บท
ตั้งค่า

ขอโอกาสอีกครั้ง...1

"ทำไมเจ้าถึงเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอายอย่างนี้ ลูกทั้งคนยังเอาไปเร่ขายได้ลงคอ บางทีสุนัขอาจมีใจสูงส่งยิ่งกว่าเจ้า"

นั่น…เป็นการต่อว่าที่เจ็บอยู่นะ

"พอกันที ข้ากับเจ้า จากนี้เราไม่ใช่สามีภรรยากันอีกแล้ว"

ได้ยินพ่อพูดเช่นนั้น เด็กสองพี่น้องก็ปล่อยโฮหนักกว่าเดิม

แม้จะยังเด็ก ไม่รู้ความมากนัก แต่ก็รับรู้ได้ว่าครอบครัวกำลังแตกร้าว จากก่อนหน้านี้ที่พ่อกับแม่ก็มีปากเสียงกันทุกวัน คราวนี้คงถึงจุดแตกหัก

ซ่งหยวนหมิงดึงตัวน้องสาวมากอดกระชับไว้แน่นยามมารดามองมา เขากลัวแม่จะพรากเอาน้องไปอีก เด็กวัยนี้หวาดกลัวการถูกทอดทิ้งเป็นที่สุด ไม่ต้องพูดถึงการถูกทำเหมือนสิ่งของที่จะเอาไปวางแทนสินค้าเมื่อไหร่ก็ได้

ซ่งหยวนหมิงอายุห่างกับน้องสาวเพียงหนึ่งปี ถือว่าเด็กอยู่มาก แต่ก็พยายามทำตัวเป็นพี่ เมื่อครู่นี้หากซ่งอวี้หลานถูกพาตัวไป เขาก็ไม่รู้จะทำเช่นไรได้นอกจากร้องไห้

จางหยู่เสวียนไม่นึกว่าจะถูกประกาศหย่าตอนนี้ แม้จะชื่อเหมือนเจ้าของร่างแบบตรงกันทุกตัวอักษร แต่จะให้มารับกรรมที่ตัวนางไม่ได้ก่อก็ไม่ไหว เรื่องคราวนี้หนักหนาสาหัสมากจริง ๆ สามีถึงได้ยื่นคำขอหย่ากับนาง

อดีตมือสังหารสาวไม่ได้ผูกพันกับเขา การหย่าน่ะทำให้ได้อยู่แล้ว จะออกไปใช้ชีวิตโดดเดี่ยวก็ย่อมได้ ฝีมือของนางเอาตัวรอดได้แน่ แต่จางหยู่เสวียนเห็นสภาพบ้านหลังนี้ที่ทรุดโทรม เด็กน้อยสองคนที่ตัวผอมแห้ง แม้แต่การพักผ่อนก็คงไม่เคยได้นอนหลับดี ๆ เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเป็นจุด ๆ เนื้อตัวมอมแมมมาก ไหนจะชายผู้นี้ที่มีจิตใจดี ปกป้องลูกอย่างสุดความสามารถแม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวย แต่มาถูกจางหยู่เสวียนคนก่อนหน้าละเลยทิ้งขว้าง เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้

"สามี ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ จากนี้ข้าจะไม่เล่นพนันอีก จะไม่ไปเหยียบที่นั่นเลย ขอโอกาสข้าสักครั้ง" นางวิงวอน แต่อดีตมือสังหารอย่างนางเคยอ้อนวอนใครที่ไหน มีแต่เป้าหมายที่จะร้องขอชีวิตจากนาง การก้มหัวข้อร้องครั้งนี้เลยดูฝืน ๆ เล็กน้อย

"ข้าจะเชื่อคำพูดเจ้าได้อย่างไร สันดานเจ้าโสโครกยิ่งกว่าโคลนตม จะขุดรากออกมาคงเป็นไปไม่ได้กระมัง"

จางหยู่เสวียนกัดปากซี้ด สามีพิการของนางด่าได้เจ็บแสบเกินไปแล้ว นางมาที่นี่ตัวเปล่า ไม่รู้จักใครที่ไหน ทรัพย์พอจะเอาไป

เร่ขายก็ไม่มี เพราะปิ่นหยกมากมูลค่านำไปไถ่ตัวแทนลูกสาวเสียแล้ว

ถ้าจะไป อย่างน้อยก็ต้องหาทางรักษาขาของเขาก่อน ถึงตอนนั้นหากเขาจะขอหย่า นางก็ไม่ขัด เพราะคงไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรอีก

"ข้าไม่เคยร้องขอสิ่งนี้สักครั้ง ขอเพียงครั้งนี้ อย่าขับไล่ข้าไปเลย" จางหยู่เสวียนบอกด้วยสีหน้าจริงจัง หากเขายังไม่ยอมอีก ครั้งต่อไปนางจะคุกเข่า

จริงอย่างที่ว่า ตั้งแต่เขากลายเป็นคนไร้ความสามารถเช่นนี้ นางไม่เคยร้องขอโอกาสสักครั้งจากเขา ซ่งอี้หนานเคยโทษตัวเองอยู่พักหนึ่ง ที่เขาบาดเจ็บจนไม่สามารถหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้จึงทำนางเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้ในเมืองมีแต่ข่าวเสียหายของผู้เป็นภรรยา จนหลายครั้งเขาก็ทนฟังไม่ไหว ความหน้าด้านไร้ยางอายอยู่ในทุกเรื่องของข่าวอื้อฉาว

"คำพูดเจ้าเบายิ่งกว่าลมลอยล่อง ไม่มีความน่าเชื่อถือสักนิด จากสิ่งที่เจ้าทำ มีอะไรให้วางในคำพูดนั้นหรือ"

"บัณฑิตยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ข้าเป็นคนธรรมดาแท้ๆ จะให้โอกาสกันไม่ได้เชียว" จางหยู่เสวียนเริ่มชักแม่น้ำทั้งห้า

"ซ่งอี้หนาน เดินผิดพลาดครั้งหนึ่ง ข้าเรียนรู้ครั้งหนึ่ง หากไม่ให้โอกาสข้าบ้าง จะมีอะไรพิสูจน์ให้ท่านเห็นหรือเชื่อคำข้า"

นางตัดสินใจลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น

"ยามนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอข้าอยู่ต่ออีกหน่อยเถิด หากถึงตอนนั้นแล้วท่านยังไม่คิดเปลี่ยนใจ ข้าจะไปแน่นอน ไม่ร้องขออะไรให้ท่านรำคาญใจอีก" เห็นนางคุกเข่าลงไปต่อหน้า ซ่งอี้หนานก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่านางจะทำถึงขั้นนี้

"ลุกขึ้น อย่ามาคุกเข่าให้ข้า"

"ข้าไม่ลุกจนกว่าท่านจะยอม"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel