บท
ตั้งค่า

ซูจือหยวน

วืบบบบบบ

"กลับมาแล้วจ้า"

กว่าอันเล่อจะเสร็จธุระก็ปาเข้าไปจนถึงเที่ยงครึ่งแล้ว เป็นจังหวะเดียวกับที่เด็ก ๆ กำลังนั่งกินข้าวอยู่

"แม่คับกินข้าวกัน"

"แม่จ๋าจือจือตักข้าวให้นะ"

"ไม่ต้องลูกไม่ต้อง พากันกินไปเถอะ แม่ขอไปชงอาหารเสริมมาให้พ่อก่อนดีกว่า แล้วลูก ๆ อยู่กับพ่อมีอะไรเกิดขึ้นไหม  อาการพ่อดีขึ้นบ้างรึเปล่า?" "ไม่คับ ทุกอย่างเหมือนเดิม"

อันเล่อถามลูก ๆ ไป มือของเธอก็จับสามีให้เปลี่ยนท่านอนตามความเคยชิน ก่อนจะเดินไปชงอาหารเสริมเพื่อเตรียมมาป้อนคนป่วย

"แม่คับเดี๋ยวใจ๋ใจ๋ล้างเอง จือจือส่งมาให้พี่"

จังหวะที่อันเล่อกำลังล้างแก้วอยู่ เมื่อเห็นลูกชายตัวน้อยถือถ้วยที่ใช้แล้วเดินมา เธอจึงจะรับมาล้างแต่เสี้ยงใจ๋กลับปฏิเสธแล้วบอกว่าจะจัดการเอง เห็นแบบนั้นอันเล่อถึงได้รู้ว่าทำไมเก้าอี้กินข้าวของเธอถึงได้มาตั้งอยู่หน้าอ่างล้างจาน

"อื้อ จือจือเชื่อฟังพี่ใหญ่ อ่ะเอาไป ฮะ ฮะ สบายแล้วเรา"

ยัยตัวแสบน้อยพอส่งจานให้พี่ชายแล้วก็สะบัดตูดหนีเข้าห้องอย่างสบายอารมณ์

"ลูกไม่จำเป็นต้องทำคนเดียว วันหลังเปลี่ยนให้น้องทำบ้างก็ได้นะลูก"

"ใจ๋ใจ๋ทำได้คับ"

"คนเก่ง งั้นแม่เอาข้าวไปป้อนพ่อก่อนนะลูก ถ้าเสี้ยงใจลงไม่ได้ให้เรียกแม่นะครับ"

"คับผม ใจ๋ใจ๋โตแล้วนะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง"

ฟอดดด

อันเล่ออดใจไม่ไหวจนต้องดึงร่างน้อย ๆ เข้ามากอดและหอมแก้มให้ชื่นใจ ลูกชายของเธอช่างแสนดีที่หนึ่ง

"ข้าวมาแล้วค่าพะ..พี่จือหยวน พี่ฟื้นแล้วเหรอคะ"

พอเดินเข้ามาในห้องก็มีสิ่งที่เธอต้องตกใจ อยู่ ๆ สามีของร่างนี้ก็ลืมตาตื่นขึ้นมาคุยอยู่กับลูกสาวตัวน้อย จะว่าไปก็เป็นเพราะความลืมตัว ซูจือหยวนกำลังนอนหลับ แต่อยู่ ๆ ลูกสาวก็มาหอมแก้มทั้งสองข้าง ด้วยความลืมตัวคนเป็นพ่อจึงครางอู้อี้พร้อมกับบิดตัวจนถูกลูกสาวจับได้

"อื้อ ขอโทษด้วยที่ปล่อยให้ดูแลอยู่นานเลย"

"แม่จ๋า สงสัยจุ๊บ ๆ ของจือจือจะเป็นยาวิเศษ พ่อโดนจือจือจุ๊บแก้มไป 2 ครั้งหายเป็นเจ้าชายนิทราเลย แสดงว่าจือจือต้องเป็นรักแท้ของพ่อ คิกคิก"

หนูน้อยพูดอย่างภูมิใจตามนิทานที่แม่เล่าให้ฟัง

"เด็กดี แล้วพี่เป็นยังไงบ้าง ยังมีอากาศเวียนหัวอยู่ไหม"

"ไม่แล้ว แต่ยังไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่"

จือหยวนตอบภรรยาไปตามจริง หลังจากทนฟังเสียงเธอมาหลายวัน พอวันนี้ได้เห็นใบหน้าหวานเขาพูดได้เต็มปากเลยว่าเธอดูสวยขึ้นกว่าเดิมมาก

"งั้นคงต้องให้อาหารทางสายยางไปก่อนนะคะ หรือว่าพี่จะลองกินโจ๊กหรือข้าวต้มที่ย่อยง่าย ๆ ลองดูไหม เดี๋ยวฉันจะไปทำให้"

"ก็ดีครับ"

"งั้นเสี้ยงจือนั่งอยู่เป็นเพื่อนพ่อก่อนนะลูก เดี๋ยวฉันช่วยประคองนะคะ"

"จือจือไปเรียกพี่ใหญ่ดีกว่า"

ก่อนจะออกไปอันเล่อรีบไปพยุงสามีให้ลุกขึ้นนั่งพิงบนหัวเตียง เธอคอยสังเกตดูว่าเรี่ยวแรงของจือหยวนยังไม่มากพออย่างที่เขาพูดเอาไว้จริง ๆ

"ขอบคุณครับ ขอสารภาพแบบไม่โกหก พี่เริ่มรู้สึกตัวตั้งแต่วันที่เธอเอาหยกวางไว้บนหน้าอก แต่ตอนนั้นพี่ยังขยับตัวไม่ได้ อย่างที่เห็นว่าเรี่ยวแรงของพี่ค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นมาทีละนิด และพี่ก็รู้ว่าเธอไม่ใช่หวังอันเล่อคนเดิม เธอเป็นใครกันแน่?"

อันเล่อตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินสิ่งที่จือหยวนพูด ในเมื่อเขาเปิดประเด็นมาแบบนี้เธอจะต้องทำยังไงต่อ รักก็รักไปแล้ว แต่เด็กทั้งสองคนดันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา หากเขาทวงลูกคืนแล้วเธอจะทำยังไง ไหนจะเรื่องที่เธอถือวิสาสะขอตัดขาดจากครอบครัวของเขาอีก เขาต้องโกรธเธอมากแน่ ๆ

"พ่อ พ่อฟื้นแล้วเหรอครับ"

โชคดีที่เด็ก ๆ ทั้งสองคนเข้ามาขัดจังหวะได้ทันเวลา อันเล่อจึงขอตัวแยกออกออกไปทำข้าวต้ม

"พี่คุยกับลูกไปก่อนนะคะ ฉันสัญญาว่าจะบอกทุกอย่างให้พี่รู้"

พอเดินออกจากห้องมาได้อันเล่อก็เริ่มทำข้าวต้มปลาให้อีกฝ่ายทันที ขณะเดียวกันเธอก็คิดเรียบเรียงคำพูดที่จะอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง

พักใหญ่ต่อมา

"ข้าวต้มปลาเสร็จแล้วค่ะ"

ข้าวต้มปลาร้อน ๆ ส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งห้อง ทำเอาคนที่นอนซมมาหลายเดือนถึงกับท้องร้องอย่างน่าอาย

จ๊อก จ๊อกกก

"ขอโทษที น่าอายจริง ๆ "

"อุ๊ย! พี่ดึงสายยางให้อาหารออกเองเลยเหรอคะ ฉันนึกว่าพี่จะรอดูอีกสักหน่อย"

"เอาออกไปเถอะ พี่พอจะกินข้าวเองได้ ว่าแต่วันนี้วันที่เท่าไหร่แล้ว"

"เสี้ยงใจ๋ พาน้องไปนั่งเล่นที่โซฟานอกห้องก่อนได้ไหมลูก แม่ขอคุยธุระกับพ่อแป้บนึง เสร็จแล้วแม่จะพาออกไปทำความสะอาดบ้านใหม่ของเรา แล้วก็จัดร้านค้าเตรียมเปิดขายของในอีก 2 วันข้างหน้าด้วย"

เด็กน้อยทั้งสองพอได้ยินแบบนั้นก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

"ได้เลยคับแม่ จือจือได้ยินไหม พวกเรามีบ้านใหม่แล้ว ฮะ ฮะ ฮะ"

"ได้ยินซี๊ น้องจะจัดร้านให้สวย ๆ เลยดีไหมพี่ใหญ่ ให้แม่เอาตุ๊กตาเจ้าหญิงออกมาขายหลาย ๆ ตัวเลย น้องจะเปลี่ยนชุดให้ตุ๊กตาเจ้าหญิงทุ๊กกกวันเลย"

ผู้เป็นพ่อแม่ที่ได้ยินลูก ๆ ทั้งสองคุยกันเจื้อยแจ้วอย่างมีความสุขก็พลอยมีรอยยิ้มไปด้วย ก่อนที่อันเล่อจะหาโต๊ะพับมาวางตรงหน้าจือหยวน พร้อมกับวางถ้วยข้าวต้มให้เขาตักกินเองได้อย่างสะดวก

"ไม่ป้อนหน่อยเหรอครับ"

"ไหนพี่บอกว่าพอจะกินเองได้ไงคะ?"

"หึ"

จือหยวนหัวเราะในลำคอก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวกินเองทีละคำอย่างช้า ๆ เมื่อเห็นว่าลูก ๆ ออกไปแล้วอันเล่อจึงบอกวันที่ให้กับอีกฝ่ายได้รับรู้

"วันนี้วันที่ 22 เดือน 4 ปี 1984 ค่ะ"

คนที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากต้องชะงักมือทันทีเมื่อรู้ว่าเขานอนไม่ได้สติอยู่เกือบ 3 เดือน

"ครั้งสุดท้ายที่ออกปฏิบัติงาน จำได้ว่าเป็นวันที่ 1 เดือน 2 แสดงว่านอนเป็นผักอยู่เกือบ 3 เดือนเลยสินะ"

อันเล่อต้องฉุกคิดกับสิ่งที่ได้ยิน ความทรงจำของร่างนี้จำได้ว่าสามีเพิ่งถูกส่งกลับมาได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น

"แสดงว่าพี่คงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานกว่า 2 เดือน เพราะพี่เพิ่งถูกส่งตัวกลับมาที่บ้านเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พร้อมกับจดหมาย 1 ฉบับ"

"จดหมายอะไร?"

"ฉันเสียมารยาทเปิดอ่าน ในนั้นเขียนจากผู้พันเจียงเฟยหรง ไม่ได้อธิบายอะไรมากนอกจากบอกให้หวังอันเล่อติดต่อกลับไป แต่เธอไม่เคยเปิดอ่านจดหมายฉบับนั้นเลย และที่สำคัญ ฉันไม่ใช่เธอ ฉันมาจากปี 2024 เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาและชื่อเดียวกันกับเธอ"

"..."

"ฉันเข้ามาอยู่ในร่างของเธอ ในวันที่เธอกำลังจะหนีไปจากหมู่บ้าน เช้าวันนั้นเธอถูกฟ้าผ่าจนหัวใจหยุดเต้น สุดท้ายจึงเป็นฉันที่ตายก่อนเวลาอันควรที่ได้เข้ามาอยู่ในร่างของเธอ แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าพี่เจอคนอื่นที่ชอบฉันพร้อมจะหย่าให้พี่ แต่สำหรับเด็ก ๆ ถ้าพี่จะพาพวกเค้าไปอยู่ด้วย ฉันขอไปเจอพวกเค้าบ้างเป็นครั้งคราว"

ทุกอย่างตกอยู่ภายใต้ความเงียบหลังจากที่อันเล่อพูดจบ เธอจดจ่ออยู่กับคำตอบของอีกฝ่าย หวังว่าจือหยวนจะเห็นใจเธอบ้าง อย่างน้อยเธอก็อยู่ในร่างแม่ของเด็ก ๆ แต่การที่เธอได้พูดความจริงทั้งหมดออกไปมันก็ทำให้เธอโล่งใจยิ่งกว่ายกภูเขาออกจากอก

"เธอรังเกียจพี่ไหม? เธอรักเด็ก ๆ รึเปล่า? เธอมีใครในใจรึยัง?"

คำตอบที่ได้ทำเอาอันเล่อถึงกับทำตัวไม่ถูก แต่เธอก็รีบตั้งสติแล้วตอบกลับทีละคำถามจนครบถ้วน

"ฉันรักเด็ก ๆ และยังไม่มีใคร ที่สำคัญฉันไม่เคยรังเกียจพี่ กลัวแต่พี่ต่างหากที่จะรังเกียจและกลัวว่าฉันเป็นภูตผีวิญญาณเร่ร่อน"

"ถ้าอย่างนั้นเธอก็เลิกพูดเรื่องหย่า แล้วอยู่เป็นแม่ของเด็ก ๆ เป็นภรรยาของพี่ เธอเต็มใจไหม?"

คนฟังถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินข้อเสนอของอีกฝ่าย ถึงร่างนี้กับสามีจะเริ่มต้นด้วยการรับผิดชอบก็เถอะ แต่จะไม่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันเลยเหรอ? อันเล่อพยายามหาคำตอบจากความทรงจำของร่างนี้

"..."

"เธอคงสงสัยว่าพี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอเมื่อได้ยินว่าภรรยาตายจากไปแล้ว ในความทรงจำของหวังอันเล่อน่าจะเป็นคำตอบได้ดี เราแต่งงานเพราะพี่ต้องรับผิดชอบหล่อน คืนวันแต่งานเป็นคืนเดียวที่เรานอนเตียงเดียวกัน"

"..."

"พอทุกอย่างไม่ได้เริ่มด้วยความรัก บวกกับความเห็นแก่ตัวของหล่อนทำให้ทุกคนรอบข้างได้แต่ทนเพื่อเสี้ยงใจ๋กับเสี้ยงจือ พี่อยู่เลี้ยงลูกจนทนเห็นลูกไม่มีนมกินไม่ได้ ทำยังไงเธอก็ไม่ยอมให้ลูกกินนม สุดท้ายพี่ก็เลยต้องไปสมัครเข้ากองทัพเพื่อหาเงินส่งมาซื้อนมให้ลูก"

"..."

"บ่อยครั้งที่พ่อส่งจดหมายไปบอกว่าหวังอันเล่อปฏิบัติกับลูกไม่ดี พี่ได้แต่หวังว่าถ้าส่งเงินให้หล่อนมากขึ้น อาจจะทำให้หล่อนแบ่งปันหยิบยื่นให้ลูกบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล จนนาทีสุดท้ายที่พี่หมดผลประโยชน์หล่อนก็ยังเลือกที่จะทิ้งพวกเราสามพ่อลูกไป"

คำพูดของซูจือหยวนเป็นความจริงทุกอย่าง ในความทรงจำของหวังอันเล่อเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

"ในเมื่อฟ้าส่งฉันมาที่นี่ ในร่างนี้ แสดงว่านี่คือชะตาของฉัน งั้นต่อไปเรามาทำหน้าที่พ่อและแม่ของเสี้ยงจือกับเสี้ยงใจ๋ อย่าให้พวกเค้าต้องขาดความอบอุ่นเหมือนที่ผ่านมาแต่ว่า... เรื่องของเรา"

"พี่เข้าใจ เรื่องของเราให้มันค่อยเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ"

เมื่อพูดคุยกันเข้าใจทุกอย่างจือหยวนจึงเร่งมือกินข้าว จากนั้นพวกเขายังจะได้ออกไปทำความสะอาดร้านและจัดร้านช่วยกันต่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel