บทที่ 4 นกยวนยาง
บทที่ 4
นกยวนยาง
วันต่อมาเจียงซูฉีก็ได้นั่งรถม้าไปเยือนที่จวนตระกูลเสิ่น วันนี้นางตั้งใจแต่งกายด้วยอาภรณ์ที่ดีที่สุด เนื่องจากองค์รัชทายาทจะเสด็จมาด้วย ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นและประหม่ายิ่งนัก
"วันนี้ข้างดงามแล้วหรือยัง" เจียงซูฉีเอ่ยถามรั่วจูเสียงใส
"คุณหนูของบ่าวงดงามที่สุดเลยเจ้าค่ะ หากองค์รัชทายาทได้เห็นจะต้องตกตะลึงในความงดงามของคุณหนูเป็นแน่เจ้าค่ะ"
เจียงซูฉีพลันยิ้มกว้างด้วยความพึงพอใจ "ใช่แล้วล่ะเพราะในเมืองหลวงนี้ข้างดงามที่สุด ว่าแต่เจ้านำพัดที่นังเจียงเม่ยวาดมาแล้วใช่หรือไม่"
"บ่าวนำมาแล้วเจ้าค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดีเจ้าค่ะ"
"ดีมาก เช่นนั้นก็ไปกันเถิด"
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่นางต้องการ เจียงซูฉีจึงได้ก้าวลงมาจากรถม้าที่มีตราประทับของจวนตระกูลเจียง หญิงสาวในอาภรณ์สีชมพูอ่อนที่ปักลวดลายดอกเหลียนฮวาพลันปรากฏสู่สายตาของทุกคน ทันทีที่นางเผยโฉมทุกคนในงานต่างหันมามองนางเป็นตาเดียว คุณหนูรองตระกูลเจียงช่างงดงามอ่อนหวานนัก ความงามของนางเปรียบดั่งดอกเหลียนฮวาที่เบ่งบานท่ามกลางแสงตะวันที่เจิดจ้า
"ฉีเอ๋อร์เจ้ามาแล้วหรือ วันนี้เจ้ายังคงงดงามมิเปลี่ยนไปเลยนะ"
'เสิ่นเยว่สือ' บุตรีของท่านเสนาบดีกรมคลังรีบเดินมารับสหายทันที ใบหน้างามเปล่งปลั่งด้วยเลือดฝาดด้วยรอยยิ้มกว้าง คุณหนูเสิ่นผู้นี้แม้ไม่ได้งดงามมากนัก ทว่านางมีผิวกายขาวเนียนละเอียดดั่งหยก ตัวเล็กบอบบาง ตา จมูก และริมฝีปากรับกันอย่างพอเหมาะพอเจาะ
"เจ้าเองก็งดงามมากจริง ๆ"
ทั้งสองทักทายกันด้วยความสนิทสนม ก่อนจะจูงมือพากันไปนั่งยังโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้แล้ว นั่งรอไม่นานองค์รัชทายาทก็เสด็จมาถึงแล้ว ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนเพื่อถวายความเคารพแก่ผู้สูงศักดิ์
'หรงป๋อไฉ่' องค์รัชทายาทผู้มีใบหน้าหล่อเหลาดุจหยกสลัก เครื่องหน้าของเขาราวกับเป็นผลงานชิ้นเอกของท่านเทพ คิ้วดกดำพาดเหนือดวงตาคู่คมที่เปล่งประกายเจิดจ้า จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักหนา ที่เพียงแค่ยกยิ้มก็ทำเอาใจของสตรีสั่นไหวอย่างรุนแรง ทุกอิริยาบถของเขาให้ความรู้สึกสูงสง่ายิ่งนัก สมแล้วที่ภายภาคหน้าจะได้ขึ้นครองบัลลังก์แห่งแคว้นฉิน
"องค์รัชทายาทช่างเป็นบุรุษที่สูงส่งยิ่งนัก ไม่รู้ว่าสตรีใดจะมีวาสนาได้ครอบครองหัวใจของพระองค์กัน"
เสิ่นเยว่สือลอบมองใบหน้าของหรงป๋อไฉ่ด้วยความหลงใหล ตัวนางเองก็อยากจะเข้าไปยืนตรงจุดนั้นเหลือเกิน
เจียงซูฉีลอบเบะปากใส่สหายอย่างดูแคลน ใบหน้าเช่นนี้หรือที่จะมัดใจองค์รัชทายาทได้ "นั่นน่ะสิ พระองค์ช่างเป็นบุรุษที่เก่งเรื่องการปกครองนัก ไม่ว่าราชกิจใดล้วนจัดการได้อย่างง่ายดาย สตรีที่จะครองใจองค์รัชทายาทคงต้องเป็นสตรีที่เพียบพร้อมมิต่างกันเป็นแน่"
"ข้าก็คิดเหมือนกันกับเจ้า"
เสิ่นเยว่สือลอบมองสหายด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก นางรู้หรอกว่าเจียงซูฉีนั้นอยากจะได้หัวใจขององค์รัชทายาท ทว่ามีแค่ความงามอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ เจียงซูฉีที่มีดีแค่รูปโฉมงดงาม ที่มีความสามารถแค่เล่นพิณพอได้กับวาดภาพที่งดงามมากหน่อย จะเทียบเคียงนางที่ชำนาญศาสตร์ทั้งสี่ได้อย่างไรกันเล่า!
งานเลี้ยงน้ำชาชมดอกโบตั๋นในครั้งนี้ยังเป็นงานที่ให้หนุ่มสาวได้สนทนากันด้วย หลังจากชื่นชมดอกโบตั๋นแล้วก็มีการแสดงความสามารถของคุณชายและคุณหนู โดยครั้งนี้เจียงซูฉีได้จัดเตรียมพัดที่วาดลวดลายงดงามมาด้วย นางตั้งใจจะมอบให้กับฮูหยินใหญ่และสหาย ส่วนอีกอันนั้น...
เมื่อถึงคราวที่เจียงซูฉีจะต้องออกมาแสดงความสามารถ นางก็ได้ให้สาวใช้หยิบพัดที่วาดด้วยลายดอกโบตั๋นออกมา
"ข้าไม่ได้เตรียมการแสดงมาด้วย ทว่าได้ตั้งใจวาดภาพบนพัดเพื่อมอบให้กับฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ เพื่อแสดงความขอบคุณที่เสิ่นฮูหยินเชิญให้ข้ามาร่วมดื่มชาชมดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่งนี้ ช่างถือเป็นเกียรติต่อข้ายิ่งนักเจ้าค่ะ หวังว่าเสิ่นฮูหยินจะไม่รังเกียจฝีมืออันต่ำต้อยของข้านะเจ้าคะ"
พัดที่วาดด้วยลวดลายดอกโบตั๋นสีแดงช่างดูสะดุดตานัก ดอกโบตั๋นดอกใหญ่ที่บานสะพรั่งนั้นคล้ายกับของจริงเหลือเกิน ยิ่งมีผึ้งตัวน้อยบินเหนือดอกโบตั๋น ยิ่งทำให้ดอกโบตั๋นบนพัดงดงามจับใจ
"ฝีมือคุณหนูรองเจียงช่างประณีตและงดงามจนหาผู้ใดเทียบได้ ช่างเป็นคุณหนูที่ใส่ใจผู้อาวุโสอย่างข้านัก"
รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นฮูหยินบ่งบอกว่านางถูกใจพัดดอกโบตั๋นนี้มาก
"ขอบคุณเสิ่นฮูหยินที่ชื่นชอบเจ้าค่ะ แต่นอกจากพัดดอกโบตั๋นนี้ ข้ายังมีพัดดอกเหลียนฮวาที่จะมอบให้กับสือเอ๋อร์ด้วยเจ้าค่ะ"
รั่วจูหยิบพัดในกล่องที่วาดลวดลายดอกเหลียนฮวาส่งให้กับเจียงซูฉี จากนั้นนางก็เดินไปมอบให้กับสหายด้วยรอยยิ้มหวาน เสิ่นเยว่สือรับมาถือไว้ด้วยความชอบใจ ดอกเหลียนฮวานี้ช่างงดงามนัก การใช้สีแต่งแต้มบนพัดของเจียงซูฉีช่างประณีตละเอียดอ่อนเหลือเกิน
"ภาพดอกเหลียนฮวาของเจ้าช่างงดงามยิ่งนัก ข้าถูกใจจริง ๆ เลย"
เสิ่นเยว่สือรับพัดมากางดูด้วยความชอบใจ เหล่าสตรีชนชั้นสูงต่างเข้ามาขอดูภาพวาดบ้าง ต่างส่งเสียงชื่นชมเจียงซูฉีมิขาดปาก
ในตอนนั้นเองที่เจียงซูฉีหยิบพัดอีกอันขึ้นมา นางเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าขององค์รัชทายาทหนุ่ม ก่อนจะยื่นพัดให้กับขันทีคนสนิทของเขา
"หม่อมฉันทราบว่าองค์รัชทายาทจะเสด็จมาด้วย จึงได้วาดภาพต้นหลิวลู่ลมบนพัดเพื่อมอบให้กับพระองค์เพคะ หากทรงไม่รังเกียจ..."
"ขอบใจคุณหนูรองเจียงมาก"
หรงป๋อไฉ่แย้มยิ้มมุมปากน้อย ๆ ก่อนจะหยิบพัดจากมือขันทีขึ้นมากาง เขามองลวดลายของต้นไผ่ลู่ลมนี้อย่างนึกชื่นชม คุณหนูรองเจียงผู้นี้มีฝีมือไม่ธรรมดาเลย
"ขอบพระทัยที่ทรงรับไว้เพคะ"
เจียงซูฉีพลันคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ทว่าเพียงไม่นานรอยยิ้มบนใบหน้าของนางพลันแข็งค้าง
"เอ่อ... คุณหนูรองเจียง ข้าคิดว่าคงมิอาจรับพัดอันนี้ของเจ้าได้แล้วล่ะ ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย"
สีหน้าของหรงป๋อไฉ่มิสู้ดีนัก หากเป็นการวาดภาพต้นหลิวลู่ลมธรรมดาเขาก็คงรับไว้แล้ว ทว่ากลับมีรูปนกยวนยางที่คลอเคลียกันอยู่ด้วย คราแรกเขาก็เกือบจะมองไม่เห็นแล้ว
"พะ เพราะอะไรหรือเพคะ หม่อมฉันไม่เข้าใจเพคะ" ดวงตาคู่สวยพลันเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา
"นั่นสิเพคะองค์รัชทายาท หรือว่าพัดของคุณหนูรองเจียงมีปัญหา เช่นนั้นหม่อมฉันขอดูหน่อยนะเพคะ"
ไม่รอให้องค์รัชทายาททรงอนุญาต เสิ่นฮูหยินพลันเดินไปหาเขาทันที หรงป๋อไฉ่ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจึงได้ยื่นพัดให้กับเสิ่นฮูหยิน จากนั้นเขาก็หยิบน้ำชาขึ้นมาดื่ม ครานี้เขาคงต้องทำให้หญิงงามร่ำไห้เสียแล้ว แต่จะให้ทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อนางทำเรื่องไม่เข้าท่าเสียแล้ว
"นี่มัน... นกยวนยางนี่! คุณหนูรองเจียง จะ เจ้าตั้งใจวาดนกยวนยางเพื่อมอบให้กับองค์รัชทายาทหรือ"
"อะไรนะ!!"
เจียงซูฉีได้ยินเช่นนั้นพลันตกตะลึง ด้วยนกยวนยางนั้นสื่อถึงคู่แต่งงาน หรือคู่รักที่จะครองรักกันไปตราบนานเท่านาน ซึ่งภาพนกยวนยางนี้ควรเป็นสามีภรรยาที่มอบให้แก่กันเท่านั้น ทว่าบนพัดอันนั้นกลับมีรูปนกยวนยางอยู่ด้วย เช่นนี้ชื่อเสียงของนางก็มัวหมองเสียแล้วน่ะสิ!
ได้อย่างไรกัน ทำไมนังเจียงเม่ยถึงวาดรูปนกยวนยางเล่า แล้วทำไมนางถึงไม่เห็น!!
"ทำไมเจ้าถึงได้ทำสีหน้าตกใจเช่นนั้นเล่า หรือว่า... ภาพวาดบนพัดพวกนี้เจ้าไม่ได้เป็นคนวาดด้วยตนเอง"
หรงป๋อไฉ่ที่จับสังเกตใบหน้าที่ตื่นตระหนกของเจียงซูฉีจึงไม่ปล่อยโอกาส เขาก็รู้สึกว่าภาพวาดนี้มันงดงามมาก มากเสียจนไม่คิดว่าคุณหนูที่อายุน้อยเช่นนางจะวาดได้ด้วยตนเอง แต่การที่นางนำผลงานของผู้อื่นมาแอบอ้างว่าเป็นของตนเองก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย
"มะ หม่อมฉันเป็นคนวาดด้วยตนเองเพคะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมพัดขององค์รัชทายาทถึงได้มีรูปนกยวนยางด้วยเพคะ มะ หม่อมฉันไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะเพคะ"
"เช่นนั้นเจ้าก็พิสูจน์โดยการวาดภาพต้นหลิวลู่ลมให้ทุกคนในที่นี้ได้เห็นกับตาเสียสิ"
เจียงซูฉีพลันมีสีหน้าซีดเผือด นางตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว!
