บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ปรับแผน

ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง บทที่ 6 ปรับแผน

ในห้องโถงใหญ่ของเรือนสกุลเจียง เจียงเสิ่นเย่วนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สลักลวดลายมังกรอย่างสง่างาม ใบหน้าคมคายดุเข้มฉายแววเคร่งเครียด ริมฝีปากหนาเม้มแน่น มือหนาวางบนโต๊ะไม้เนื้อแข็ง พร้อมเคาะเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์

เจียงอันเล่อที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านข้าง พร้อมกับกำลังนั่งก้มหน้ามองพื้นด้วยใบหน้าสลด

“เล่อเอ๋อร์” เสียงทุ้มต่ำของเจียงเสิ่นเย่วดังขึ้นพร้อมสายตาดุดัน “เจ้าเป็นอันใดหรือ...เหตุใดเจ้าจึงใช้วาจาหยาบคายต่อหน้าฮูหยินหานเช่นนั้น”

เจียงอันเล่อเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตากลมโตแฝงแววขัดเคืองใจ ริมฝีปากอิ่มที่มักยิ้มแย้ม กลับเม้มแน่นเหมือนต้องการกลั้นคำพูดไว้ นางอยากตะโกนว่าเหตุใดใต้เท้าหานจึงโง่งมหลงรักหยางชิวเหยาที่ไม่ได้รักเขา แต่ก็กลั้นใจไม่พูดออกมา

“เฮ้อ...เล่อเอ๋อร์ เจ้าก็รู้ว่าข้าอุตส่าห์พยายามรักษาความสัมพันธ์กับใต้เท้าหานมาช้านาน แล้วเหตุใดวันนี้เจ้ากลับทำเรื่องไม่สมควรจนทำให้ใต้เท้าหานโกรธเคืองถึงเพียงนี้ เจ้ามิรู้หรอกหรือว่าใต้เท้าหานรักใคร่ฮูหยินของเขามาเพียงใด”

เจียงอันเล่อได้แต่สะบัดหน้าหนีพร้อมกับความหงุดหงิดใจ ยิ่งบิดาของตนกล่าวเช่นนั้นก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกเดือดดาลเพิ่มมากขึ้นไปอีก

“ข้าไม่ชอบหน้าฮูหยินหานผู้นี้ นางมีดีอันใดกันถึงได้เที่ยวปั่นหัวผู้ชายไปทั่วเช่นนี้” เจียงอันเล่อกล่าวออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน

เจียงเสิ่นเย่วได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับโกรธจนแน่นหน้าอก เขากระแทกมือบนโต๊ะจนเกิดเสียงดังลั่น “ปัง...”

“เหลวไหล ฮูหยินหานทำสิ่งใดให้เจ้าไม่พอใจกัน เจ้าเช่นนี้นี้หรือว่าเจ้า...” เจียงเสิ่นเย่วถึงกับกลืนคำพูดของตนเองลงคอไป เขาเพ่งพินิจใบหน้าของบุตรสาวของตนอีกครั้งอย่างชั่งใจ ก่อนจะถอนหายใจหนักออกมา “ใต้เท้าหานแต่งงานมีฮูหยินของตนเองแล้ว เจ้าเป็นถึงบุตรสาวของข้า อย่าได้ลดตัวไปยุ่งเกี่ยวกับสกุลหานอีกเลย” เจียงเสิ่นเย่วกล่าวตัดบทออกมาอย่างไม่ต้องการกล่าวสิ่งใดอีก

แม้ว่าเจียงเสิ่นเย่วเองก็รู้สึกพึงใจในตัวหานอี้หลง ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมไปทุกด้าน ซึ่งหากได้หานอี้หลงมาเป็นบุตรเขยก็ยิ่งจะทำให้จวนสกุลเจียงมีกำลังกล้าแข็งมากยิ่งขึ้น แต่จะให้บุตรสาวของตนลดตัวไปเป็นฮูหยินรองเช่นนั้น เขาก็มิอาจตัดจไปได้ อีกทั้งหานอี้หลงก็ได้ชื่อว่ารักใคร่ในตัวหยางชิวเหยาแต่เพียงผู้เดียว หากเจียงอันเล่อยังคิดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ ก็มีแต่จำพลอยทำให้ตนเองเสียใจจนชั่วชีวิตก็มิปาน

เจียงอันเล่อกัดฟันแน่น นางรู้ว่าบิดาพูดถูก แต่ความอัดอั้นในใจกลับยิ่งทำให้ดวงตาสุกใสของนางสั่นระริกด้วยความหงุดหงิด เจียงอันเล่อยอมรับกับตนเองว่าหลงรักหานอี้หลง แต่เหลือว่าความรักของนางก็คือเป้าหมายในการช่วยเหลือหานอี้หลงให้หลุดพ้นจากชะตากรรมอันน่าสงสารที่กำลังจะเกิดขึ้น ความโกรธและความกลัดกลุ้มลอยวนในหัวของนางจนเผลอถอนหายใจออกมาเสียงดัง

ค่ำคืนในเรือนนอนของเจียงอันเล่อกลับเงียบสงัด ร่างบางนอนตะแคงบนเตียงไม้ไผ่พร้อมหมอนปักลวดลายดอกโบตั๋น แต่หัวสมองของนางกลับวุ่นวายเกินกว่าจะหลับตาลงได้ เจียงอันเล่อจ้องมองเพดานไม้ที่มีแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาเป็นลวดลายรางๆ ในความมืด

เจียงอันเล่อนึกหาวิธีมากมายที่จะช่วยให้หานอี้หลงหลุดพ้นจากความสัมพันธ์ที่นางเห็นว่าไม่สมควร จนในที่สุดความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว เจียงอันเล่อยิ้มกว้างออกมาอย่างนึกตื่นเต้นดีใจ ก่อนจะรีบข่มตาหลับลงไปในที่สุด

รุ่งเช้าเจียงอันเล่อรีบแต่งตัวด้วยชุดผ้าไหมสีอ่อน สวมอาภรณ์เรียบง่ายแต่สง่างาม ดวงหน้าที่ดูอ่อนเยาว์เปล่งประกายด้วยแววตาแน่วแน่ เจียงอันเล่อเดินตรงไปยังห้องโถงที่เจียงเสิ่นเย่ว บิดาของตนนั่งอ่านรายงานอยู่

“ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องขอร้อง” เสียงหวานแต่หนักแน่นของบุตรสาวดึงความสนใจของเจียงเสิ่นเย่วขึ้นมาจากกองเอกสารตรงหน้า ดวงตาคมกริบของเขาเหลือบมองบุตรสาวก่อนจะขมวดคิ้วแน่นอีกครั้ง

“เล่อเอ๋อร์...เจ้ามีเรื่องอันใดหรือ” เจียงเสิ่นเย่วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงระคนระแวง

“ท่านพ่อ...ข้าต้องการไปทำงานเป็นลูกน้องใต้เท้าหานในสำนักโยธา” เจียงอันเล่อกล่าวออกมาโดยไม่ลังเล น้ำเสียงมั่นคงจนเจียงเสิ่นเย่วชะงัก ดวงตาคมไหววูบด้วยความไม่พอใจ

“เจ้าคิดเรื่องเหลวไหลอันใดขึ้นมาอีก...เรื่องเมื่อวานข้ายังมิได้ชำระความกับเจ้า วันนี้เจ้ายังจะก่อเรื่องอีกหรือ” เจียงเสิ่นเย่วตวาดออกมาในทันทีที่ได้ฟังความคิดของบุตรสาวของตน

“ท่านพ่อ...ข้ามิได้จะก่อเรื่องอันใด ข้าเพียงต้องการไปทำงานกับใต้เท้าหานที่สำนักโยธาเท่านั้น” เจียงอันเล่อกล่าวเสียงอ่อยออกมา พร้อมจ้องมองบิดาของตนด้วยสายตาอ้อนวอน

“เจ้าเป็นหญิงสาวจะออกไปทำงานภายนอกได้เช่นใด หากมีผู้ใดรู้เข้าเจ้าจะทำให้สกุลเจียงเสื่อมเสียยิ่งนัก คนสกุลเจียงมิต้องอับอายขายขี้หน้าหรอกหรือ”

เจียงอันเล่อเบะปากเล็กน้อยพร้อมถอนหายใจฟึดฟัดออกมาอย่างรู้สึกขัดใจกับค่านิยมโบราณดังกล่าว ในยุคของนาง หญิงสาวที่มีความสามารถมากมายก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าและปกครองคนหมู่มาก

“ท่านพ่อ...ท่านลองตรองดูสิเจ้าคะ ท่านพ่อเองก็ต้องการดึงใต้เท้าหานมาเป็นพวกมิใช่หรอกหรือ...หากข้าได้เข้าไปทำงานร่วมกับใต้เท้าหาน ไม่แน่ว่าต่อไปใต้เท้าหานอาจให้ความไว้วางใจในตัวข้าก็เป็นได้ ถึงเวลานั้นข้าก็ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ท่านอีกทาง มิหนำซ้ำหากมีโอกาส ข้ายังช่วยพูดหว่านล้อมใต้เท้าหานได้อีกด้วยมิใช่หรือ...ท่านมิคิดว่านี่เป็นแผนที่ดีหรอกหรือ...ท่านพ่อ”

เจียงเสิ่นเย่วนิ่งอึ้งไปชั่วขณะกับความคิดของเจียงอันเล่อ คำกล่าวของนางล้วนแล้วแต่มีเหตุผลด้วยกันทั้งสิ้น หากว่าเจียงอันเล่อทำสำเร็จมิเท่ากับช่วยร่นเวลาสำหรับแผนการใหญ่ของเขาหรอกหรือ

“เล่อเอ๋อร์...เจ้ามั่นใจกับความคิดของเจ้าขนาดนั้นเลยหรือ”

“ใช่เจ้าค่ะ” เจียงอันเล่อตอบทันที

เจียงเสิ่นเย่วได้แต่ถอนหายใจหนักออกมา ก่อนจะตัดสินใจในที่สุด “เช่นนั้นข้าจะยอมตกลง แต่ข้ามีข้อแม้”

“ข้อแม้อันใดเจ้าคะ” เจียงอันเล่อรีบเอ่ยถามอย่างลุกลี้ลุกลน

“เจ้าต้องปลอมตัวเป็นชาย และห้ามให้ผู้ใดรู้ฐานะของเจ้าเป็นอันขาด หากข้ารู้ว่าเจ้าเปิดเผยตัว ข้าจะเรียกเจ้ากลับทันที”

ดวงตาของเจียงอันเล่อเปล่งประกายด้วยความยินดี นางรีบตกปากรับคำพร้อมพยักหน้ารับในทันที “ข้าสัญญาเจ้าค่ะ ท่านพ่อ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel