น ดวงตากร้าวแดงก่ำเมื่อคิดถึงความพลัดพรากที่เขาเพิ่งได้ประสบ ในเมื่อคนตายไม่อาจทวงความยุติธรรม เขานี่แหละจะเป็นผู้ทวงคืน! เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้หญิงแพศยาคนนี้เจ็บปวดเจียนตายทั้งที่ยังมีลมหายใจ

‘ข้าสัญญา! ข้าจะทำให้นางต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ข้าจะทำให้นางต้องหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายเลือด!’

ม่านสีขาวค่อยๆ เปิดออกเผยให้เห็นหญิงงามในชุดสีแดงเลือดนกขับให้ผิวขาวยิ่งผุดผาดชวนมอง นางนั่งอยู่กลางเวทีกำลังดีดนิ้วลงบนเส้นสายด้วยท่าทางพลิ้วไหวประดุจใบไผ่ที่กำลังลู่ลม ชุดของนางลากยาวแผ่ออกโดยรอบคล้ายกลีบเหมยกุ้ยบานฉ่ำ

ผมของนางนั้นยาวจนระไปกับพื้น ดวงหน้ามน แพขนตางามงอน จมูกเรียวเล็กเชิดรั้นนิดๆ รับกับริมฝีปากสีชาดอวบอิ่มน่าหลงใหล

นางงดงามปานจะล่มเมือง...

บุรุษทุกผู้แทบลืมหายใจ ทุกสายตาต่างจดจ้องไปยังคณิกาสาวที่งดงามราวเทพเซียนจากสรวงสวรรค์เก้าชั้นฟ้า น่าหลงใหล น่าทะนุถนอม น่าไขว่คว้ามาไว้ในอ้อมกอดจนหัวใจทุกดวงต่างเต้นระทึกราวกับกลับไปเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งริลองรักเป็นครั้งแรก

จังหวะนั้นนางเงยหน้าขึ้น ทำให้ทุกคนได้มีโอกาสเห็นดวงตาสีโศก เป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า ความกลัว คละเคล้ากันไปราวกับแม่กวางสาวที่กำลังเสียขวัญอยากจะเตลิดหนีเข้าป่า ทว่ากลับติดบ่วงนายพรานจนไม่อาจดิ้นหลุด

‘ท่าทางใสซื่อ เสแสร้ง สมแล้วที่เป็นหญิงคณิกางามเมือง! อสรพิษร้อยเล่ห์ยังไม่อาจหาญสู้มารยานาง!’

บุรุษชุดดำจ้องเขม็งไม่วางตัว ไม่อยากยอมรับเลยว่า วูบหนึ่งนั้น...หัวใจของเขาจะกระตุกแรงจนแทบควบคุมเอาไว้ไม่ได้ ต้องเพียรบอกกับตัวเองซ้ำๆ ว่าเขาจะไม่มีวันเสียท่าให้ผู้หญิงแพศยาคนนี้โดยเด็ดขาด

ไม่มีวัน!

“ไม่ผิดแน่ขอรับท่านแม่ทัพ แม่นางผู้นั้นคือฝูหลงฮาวที่ท่านตามหา ข้าได้ยินมาว่าเมื่อสองเดือนที่แล้วแม่เล้าหลวนเหยาซื้อตัวนางมาจากหอนางโลมในเมืองฮุยผิง”

ทหารรับใช้แต่งกายด้วยชุดดำเฉกเช่นเดียวกับเจ้านายปราดเข้าไปประชิดอย่างเงียบเชียบ แล้วกระซิบให้ได้ยินกันแค่เพียงสองคนเท่านั้น

“เช่นนั้นก็ทำตามแผนการที่วางไว้ได้เลย!”

ผู้เป็นเจ้านายยกสุราขึ้นดื่มจนหมดจอก ดวงตาคมกร้าวเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังจ้องมองหญิงสาวที่กำลังดีดกู่เจิงอย่างไม่วางตา

ในตอนท้ายของบทบรรเลงเร้ารัญจวนราวกับจะรีดเค้นดวงวิญญาณของผู้ฟังให้แดดิ้น ดวงตาคู่สวยของผู้ที่ขับขานบทเพลงค่อยๆ กะพริบเปลือกตาขึ้นลงอย่างช้าๆ พลันหยาดน้ำใสก็ไหลรินอาบแก้มเป็นสาย

แม้ในยามที่นางหลั่งน้ำตา นางก็ยังงดงามอย่างยากที่จะปฏิเสธ

ทันทีที่เสียงดีดนิ้วลงบนสายกู่เจิงสิ้นสุดลง ไฟที่หรี่แสงก็พลันสว่างไสวขึ้นอีกครา เผยให้บุรุษมากหน้าได้ยลรูปลักษณ์คณิกาสาวได้เต็มสองตา ความงามราวกับจะล่มเมืองทำให้บางคนถึงกับอ้าปากค้าง บ้างก็ยักคิ้วหลิ่วตาหว่านเสน่ห์ให้นางอย่างสุดกำลัง บางคนถึงกับผุดลุกขึ้นก้าวไปยืนชิดขอบเวทีเพื่อจะได้ยลโฉมสะคราญได้อย่างใกล้ชิด

ทว่าคณิกาสาวกลับนั่งนิ่งราวกับถูกตรึงด้วยตะปูดอกใหญ่ให้ยึดติดอยู่กับพื้น นางแทบไม่กล้าขยับเขยื้อนกายเมื่อกวาดสายตามองไปทั่วทุกทิศ

สายตาของเหล่าชายต่างวัยมากหน้าหลายตากำลังมองมายังนางอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ ราวกับนางเป็นสิ่งของที่พวกเขาจ้องจะจับจองเป็นเจ้าของ หาใช่มนุษย์มีเลือดเนื้อมีหัวใจเฉกเช่นเดียวกับพวกเขา

แต่แล้วหัวใจของนางกลับกระตุกแรง!

เมื่อสายตาปะทะเข้ากับเจ้าของดวงตาคมราวกับนัยน์ตามังกร เหตุใดชายผู้นั้นจึงมีผลต่อหัวใจของนางถึงเพียงนี้นะ คณิกาสาวนิ่วหน้าเพียงน้อยอย่างครุ่นคิด กำมือแน่นจนชื้นเหงื่อ เม้มริมฝีปากเข้าหากันจนแทบเป็นเส้นตรง รับรู้ได้ว่าหัวใจกำลังเต้นแรงอย่างไม่อาจควบคุมได้

พลันสายตาของนางก็เหลือบไปเห็นแม่เล้าแห่งหอคณิกากำลังเยื้องย่างมาทางเวที บ่งบอกว่าเวลาของนางกำลังลดน้อยลงแล้ว

‘ใครก็ได้ช่วยด้วย! ได้โปรดช่วยข้าออกไปจากขุมนรกแห่งนี้ ได้โปรด...’

นางเฝ้าอ้อนวอนส่งสายตาไปยังชายผู้ปิดบังใบหน้าเอาไว้ นั่นเพราะนางรู้สึกไว้ใจเขามากกว่าผู้ชายทุกคนที่อยู่ที่นี่ เขาเป็นคนเดียวที่ไม่มีสายตาแทะโลม ไม่มีท่าทีหื่นกระหายหยาบโลน แต่ก็นั่นแหละ...สายตาของเขาช่างว่างเปล่ายามเมื่อทอดมองมายังนาง

ในบางครานางกลับรู้สึกว่าดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความน่ากลัวเสียด้วยซ้ำไป ทว่านางไม่มีทางเลือก นางต้องการเพียงใครสักคนที่จะช่วยนางออกไปจากซ่องชั้นสูงแห่งนี้ นางไม่อยากขายตัว ไม่อยากต้องทนฝืนใจอยู่ในอ้อมกอดของชายแปลกหน้าคนแล้วคนเล่า เพื่อให้คนเหล่านั้นหาความสุขบนเรือนร่างของนาง แล้วความสุขของนางเล่าอยู่ที่ใด

“หึ!”

แม่ทัพหนุ่มหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนของหญิงสาว จริตมารยาเช่นนี้สินะถึงได้ฆ่าพี่ชายของเขาได้อย่างเลือดเย็น

“ชอบเสแสร้งนักใช่มั้ย ได้! ข้าจะมอบความเสแสร้งและการหลอกลวงให้เจ้าตายใจ จากนั้นเจ้าจะไม่มีวันได้พบกับความสุขอีกเลย!”

ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ยกจอกสุราขึ้นดื่มแล้วเบือนหน้าหนีสายตาของหญิงสาวราวกับกลัวว่าสายตาคู่นั้นจะกัดกร่อนหัวใจที่มุ่งมั่นของเขาให้คลอนแคลนลงเสียอย่างนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel