บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ผู้หญิงประหลาด (1)

“เราชื่อพิมเเก้ว เป็นลูกสาวคนเดียวของออกญาศรีภิบาล ว่าเเต่ท่านจับเรามาทำไมกันหรือ”

‘สามก๊ก’ หรี่ตามองแม่สาวสวยตรงหน้า ที่ราวกับแม่วัวชั้นดี หน้าอกเอย ทรวดทรงองค์เอวเอย งดงามสมจะมาเป็นนางบำเรอราคะชั่วคราวของเขามาก

แต่ทำไมถึงพูดจาประหลาด เหมือนหลุดมาจากละครจักรๆ วงศ์ๆ

ชายหนุ่มนิ่งสงบ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพื่อหยั่งเชิงอีกฝ่าย หญิงสาวสวยจึงโพล่งขึ้นมาอย่างลนลานอีกครั้ง

“ที่เรือนเจ้าคุณพ่อมีเงินพดด้วงแลเบี้ยมากมาย ถ้าท่านต้องการแลกกับการพาเรากลับไปหาเจ้าคุณพ่อ เรายอมยกให้หลายถุงเลย”

“วิลลี่ มึงพาคนบ้ามาเหรอไง ไปเอาคนใหม่มา” พอเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นดูท่าจะเป็นหญิงสาวสวยที่สติสตังไม่ค่อยดี เขาเลยลูบหัวคิ้วตัวเองพลางปัดมือไล่ให้ลูกน้องลากเธอออกไป

วิลลี่ หรือชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ที่ยืนหัวโล้นอยู่ข้างหลังเธอ จึงก้าวฉับๆ มาเพื่อป้องปากกระซิบข้างหูนายใหญ่ของตน

“แต่นายครับ สวยขนาดนี้ หายากมากนะครับ ระดับดาราก็ไม่มีสวยแบบราคาดีขนาดนี้”

“กูรู้ แต่นี่มันคนสติไม่ดี” สามก๊กแสนจะหงุดหงิดใจ ถึงจะถูกใจหน้าตารูปร่างอยู่มาก แถมยังอยากได้คนตรงหน้ามาเป็นนางบำเรอก็จริง แต่จะให้มามีเซ็กซ์กับคนบ้า ก็คงจะไม่ไหว

“ให้ผมไปสืบประวัติของเธอมั้ยครับนาย เผื่อจะสบายใจขึ้น ในคืนนี้ก็ทำความรู้จักกันในห้องรับรองไปก่อน”

“จะให้กูเลี้ยงมันไปก่อนอย่างงั้นเหรอ” แววตาคมกริบเหลือบไปมองลูกน้องคนสนิท เขาพยักหน้ารับ สามก๊กจึกถอนหายใจยาวๆ “ก็ได้ ไปสืบประวัติมาภายในคืนนี้”

“ครับนาย ให้ผมส่งผู้หญิงคนนี้ไปในห้องรับรองเลยมั้ยครับ” วิลลี่ยิ้ม รู้อยู่ว่าเจ้านายของตนนั้นใจดี แถมผู้หญิงคนนี้ก็สวยสดใหม่อย่าบอกใคร ดูเหมือนถึงจะสติไม่สมประกอบ แต่น่าจะยังสด นายน่าจะชอบ

อย่างน้อยก็ดีกว่าพวกแม่เล้า เด็กเอ็นคนอื่นๆ ที่นายจ้างมาเป็นเด็กเสี่ย สวยไม่เท่าผู้หญิงคนนี้ แถมสุดท้ายเด็กพวกนั้นก็ปอกลอกนายไม่เหลือ ชอบเสียท่าความใจดีที่อยู่ภายใต้หน้ากากเย็นชานั่นอยู่ร่ำไป

“แล้วแต่”

สิ้นเสียงอนุญาต วิลลี่และสหายคนสนิทที่ทำงานรับใช้สามก๊กมาหลายปี จึงคว้าแขนของหญิงสาวผู้นั้น หิ้วปีกไปที่ห้องรับรองที่หรูหรา หรือให้เรียกอีกชื่อหนึ่งก็คือห้องเชือดนั่นเอง

สามก๊กถอนหายใจหนัก ยกมวนกัญชามาสูบพลางพ่นควันบุหรี่เป็นวงอยู่กลางโถง เขาเป็นคนที่ทำธุรกิจสายเทา จับงานที่คนว่าว่าไม่ดีอยู่หลายงาน เพราะชื่นชอบในเส้นทางนี้ อีกอย่างเพราะพ่อวางมือให้ตัวเองขึ้นทำงานแทนตั้งแต่เด็ก

เขาถูกตั้งชื่อว่า ‘สามก๊ก’ เพราะพ่อชอบอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้ ชอบเรื่องการชิงดีชิงเด่น การทำสงคราม ฆ่าฟัน ห้ำหั่นสติปัญญากันทั้งบุ๋นและบู้ เลยต้องการให้ลูกชายเพียงคนเดียวอย่างเขานั้นเป็นได้อย่างตัวละครเด่นในเรื่อง

สามก๊กไม่ชอบอ่านหนังสือ เขาชอบชกมวยและมีความฝันอย่างเป็นพระอาจารย์ แต่กลับโดนดึงมือให้มาจับงานสีเทา จึงทำให้สิ่งที่ฝันนั้นเป็นอันต้องล้มเลิก เพราะแค่ธุรกิจพวกนี้ก็ดึงเวลาจนการสวดมนตร์ทำบุญและชกมวยให้กลายเป็นแค่งานอดิเรก

แต่สามก๊กนั้นเป็นผู้ชายขี้สงสาร เมตตา รักสัตว์ แต่บทจะเลือดเย็นก็เลือดเย็นอย่างถึงที่สุด ยอมให้ผู้หญิงที่นอนด้วยปอกลอกโดยทำแค่เพียงปล่อยไปเฉยๆ ไม่เอาเรื่องเอาราว เพราะคิดว่าคงมีกรรมร่วมกัน

ผู้หญิงไม่สมประกอบคนนี้ก็คงจะมีเวรกรรมทำให้กลายเป็นผู้หญิงสติไม่ดีพูดเหมือนตัวเองอยู่สมัยรัตนโกสินทร์ก็ได้

เอาเป็นว่า จะทำบุญทำทาน ส่งบุญไปให้เธอ เผื่อผลบุญจะส่งไปในชาติหน้าให้เธอได้บ้าง

สามก๊กนั้นถวายตัวบูชาท้าวเวสสุวรรณตั้งแต่เล็กเพราะความศรัทธาอันแรงกล้า ตั้งรูปใหญ่อยู่ตรงหน้าภายในห้องสวดมนต์ใหญ่โตหรูหรา จัดสรรปันส่วนอย่างดี เขาปักธูปเก้าดอก บูชาด้วยผลหมากรากไม้ที่ท่านชอบ พร้อมช่อดอกกุหลาบสีแดงสด พลางสวดบูชาท่านอยู่ทุกคืน ก่อนจะไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะ

มีอารมณ์ก็จริง แต่การบูชาท่านต้องมาก่อน

เมื่อเขากราบไหว้อย่างเรียบร้อย สามก๊กคุดเข่าออกจากห้องพระ โดยยกให้เมดปิดประตูห้องพระลง

คนตัวใหญ่จึงเข้าไปอาบน้ำชำระกายที่แข็งแรงเต็มไปด้วยมัดกล้ามทุกส่วน ชำระคราบเหงื่อ ทำความสะอาดอย่างดีพร้อมกับสวมชุดคลุมอาบน้ำสีดำ เดินตรงไปยังห้องรับรองที่ถูกเตรียมไว้เพื่อให้เขากับ ‘นางบำเรอ’ ได้ร่วมรักกันอย่างสงบ

แกรก

ประตูบานใหญ่ที่ทำจากไม้สักทองถูกเปิดออก พบกับหญิงสาวในชุดเปิดเผยเรือนร่าง ชุดนอนลูกไม้ที่บางแสนบางเปิดเผยเส้นขอบของสะโพกที่คอดกิ่วเข้ารูป หน้าอกที่ใหญ่จนคับชุดแทบทะลักออกมา ทำให้มาเฟียหนุ่มนั้นกลัดมันเต็มที่ แต่ต้องทำเป็นตีสีหน้านิ่ง เข้าไปนั่งข้างๆ เธอที่พับเพียบตัวสั่นเหมือนลูกเจี๊ยบตัวน้อยอยู่บนฟูกนอน

“กลัวเหรอ” เขาถาม ถึงจะเป็นคนสติไม่ดี แต่สถานการณ์แบบนี้ก็คงกลัวเป็นเรื่องธรรมดา “กูจะถนอมที่สุด อย่าได้กลัวไป”

“คะ... คือ คือเรารู้สึกเหมือนว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เราเคยอยู่”

“...”

“ท่านใช่ฝรั่งมังค่าที่เข้ามาทำการค้ากับทางพระนครหรือไม่เจ้าคะ ช่วยบอกให้เราใจชื้นหน่อยว่าที่นี่คือพระนครศรีอโยธยา”

“จะสติไม่ดีแค่ไหน ก็ให้มีขอบเขตหน่อย นังเด็กโง่” สามก๊กรู้สึกรำคาญกับเสียงหวานที่เอาแต่พ่นสำนวนไทยโบราณจนระคายหู จึงรั้งสะโพกดึงนางเข้ามานั่งบนตักอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง “เห็นมั้ยว่ากูแข็งแล้ว จัดการให้ที”

พิมแก้วที่อยู่ดีๆ ก็ถูกบุรุษแปลกหน้ายกตัวเองขึ้นมานั่งบนตักเขา แนบชิดกับสรีระของบุรุษเพศที่แข็งขืนก็ถึงกับหน้าชา ไปไม่เป็น นั่งตัวเกร็งอยู่บนตักแกร่งอยู่เช่นนั้น จนสามก๊กต้องถอดแว่นออกอย่างหงุดหงิด พลางออกปากเร่งเร้านาง

“จัด-การ-ซะ เร็วๆ”

“ท่านใช่ฝรั่งมังค่าที่เข้ามาทำการค้ากับทางพระนครหรือไม่เจ้าคะ ช่วยบอกให้เราใจชื้นหน่อยว่าที่นี่คือพระนครศรีอโยธยา”

“จะสติไม่ดีแค่ไหน ก็ให้มีขอบเขตหน่อย นังเด็กโง่” สามก๊กรู้สึกรำคาญกับเสียงหวานที่เอาแต่พ่นสำนวนไทยโบราณจนระคายหู จึงรั้งสะโพกดึงนางเข้ามานั่งบนตักอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง “เห็นมั้ยว่ากูแข็งแล้ว จัดการให้ที”

พิมแก้วที่อยู่ดีๆ ก็ถูกบุรุษแปลกหน้ายกตัวเองขึ้นมานั่งบนตักเขา แนบชิดกับสรีระของบุรุษเพศที่แข็งขืนก็ถึงกับหน้าชา ไปไม่เป็น นั่งตัวเกร็งอยู่บนตักแกร่งอยู่เช่นนั้น จนสามก๊กต้องถอดแว่นออกอย่างหงุดหงิด พลางออกปากเร่งเร้านาง

“จัด-การ-ซะ เร็ว”

“ระ... เราเป็นถึงลูกสาวของออกญาศรีภิบาลเทียวนะ ท่านจักข้ามขั้นตอนมิได้นะเจ้าคะ จริงๆ แล้วท่านต้องมาสู่ขอเราพอเป็นพิธีก่อน แล้วเมื่อเรารับรักท่าน ท่านถึงจักแตะต้องเราได้ในฐานะผัวเมียตามแต่พึงใจ” พิมแก้วว่าพลางพยายามบิดสะโพกอ่อนออกจากความแข็งขืนตรงกลางกายของบุรุษ นางหน้าแดงก่ำไปด้วยความขวยเขิน รูปทรงที่ไม่ธรรมดานั้นแนบชิดตรงก้นกบจนเกร็งตัว

สติไม่สมประกอบแล้วยังจะเล่นตัว น่ารำคาญจริง สามก๊กคิดในใจ พลางดันนางลงจากตัก พอสาวเจ้าเห็นท่าว่าจะรอด กลับถูกริดรอนด้วยการผลักไหล่มนลงไปนอนบนฟูกนุ่ม ก่อนที่ร่างกายสูงใหญ่ล่ำสันของชายหนุ่มจะเลื่อนขึ้นมาทาบทับ

ชุดที่แปลกตา ดูเหมือนชุดของชาวต่างแดนที่มักเห็นมาทำการค้าที่พระนครถูกปลดออกด้วยความร้อนรุ่มของคนตัวใหญ่ ชวนให้เห็นแผงอกกำยำเย้ายวนตาเย้ายวนจิต ที่ทำเอาสาวเจ้าถึงกับหน้าแดงก่ำไปถึงกกหู

เจ้าคุณพ่อไม่อนุญาต ห้ามมองนะออพิม!

นางคิดในใจพลางเอามือทั้งสองข้างมาปิดตาของตัวเอง แต่ปลายนิ้วเจ้ากรรมกลับแยกแง่งนิ้วน้อยๆ เพื่อสำรวจความรูปงามของชายตรงหน้าอย่างชัดเจน พอเห็นความขาวผ่อง แลลายสักอักขระโบราณ เป็นรูปเสือแลอักษรแปลกๆ นางก็หน้าแดงสุกปลั่งยิ่งกว่าเก่า

“โดนคร่อมขนาดนี้ คงจะให้ปฏิเสธไม่ได้นะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าชวนขยี้ใจ พลางพยายามปลดปมผ้าที่ปิดร่างกายกำยำนั่นไม่มิด เพื่อเปิดเผยความใหญ่โตองอาจต่อหน้าแม่กุลสตรีศรีสยาม

พรึ่บ

ชุดคลุมอาบน้ำถูกถอดลงไปกองกับพื้น ในขณะเดียวกันพิมแก้วก็ได้เห็นสิ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต อวัยวะโล้สำเภาของบุรุษเพศ ที่เจ้าคุณพ่อว่าต้องอายุสิบแปดถึงจักสมควรเห็น แม้ในตอนนี้หล่อนจะสิบแปดปีแล้ว มีแววจักเป็นสาวเทื้อ (สาวขึ้นคาน) แต่เจ้าคุณพ่อก็ยังตั้งแง่กับชายที่มาสู่ขออยู่เรื่อยไป

หญิงสาวผู้ถูกเลี้ยงดูราวกับไข่ในหิน บัดนี้กำลังเสียท่าให้กับชายเถื่อนผู้ไม่รู้ที่มาที่ไปเสียแล้ว

แต่... แต่ว่า

ทรงเรียวปลายหัวมน ราวกับเห็ดยักษ์สีหงชาด มีเส้นเลือดพาดกลอนอยู่ตามขนาดของแก่นอย่างสวยงาม ราวกับศิลปะที่วิจิตรการตา

ใหญ่จัง

“ดะ... ได้โปรดอย่าทำเรา เรายังมิพร้อม เราเพิ่งอายุสิบแปดปีเศษ เจ้าคุณพ่อยังมิอนุญาตให้เรามีสัมพันธ์กับชายใด ถ้าหากคุณสมบัติเขามิตรงตามที่เจ้าคุณพ่อต้องการ”

ประโยคนั้นทำให้สามก๊กชะงักได้ราวกับออกคำสั่ง

เด็กคนนี้อายุสิบแปดอย่างนั้นเหรอ? แบบนี้ก็ยังเรียนมัธยมอยู่เลย เขาในตอนที่ที่เฉียดเลขสามไม่อยากเสี่ยงคุกนักหรอก

คิดแล้วจึงผละออกจากนางจนสาวเจ้าตกใจ หยัดตัวขึ้นในขณะที่ชายหนุ่มจะก้มลงหยิบชุดคลุมอาบน้ำ แล้วโยนใส่ศีรษะของเธอ

“ไปแต่งตัวซะ”

เขาพูดเพียงแค่นั้น หญิงสาวก็นั่งตัวสั่นอยู่ ปล่อยให้ชุดคลุมอาบน้ำร่นลงไปกองอยู่ที่ตัก เนื่องด้วยประสบการณ์ในการอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายนั้นช่างน้อยนิด

สามก๊กเอี้ยวตัวไปใกล้นางเมื่อเห็นว่าเด็กสาวไม่ขยับ ชวนให้นางสะดุ้งเฮือก หลับตาปี๋เมื่อความอบอุ่นแลกลิ่นหอมจางๆ ผ่านหน้าไป แต่เมื่อไม่เกิดอะไรขึ้นนางจึงลืมตาขึ้น แล้วจึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายแค่เพียงเอี้ยวตัวไปหยิบแว่นสายตาที่กระดอนไปบนกลางฟูกเท่านั้น

เท่านั้นก็หน้าแดงลามไปยันซอกคอ บุรุษเถื่อนสวมแว่นสายตาเข้ากับกรอบหน้า พลางปรายตามองหล่อน

“นั่งเซ่ออยู่ทำไม ไปแต่งตัว”

“เอ่อ... คือท่านไม่ทำกระไรเราแล้วหรือเจ้าคะ” นางกลั้นหายใจถามคำถามโง่ๆ ออกไป ชวนให้สามก๊กแค่นหัวเราะ

“ทำไม?” เขาย้อนถาม พลางคว้าซองบุหรี่จากโต๊ะข้างหัวเตียง คีบมวนบุหรี่ราคาแพงมาคาบในปาก หยิบไฟแช็คที่ทำจากเงินมากดเปิดไฟแช็ค พลางออกปากยวน “หรืออยากให้ทำขึ้นมาแล้วเหรอ”

“มะ... ไม่เจ้าค่ะ เราจักไปแต่งตัวแล้วเจ้าค่ะ” พอเห็นว่าเขามีท่าทางเอาจริงเอาจังนางจึงหน้าถอดสี รีบยกมือไหว้ปะหล่กๆ พลางรุดตนเองออกไปจากห้อง แต่กลับถูกดึงชายเสื้อลูกไม้บางไว้ด้วยปลายนิ้วหยาบใหญ่ จนต้องชะงักอยู่กับที่ “กะ... กระไรหรือเจ้าคะ”

“เข้าห้องน้ำกูไป”

“จะ... เจ้าคะ?”

“ไม่พูดซ้ำ”

ดุจังเลยเจ้าค่ะท่านผู้นี้ ออพิมแก้วคิด พลางก้มปะหล่กๆ เดินเก้กังเข้าไปในห้องน้ำส่วนตัวของเขา สามก๊กเหลือบมองร่างเล็กที่ปิดประตูลงอย่างเรียบร้อย พลางพ่นควันบุหรี่ออกเป็นวงกว้าง

เขานั้นเป็นผู้ที่มากกาม ถึงจะชอบสวดมนต์บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อในเรื่องเวรกรรมและบาปบุญเข้าจิตใจ แต่ก็ยอมรับว่าตัวเองนั้นยังเป็นมนุษย์ที่ยังคงมีกิเลส ตัณหาราคะในสรีระของอิสตรีอยู่

การหานางบำเรอเพื่อปลดปล่อยความเครียดจากงานนั้นแทบจะเป็นหน้าที่ที่มอบให้มือขวาอย่างวิลลี่อยู่ประจำ เพราะผู้หญิงส่วนมากไม่มาปอกลอก ก็มาหลอกเขา ทำให้มาเฟียหนุ่มเข้าสู่แววอาภัพรักอย่างหนัก

และเขาก็มีข้อแม้กับตัวเอง ว่าจะไม่มีอะไรกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปีเด็ดขาด เพราะยังเด็กเกินไป ยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่

เด็กสาวคนนี้ ก็คงเป็นหนึ่งในนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel