ข้าจะล่อลวงขุนพล(BL)

60.0K · จบแล้ว
ซีฟางกั๋วเจีย/เอสเต้
28
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นักฆ่าหนุ่มรูปงาม "เหยาโม่หลิน" บาดเจ็บสาหัสอยู่ในป่า ได้รับความช่วยเหลือจากขุนพลอี้ เหยาโม่หลินขออาสาอยู่เป็นทหารรับใช้อี้เจียหนานเพื่อตอบแทนบุญคุน ขณะเดียวกันก็อาศัยตำแหน่งของขุนพลอี้ในการสืบหาพี่ชายที่พลัดพรากกันไป อี้เจียหนานรู้สึกหวั่นไหวกับทหารใหม่ผู้นี้ แม้เขาจะรู้ว่าเหยาโม่หลินทำตัวเป็นแกะห่มหนังเสือแต่เขาก็ยินดี...และหาทางให้เหยาโม่หลินตกเป็นของเขา

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนิยายYaoiนิยายรักนิยายกำลังภายในนิยายย้อนยุค

บทที่ 1 สภาพยับเยิน

“นี่มัน...ศพหรือคนกันแน่?”

ใบหน้าของขุนพลหนุ่มก้มลงมองไปรอบๆ ร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ครั้นยื่นนิ้วไปอังที่จมูกก็รู้ว่าอีกฝ่ายยังมีลมหายใจรวยรินเหลืออยู่ เขายอบกายลงพลิกร่างนั้นให้หงายขึ้น

อี้เจียหนานถึงกับผงะ เมื่อเห็นใบหน้าที่เปรอะไปด้วยเลือดทั้งแถบ ใบหน้าข้างแรกที่เขาเห็นก็ดูน่ากลัวอยู่แล้ว ข้างนี้ยิ่งน่ากลัวว่าเสียอีก

ขุนพลหนุ่มผู้รักสะอาดล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากสาบเสื้อแล้วเช็ดเลือดบริเวณใกล้ตา จมูก และปากของร่างที่หมดสติ

“ข้าช่วยเช็ดให้เจ้าเท่านี้ก็นับว่าข้าเสียสละมากแล้ว เฮ้อ! ดีนะที่วันนี้ข้ามิได้พกผ้าเช็ดหน้าผืนโปรดมา ไม่เช่นนั้นคงเสียดายแย่”

ชายหนุ่มบ่นพึมพำแล้วโยนผ้าเช็ดหน้าชุ่มเลือดทิ้งไป เขานึกดีใจที่วันนี้มิได้หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าที่พี่สาวปักให้มาใช้

ขุนพลอี้เดินออกไปจากหลังกลุ่มไม้ใหญ่แล้วร้องเรียก

“ทหาร! เข้ามาทางนี้ที”

ทหารติดตามเขารีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว

“พวกเจ้าแบกคนผู้นี้เข้าไปที่กระโจมรักษาที แล้วบอกให้ท่านหมออู๋มาดูอาการของเขาด้วย”

ร่างของเหยาโม่หลินจึงถึงทหารช่วยกันยกใส่เปลสนามหามออกไปยังค่ายที่ตั้งอยู่ชายป่าไม่ไกลนัก

อู๋ชวินมองเห็นสภาพของคนที่ถูกหามเข้ามาก็เลิกคิ้วสูง

“เขายังมีชีวิตอยู่หรือ?”

“ขอรับ ลมหายใจรวยรินเหลือเกินท่านหมอ ขุนพลอี้ขอให้ท่านด้วยดูอาการให้เขาหน่อยขอรับ”

“คนผู้นี้....” ท่านหมออู๋เดินเข้ามาใกล้ๆ “เขาไม่ใช่ทหารในหน่วยของเรานี่? ขุนพลอี้ไปพบเขาที่ใด?”

“ชายป่าตรงที่พวกเราไปลาดตระเวนน่ะขอรับ”

“อืม....สภาพของเขาคงจะไม่อาจเคลื่อนย้ายได้สักสองสามวัน”

“แต่พรุ่งนี้หน่วยเราต้องเดินทางกลับค่ายแล้วนะขอรับท่านหมอ”

“นั่นน่ะสิ เจ้านำเรื่องนี้ไปแจ้งให้ขุนพลอี้ทราบที”

อี้เจียหนานได้ฟังความกังวลของอู๋ชวินก็ก็โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ

“เจ้าไปบอกท่านหมออู๋เถิดว่าให้ทำเท่าที่ทำได้ หากว่าเขายังไม่ตาย เดี๋ยวข้าจะออกเงินแล้วนำตัวเขาไปฝากให้หมอแถวนี้ดูแลเขาต่อเอง”

อู๋ชวินมองร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงในกระโจมด้วยความอเนจอนาถ ก่อนจะหันไปสั่งให้ทหารที่มาช่วยดูแลคนป่วยช่วยกันถอดเสื้อผ้าและเช็ดตัวให้กับผู้บาดเจ็บ

พอเห็นบาดแผลภายในเสื้อผ้าที่ชุ่มด้วยเลือด ทั้งทหารที่มาช่วยเช็ดตัวและท่านหมออู๋เองต่างแตกตื่น

“ทารุณขนาดนี้...ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยขอรับ” ทหารผู้หนึ่งร้องขึ้น

“นี่มัน....โหดร้ายเกินไปแล้ว” อู๋ชวินถึงกับครางออกมา “พวกเจ้าเร็วเข้า มาช่วยข้าบดยาทาเขา คงต้องใช้ยาจำนวนมากเลยทีเดียว”

ท่านหมอประจำหน่วยทหารที่แปดชี้นิ้วไปยังหีบใหญ่ที่วางอยู่มุมกระโจม สมุนไพรที่เขาไปสั่งซื้อมาจากร้านยาในเมืองหลวงเพราะจะนำไปผสมเป็นยาทาสูตรเฉพาะของสกุลอู๋ซึ่งสามารถสมานแผลได้เร็วกว่ายาทั่วไป

อู๋ชวินกำกับทหารให้ช่วยกันบดสมุนไพรหลายขนานอย่างขะมักเขม้น ส่วนตัวเขาก็นำเอาโถยาที่ผสมไว้แล้วบางส่วนออกมาทาแผ่นหลังให้ผู้บาดเจ็บอย่างเบามือ

“ข้าหวังว่าเขาจะสามารถฟื้นตัวได้โดยเร็ว หากยาของข้าได้ผล จะได้ผสมเอาไว้ให้ทหารทั้งกองทัพได้ใช้”

“อาการของเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

“บาดแผลน่ากลัวเหลือเกิน ท่านดูสิ ข้าไม่เคยผู้ใดถูกทารุณรุนแรงเช่นนี้มาก่อน แส้ที่ใช้ฟาดเขาน่าจะเป็นแส้โลหะมีหนาม แผ่นหลังของเขาแทบจะไม่มีช่วงใดหลุดรอดจากการโบยตีได้ด้วยซ้ำ ส่วนด้านหน้าก็มีแผลถูกกระบี่ฟัน แม้จะไม่ลึกแต่....ก็น่าเป็นห่วง”

อี้เจียหนานก้มลงมองไปทั่วแผ่นหลังของคนที่ตนช่วยชีวิตด้วยความอัศจรรย์ใจ

“ข้าประหลาดใจที่เขาทนทานการทารุณอย่างนี้ได้มากกว่า หากเป็นผู้อื่นคงจะขาดใจตายเพราะความเจ็บปวดแล้ว”

“อืม...จริงของท่าน ร่างกายของเขาอดทนได้มากกว่าคนทั่วไปจริงๆ”

“พรุ่งนี้หน่วยของเราก็ต้องเดินทางกลับค่ายแล้วนี่ขอรับ”

“ยังหรอกหมออู๋ พอดีมีคำสั่งให้เราปักหลักอยู่ที่นี่เพราะหน่วยที่เจ็ดจะมาร่วมฝึกด้วย เห็นว่าที่ป่าด้านโน้นมีเสือออกมาอาละวาด จำต้องล่าเสือให้ได้เสียก่อน เพื่อมิให้เสียการจึงได้ย้ายมาฝึกที่นี่”

ท่านหมออู๋พยักหน้าหงึกหงัก บริเวณที่พวกเขามาฝึกเป็นภูเขาขนาดเล็กที่มีป่าทึบอยู่รายรอบเรียกกันว่า ‘ป่าสิบตำบล’

“ท่านอยากจะฝึกทหารร่วมกับขุนพลเสิ่นอยู่หรือ?”

“ข้าย่อมไม่อยากอยู่แล้ว เจ้าก็รู้ว่าข้ากับเขาไม่ถูกชะตากันนัก”

อู๋ชวินได้แต่ถอนหายใจ เสิ่นหาวไม่พอใจที่อู๋ชวินซึ่งเป็นคู่หมั้นของน้องสาวไม่ค่อยสนใจเสิ่นรุ่นซินของเขานักจึงเขม่นขุนพลอู๋มาตลอด

“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ยังมีเวลารักษาคนผู้นี้ต่อไปอีก อันที่จริงข้าสนใจอยากจะทดลองยาสมานแผลสูตรใหม่พอดี บาดแผลของเขาลึกเข้าไปถึงชั้นเนื้อด้านใน หากยาของข้าได้ผล ครั้งนี้กองทัพจะได้มียาสมานแผลชั้นดีเอาไว้ใช้”

อี้เจียหนานมองดูแผ่นหลังเหวอะหวะที่เปิดเปลือยของผู้บาดเจ็บ ผมยาวดำขลับถูกมัดไขว้เอาไว้ด้านหนึ่ง ใบหน้าด้านข้างนั้นดูงดงามจนขุนพลหนุ่มที่คิดจะมองผ่านๆ ต้องขยับเข้าไปใกล้

‘ตอนนั้นก็พอจะมองออกว่าเจ้าหน้าตาดี แต่ไม่คิดว่าจะดีขนาดนี้’

ท่านหมออู๋ทำหน้าฉงน เขาไม่เคยเห็นขุนพลอี้ผู้เจ้าระเบียบสนใจผู้อื่นขนาดนี้มาก่อน ครู่หนึ่งอี้เจียหนานก็เหมือนจะรู้ตัวเลยรีบออกไปจากกระโจม

“ขุนพลอี้!” อู๋ชวินตะโกนร้องเรียกแต่อี้เจียหนานกลับเดินลิ่วไม่เหลียวหลัง

ขุนพลหนุ่มร่างสูงใหญ่ไปยืนนิ่งอยู่หน้ากระโจมของตน เขารู้สึกว่าตนองกำลังถูกใบหน้าที่หลับใหลของคนผู้นั้นดึงดูดจนต้องตั้งสติแล้วหนีออกมา

‘เหตุใดข้าจึงต้องหนีด้วย?’

อี้เจียหนานเข้าไปนั่งสงบสติอารมณ์ในกระโจมอยู่นานสองนาน กระทั่งทหารหน้าประตูเข้ามาแจ้งว่านายกองโจวขอเข้าพบ

“ไปเชิญเข้ามา”

โจวเฉินนายกองที่เข้ามาอยู่ในหน่วยที่แปดก่อนหน้าอี้เจียหนานได้ไม่นาน นับเป็นทหารฝีมือดีที่ได้รับความนับถือจากสหายร่วมงานจนได้กุมกองกำลังแนวหน้าของหน่วยที่แปดที่เรียกขานกันว่า “หน่วยบุกทะลวง”

“ขุนพลอี้ พรุ่งนี้หน่วยที่เจ็ดจะเดินทางมาถึง ท่านกำหนดการฝึกกับพวกเขาอย่างไรขอรับ?”

“เอาตามกำหนดการเดิมของเรา อย่าให้เขามารบกวนเด็ดขาด หากพวกเขาอยากฝึกก็ให้ขยับไปอีกฟากของป่า”

“ขอรับ”

โจวเฉินรีบออกไปแจ้งในทหารทั้งหมดรับทราบกำหนดการฝึกทันที คืนนั้นอี้เจียหนานเดินตรวจตรารอบค่ายชั่วคราวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแวะไปดูอาการของคนที่ตนช่วยชีวิตเอาไว้

“เขาได้สติแล้ว ท่านเข้าไปดูเถิด” อู๋ชวินเอ่ยอย่างตื่นเต้น “ยาของข้าได้ผลดีทีเดียว แผลของเขาสมานเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ร่างกายของคนผู้นี้ช่างแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด”

ขุนพลอี้ก้าวเท้าเข้าไปยืนอยู่หน้าแท่นที่คนผู้นั้นนอนอยู่

“เหยาโม่หลิน นี่คือผู้ที่ช่วยชีวิตเจ้า ขุนพลอี้แห่งหน่วยทหารที่แปดของกองทัพเมืองฉู่จิ้ง”

ดวงตาของคนผู้นั้นงดงามดุจตาหงส์ ขนตาเป็นแพหลุบต่ำขณะค้อมศีรษะพร้อมกล่าวขอบคุณ

“ข้าน้อยเหยาโม่หลินขออยู่รับใช้ท่านขุนพลได้หรือไม่ขอรับ?”

“เอ๋? เจ้าคิดจะอยู่เป็นทหารกับข้าอย่างนั้นหรือ?” ขณะสวนคำถามนี้กลับไป ในใจของขุนพลหนุ่มรู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก

“ขอรับ ข้าเองก็ไม่มีที่ไปแล้ว ในเมื่อท่านช่วยชีวิตข้า ข้าก็จะขออยู่เป็นทหารรับใช้ในค่ายของท่านก็แล้วกัน”

**********************

ไรเตอร์แนะนำ...ซีรีย์ "ล่อลวง" เป็นนิยายวายจีนโบราณ ประกอบด้วย 3 เรื่อง คือ 1) ข้าจะล่อลวงนักฆ่า 2) ข้าจะล่อลวงมือปราบ 3) ข้าจะล่อลวงขุนพล อีบุ๊กทุกเล่มวางจำหน่ายทาง mebmarket.com ค่ะ ติดตามผลงานไรเตอร์ได้ทางแฟนเพจเฟสบุ๊ก "เอสเต้และซีฟางกั๋วเจีย"​