บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 คำพูดเสียดแทง

ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง บทที่ 5 คำพูดเสียดแทง

เจียงอันเล่อที่หัวเสียเรื่องหานอี้หลงและหยางชิวเหยา นางยังคงรู้สึกหงุดหงิดใจไม่หาย หัวใจของนางเต็มไปด้วยความคับข้องหมองใจ เจียงอันเล่อจึงตัดสินใจปลีกตัวออกมาเดินเล่นในสวนเพื่อคลายความรู้สึกที่เกาะกินจิตใจในตอนนี้ให้สงบลง

เจียงอันเล่อเดินทอดน่องไปตามทางอย่างเลื่อนลอย ความคิดกังวลสับสนว้าวุ่นในใจปะปนผสมผสานจนนางรู้สึกปวดหัวไปหมด ใบหน้างดงามของนางมีความเคร่งเครียดปรากฏชัด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น แววตาเรียวงามเต็มไปด้วยความว้าวุ่นใจและความผิดหวัง

ขณะเดินไปเรื่อยๆ สายตาของเจียงอันเล่อก็พลันสะดุดเข้ากับร่างของหยางชิวเหยาที่กำลังนั่งอยู่ในศาลากลางสวนเพียงลำพัง ใบหน้าขาวละมุนของนางดูอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความเหนื่อยล้า นางกำลังนั่งพิงเสาไม้ มองสระน้ำเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย

เจียงอันเล่อหยุดชะงักทันทีที่เห็นอีกฝ่าย นางเบือนหน้าเตรียมหันหลังกลับอย่างมิคิดจะเข้าไปเสวนาด้วย แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว

เจียงอันเล่อตัดสินใจสาวเท้าเข้าไปภายในศาลาและประจันหน้ากับหยางชิวเหยาอย่างไม่รอช้า

“ฮูหยินหาน ข้ามีเรื่องจะพูดกับท่าน” เสียงของเจียงอันเล่อดังขึ้นอย่างไม่ลังเล ดวงตาเรียวแหลมของนางจ้องมองเขม็งตรงไปยังหยางชิวเหยา

หยางชิวเหยาเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจียงอันเล่อ แววตาของนางมีประกายสงสัย แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มบางที่มุมปากเล็กน้อย “เชิญคุณหนูเจียง” นางเอ่ยด้วยเสียงเรียบสงบ

เจียงอันเล่อไม่รอช้า นางโพล่งออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างตรงไปตรงมา “ท่านรักใต้เท้าหานหรือไม่”

คำถามที่ไม่คาดคิดทำให้รอยยิ้มบางของหยางชิวเหยาหายไปในทันที นางนิ่วหน้าลงอย่างไม่พอใจ “เหตุใดท่านถึงกล่าวเช่นนั้น”

เจียงอันเล่อเชิดหน้าขึ้น ราวกับกำลังท้าทาย “ข้ามิอยากอ้อมค้อม แต่ในเมื่อท่านมีผู้อื่นในใจ เหตุใดจึงยังรั้งใต้เท้าหานไว้ข้างกาย ท่านไม่คิดหรือว่าการทำเช่นนี้จะเป็นการทำร้ายใต้เท้าหานหรอกหรือ”

คำพูดของเจียงอันเล่อเสียดแทงหัวใจของหยางชิวเหยา นางมีสีหน้าลำบากใจ ดวงตาที่เคยสงบนิ่งเริ่มสั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม

“คุณหนูเจียง ข้าคิดว่าท่านกล่าวล่วงเกินข้ามากไปแล้ว ข้ากับใต้เท้าหานอยู่ร่วมกันอย่างดียิ่ง ไม่รบกวนคุณหนูเจียงต้องเป็นห่วง” หยางชิวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงด้วยความตึงเครียด

“แน่นอนว่าตอนนี้ดียิ่งตามที่ท่านว่า แต่เมื่อใดที่คนรักของท่านกลับมา ท่านยังคิดว่าเรื่องนี้จะยังดียิ่งอยู่อีกหรือ” เจียงอันเล่อกล่าวออกมาอย่างคาดคั้นอยู่ในที

หยางชิวเหยาได้แต่นิ่งงันไป คำพูดของเจียงอันเล่อเหมือนเสียดแทงเข้าไปภายในหัวใจของตน คำพูดดังกล่าวตอกย้ำความจริงในหัวใจของนาง นางกับหานอี้หลงแต่งงานกันมาถึงสี่ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาหานอี้หลงปฏิบัติตัวดีต่อนางแทบทุกอย่าง ทั้งสองยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกันไว้ได้เป็นอย่างดียิ่ง แต่เมื่อหยางชิวเหยาคิดถึงจางลู่เหวิน ชายหนุ่มที่นางได้มอบหัวใจให้ขึ้นมา หัวใจของนางก็เต้นรัวแรงขึ้นมา ไม่รู้ว่าเวลานี้เขาจะอยู่ที่ใด และหากจางลู่เหวินปรากฏตัวตรงหน้านางในตอนนี้ นางจะทำเช่นใดดี

เจียงอันเล่อสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของหยางชิวเหยา นางยิ้มเยาะขึ้นมาในทันที “ท่านเห็นหรือยังว่าท่านเองก็มิอาจตัดใจจากคนรักเก่าของท่านได้ หากท่านยังคงยึดใต้เท้าหานไว้เช่นนี้ มิเท่ากับท่านจงใจทำร้ายเขาหรอกหรือ”

หยางชิวเหยากำลังจะอ้าปากกล่าวคำใดออกมา แต่กลับต้องกลืนน้ำลายเหนียวลงคอด้วยมิรู้จะแก้ต่างสิ่งใดออกไป

ทันใดนั้นน้ำเสียงดุเข้มก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “บังอาจนัก คุณหนูเจียง ท่านหยุดพูดจาก้าวร้าวกับฮูหยินของข้าได้แล้ว”

เสียงของหานอี้หลงดังลั่นขึ้นพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของเขาที่ก้าวเข้ามา พร้อมรีบปรี่เข้ามาประคองหยางชิวเหยาเอาไว้แนบกาย สายตาจับจ้องมองหน้าเจียงอันเล่ออย่างถมึงทึง ใบหน้าคมคายของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แววตาดุดันของเขาจ้องตรงไปยังเจียงอันเล่อด้วยความตำหนิ

“ใต้เท้าหาน...” เจียงอันเล่ออุทานออกมาอย่างตกใจ

“คุณหนูเจียง ข้าเห็นแก่หน้าท่านโหว บิดาของท่าน ครั้งนี้ข้าจะไม่ถือสาหาความ แต่ต่อไปหากท่านยังลบหลู่ฮูหยินของข้าอีก ข้ามิมีวันให้อภัยท่านแน่” หานอี้หลงคำรามออกมาอย่างโกรธขึ้ง

“ใต้เท้าหาน ท่านช่วยตั้งสติหน่อยได้ไหม หัดมองความเป็นจริงเสียบ้าง มิเช่นนั้นท่าน...” เจียงอันเล่อพยายามจะเถียงออกมา แต่นางยังไม่ทันพูดจบ เสียงของเจียงเสิ่นเย่ว ผู้เป็นบิดาก็ดังขัดขึ้นมา

“เล่อเอ๋อร์ เจ้าหยุดได้แล้ว”

เจียงเสิ่นเย่วเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาส่งสายตาตำหนิใส่บุตรสาว ก่อนจะหันไปพูดกับหานอี้หลงด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ใต้เท้าหาน บุตรสาวของข้ายังเด็กนัก จึงพูดจามิรู้จักคิด ขอใต้เท้าหานอย่าได้ถือโทษเลย”

หานอี้หลงสะบัดหน้าหนีด้วยความไม่พอใจ หยางชิวเหยาเห็นดังนั้นจึงกระตุกชายเสื้อของเขาเบาๆ เพื่อให้หานอี้หลงใจเย็นลง

“ท่านโหว เรื่องคราวนี้ข้าจะไม่ถือสาอันใด แต่หวังว่าท่านจะอบรมคุณหนูเจียงให้ดี เช่นนั้น ข้ากับฮูหยินขอตัวลา”

หานอี้หลงกล่าวจบก็ประคองหยางชิวเหยาเดินจากไปในทันที ทิ้งให้เจียงอันเล่อยืนอยู่กับเจียงเสิ่นเย่วด้วยความรู้สึกที่ปะปนทั้งโกรธและอับอาย

ภายในรถม้าปกคลุมไปด้วยความอึมครึม หยางชิวเหยาได้แต่นั่งนิ่งพร้อมกับความคิดภายในหัว คำกล่าวของเจียงอันเล่อยังคงดังก้องอยู่ในหัวของนางอย่างไม่ขาดหายไป นั่นยิ่งเพิ่มความรู้สึกผิดต่อหานอี้หลงที่มีภายในใจให้ปะทุมากยิ่งขึ้นไปอีก

“เหยาเอ๋อร์ คุณหนูเจียงกล่าวสิ่งใดกับเจ้าหรือ ดูเจ้าไม่สบายใจยิ่งนัก” หานอี้หลงเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย

หยางชิวเหยาได้แต่ยิ้มเจื่อนออกมา นางจะบอกหานอี้หลงเกี่ยวกับคำกล่าวของเจียงอันเล่อได้เช่นใดกัน “ไม่มีอันใดหรอกท่านพี่ คุณหนูเจียงยังเด็กนัก ท่านก็อย่าถือความนางเลย” หยางชิวเหยารีบกล่าวกลบเกลื่อนออกมา ก่อนจะหันหน้าออกไปมองด้านนอกหน้าต่างอีกครั้ง

หานอี้หลงได้แต่ถอนหายใจออกมา พลางนึกก่นด่าเจียงอันเล่อในใจ “นางช่างเป็นหญิงสาวที่ไร้มารยาทยิ่งนัก หวังว่าต่อไปคงมิต้องพบเจอกับนางอีก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel