บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 ขายเครื่องประดับได้เงินทุนเพิ่ม

เช้าวันถัดมาการตั้งร้านขายอาหารทอด ก็ยังคงมีลูกค้ามาต่อแถวอย่างคึกคักเช่นเดิม ในช่วงปลายยามเฉินท่านพ่อและพี่ชาย กำลังช่วยกันเก็บของอยู่ทางด้านหลัง เพราะของที่ขายก็เหลือน้อยแล้ว ลู่ชิงจึงบอกกับท่านแม่ว่าแถมเนื้อหมูให้ลูกค้าสักหน่อยจะได้เก็บของกลับบ้าน ส่วนนางกับท่านพ่อจะไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เรื่องซื้อร้านค้าและจะนำเครื่องประดับไปขายที่ร้านของเถ้าแก่หงด้วย เผื่อมีร้านค้าที่ราคาไม่สูงมากจะได้ซื้อไว้ก่อน

“ท่านแม่เจ้าคะ ถ้ามีลูกค้ามาซื้ออีกสักสองสามคน ท่านก็แถมเนื้อหมูเพิ่มไปสักหน่อย ท่านแม่กับพี่ชายจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนรอพวกเราเจ้าค่ะ”

“แม่รู้แล้ว ๆ เจ้าย้ำกับแม่หลายรอบแล้วนะชิงเอ๋อร์” นางส่ายหน้าให้กับบุตรสาวเล็กน้อย เพราะนางเอาแต่ย้ำเรื่องนี้อยู่หลายรอบ

“แหะ ๆ ๆ เจ้าค่ะท่านแม่ เช่นนั้นข้ากับท่านพ่อจะรีบไปทำธุระให้เรียบร้อยนะเจ้าคะ พวกท่านกลับไปรอฟังข่าวดีอยู่ที่บ้านได้เลยเจ้าค่ะ”

ฟางซินมองตามสามีกับบุตรสาว ที่เดินออกไปแล้วอยู่เงียบ ๆ ได้แต่คิดในใจ ตั้งแต่มีเด็กคนนี้เข้ามาครอบครัวก็มีเสียงหัวเราะได้ทุกวัน สองคนพ่อลูกตรงไปที่ร้านของเถ้าแก่หง เพื่อนำครื่องประดับจากในมิติไปขายจะได้มีเงินสำรองเพิ่ม เผื่อเจอร้านที่ถูกใจแต่ราคาสูงจะได้ไม่เสียเวลา

“สวัสดีขอรับนายท่านคุณหนู สนใจเครื่องประดับแบบใดเชิญเลือกดูก่อนได้ขอรับ”

ลู่ชิงชื่นชมเถ้าแก่หงที่สามารถอบรมพนักงานได้ดี ไม่ดูคนเพียงการแต่งกายแต่ให้เกียรติทุกคน ที่เข้ามาใช้บริการที่ร้านแห่งนี้

“สวัสดีเจ้าค่ะพี่ชาย ไม่ทราบว่าวันนี้เถ้าแก่หงอยู่หรือไม่ พอดีข้ามีสินค้าสวย ๆ มาเสนอขายกับเถ้าแก่เจ้าค่ะ”

“เถ้าแก่อยู่ที่ห้องทำงานขอรับ เช่นนั้นเชิญท่านทั้งสองนั่งรอด้านในสักประเดี๋ยว ข้าจะเข้าไปเรียนเถ้าแก่ให้พวกท่านนะขอรับ”

“ขอบคุณพี่ชายมากเจ้าค่ะ ท่านพ่อเราเข้าไปนั่งรอเถ้าแก่หงด้านในกันเจ้าค่ะ”

ลู่เวินพยักหน้าให้บุตรสาวและเดินตามเข้าไปด้านใน เรื่องการขายเครื่องประดับเขาให้บุตรสาวจัดการ ส่วนตัวเองคอยสังเกตการซื้อขายอยู่ด้านข้าง ว่าถูกเอาเปรียบหรือมีตรงไหนไม่ยุติธรรมหรือไม่ สองคนพ่อลูกรออยู่ไม่นานนัก เถ้าแก่หงก็เดินออกจากห้องทำงานมาหาทั้งสองคน

“อ้าว เป็นเจ้าเองหรอกรึแม่หนูลู่ชิง วันนี้มีของดีอะไรมาขายให้ข้าอีกหรือไม่ เพราะเครื่องประดับของเจ้าคราวก่อนขายได้ราคาดีมากเชียวล่ะ บรรดาคุณหนูหรือแม้แต่ฮูหยินแย่งกันให้ราคา เพื่อซื้อเครื่องประดับของเจ้า หือ แล้วท่านผู้นี้ที่มากับเจ้าคือใครหรือแม่หนูลู่ชิง”

“อ้อ นี่คือท่านพ่อของข้าเองเจ้าค่ะ”

“คารวะเถ้าแก่หงยินดีที่ได้รู้จักขอรับ ข้าชื่อสวีลู่เวินขอรับ”

“ที่แท้ก็บิดาของแม่หนูลู่ชิงนี่เองยินดีที่ได้รู้จัก ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นคนกันเองเถิดนะ เพราะได้บุตรสาวท่านนำเครื่องประดับสวย ๆ แปลกตามาขายที่ร้านของข้า ทำให้ตอนนี้มีคนอยากได้บ้าง จึงมาถามทุกวันจนข้าไม่รู้จะตอบยังไงแล้ว โชคดีจริง ๆ ที่พวกเจ้ามาหาในวันนี้ เอาเป็นว่าพวกเราเข้าไปคุยกันที่ห้องทำงานของข้าดีกว่านะ เชิญ ๆ ๆ”

เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องทำงาน เถ้าแก่หงไม่รอช้ารีบถามลู่ชิงทันที ครั้งก่อนเครื่องประดับของนางทำรายได้ให้เขาไม่น้อย ได้กำไรมากกว่าที่เขาขายเป็นรายเดือนเสียอีก

“เชิญนั่ง ๆ แม่หนู วันนี้มีอะไรมาเจ้ารีบเอาออกมาให้ข้าดูหน่อยเถิด ข้าตื่นเต้นกับเครื่องประดับของเจ้าจริง ๆ”

“เถ้าแก่อย่าเพิ่งใจร้อนเจ้าค่ะ วันนี้มีเครื่องประดับสวย ๆ มาเสนอกับท่านแน่นอน แต่ครั้งนี้ข้านำมันมาทั้งหมดสามชุดนะเจ้าคะ”

ลู่ชิงหยิบกล่องเครื่องประดับออกมาจากถุงผ้า ที่สะพายมาจำนวนสามกล่อง แต่ละกล่องเป็นเครื่องประดับยกชุด ประกอบด้วยสร้อยคอ ต่างหู กำไลและแหวนแบบเข้าชุด ทั้งสามกล่องเป็นครื่องประดับเพชร มรกต ไข่มุกเม็ดโต เมื่อเถ้าแก่ได้เห็น ถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้างตาโตเกือบลืมหายใจไปแล้ว

“นะ นะ นี่มันสวยมากเกินไปแล้ว สวยทุกชุดเลยนะแม่หนูลู่ชิง ข้าเห็นยังอยากจะได้ไว้ในครอบครองเลย” เถ้าแก่หงพูดไม่เกินจริง เขาค้าขายเรื่องนี้มานานจะดูไม่ออกได้อย่างไร

“ที่เถ้าแก่เห็นกล่องแรกเป็นชุดเครื่องเพชรเจ้าค่ะ มันเหมาะสำหรับใส่ไปออกงานเลี้ยงตอนค่ำ และจะยิ่งงดงามยามต้องแสงไฟ ส่วนกล่องที่สองเรียกว่ามรกต ล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็ก ๆ อีกทีเจ้าค่ะ ชุดนี้สามารถใส่ไปงานเลี้ยงได้ทั้งกลางวันและกลางคืน กล่องที่สามเป็นไข่มุกบริสุทธิ์ ตัวสร้อยจะมีจี้ไข่มุกเม็ดโตล้อมด้วยเพชรเล็ก ๆ ใส่ออกงานได้เช่นกันเจ้าค่ะ ที่สำคัญเครื่องประดับทั้งสามชุด สามารถแยกออกมาใส่ได้ทุกวันคือแหวน ต่างหู และกำไลหรือสร้อยข้อมือเจ้าค่ะ”

“แม่หนูลู่ชิง เจ้าช่างเก่งกาจเสียจริง ที่สรรหาเครื่องประดับสวย ๆ มาขายให้ข้า มันสวยจนไม่อยากเอาออกไปขายเลยนะ ถ้าฮูหยินของข้าได้เห็นมันนางคงจะเก็บเอาไว้เองแน่ ๆ”

ลู่เวินเห็นชุดเครื่องประดับ ที่บุตรสาวนำออกมาขายก็ตะลึงไม่แพ้เถ้าแก่เช่นกัน เขาเห็นด้วยกับเถ้าแก่ที่ว่าไม่อยากขายเพราะมันสวยมาก

“เถ้าแก่อย่าพูดเช่นนั้นเลยเจ้าค่ะ ของซื้อของขายถึงยังไงข้าก็จะพยายามหาเครื่องประดับสวย ๆ มาขายให้กับท่านอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่บ่อยนะเจ้าคะถ้าเป็นชุดเช่นครั้งนี้ เถ้าแก่จะว่าอะไรหรือไม่หากข้าอยากจะเสนอแนวทาง การขายเครื่องประดับทั้งสามชุดนี้แก่ท่านเจ้าค่ะ”

“หืม แม่หนูลู่ชิงมีวิธีในการขายเช่นไร ลองบอกให้ข้าฟังก่อนเถอะ เผื่อมันจะช่วยข้าตัดสินใจ ขายเครื่องประดับพวกนี้ได้ง่ายขึ้น” ถ้าเป็นวิธีที่ช่วยให้ขายได้ง่ายและได้เงินในราคาสูงเขาย่อมยินดีรับฟัง

“เจ้าค่ะ วิธีของข้ายังจะช่วยท่าน ลดความวุ่นวายของลูกค้าได้ ซึ่งนั่นก็คือการเปิดประมูล ใครให้ราคาสูงที่สุดในแต่ละชุด ก็จะได้เป็นเจ้าของ หากทำแบบนี้ถือว่ายุติธรรมกับทุกคนนะเจ้าคะ เถ้าแก่เองจะได้ไม่ต้องกังวลว่าใครจะใช้อำนาจมาข่มขู่เพื่อซื้อเครื่องประดับในราคาถูกได้”

เถ้าแก่หงได้ฟังก็คิดว่าเป็นวิธีที่ดีไม่น้อย การแข่งกันให้ราคาถือว่ายุติธรรมสำหรับทุกคน เขาจะเปิดประมูลที่เมืองหย่งจินหนึ่งชุด และจะนำอีกสองชุด ไปเปิดประมูลที่ร้านสาขาใหญ่ในเมืองหลวง เพราะผู้คนที่อยู่ที่นั่นต่างร่ำรวย มีเงินทองใช้จ่ายหรือจะเรียกว่าโอ้อวดกันก็ยังได้

“เจ้าช่างฉลาดเกินไปแล้ว วิธีการของเจ้าดีมาก ๆ ข้าจะนำมันไปใช้ในการประมูลอย่างแน่นอน ขอบใจเจ้ามากนะแม่หนูลู่ชิง แล้วเจ้าตั้งราคาเครื่องประดับทั้งสามชุดไว้ที่เท่าไหร่เล่า”

“ราคาของเครื่องประดับทั้งสามชุด ข้าตั้งไว้ชุดละสามหมื่นห้าพันตำลึงทองเจ้าค่ะ เถ้าแก่เห็นว่าอย่างไรราคานี้ คงจะเล็กน้อยไปเลยนะเจ้าคะเมื่อเทียบรายได้จากการที่ท่านนำไปประมูล”

เถ้าแก่หงหยุดใช้ความคิดเพียงครู่เดียว ก็พยักหน้าตามที่แม่หนูลู่ชิงพูด ย่อมเป็นเรื่องจริงแน่นอน เครื่องประดับชุดแรกหากประมูลขึ้นมา เขาก็ได้ต้นทุนคืนแล้วที่เหลือต้องบอกว่ากำไรเต็ม ๆ เชียวล่ะ

“ตกลง ข้าให้ราคาตามที่เจ้าเสนอมา แต่ครั้งหน้าถ้าเจ้ามีเครื่องประดับสวย ๆ ต้องมาเสนอขายกับข้าเป็นคนแรกเจ้าจะตกลงหรือไม่” เถ้าแก่จะปล่อยให้คู่ค้ามือหนึ่ง ไปทำการค้ากับคู่แข่งคนอื่นได้อย่างไร

ลู่เวินอึ้งเป็นครั้งที่สอง เมื่อได้ยินราคาเครื่องประดับที่บุตรสาวบอกกับเถ้าแก่หง เขาไม่ได้หูฝาดไปกระมัง หากขายสามชุดนี้บุตรสาวของเขา จะได้เงินถึงหนึ่งแสนห้าพันตำลึงทองเชียวนะ

“ข้าย่อมตกลงเจ้าค่ะ เพราะร้านอื่นที่เคยนำเครื่องประดับไปขาย พวกเขาปฏิบัติกับข้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ร้านของท่านแตกต่างและอบรมพนักงานได้ดีมากเจ้าค่ะ อ้อ เมื่อครู่ท่านบอกว่าถ้าฮูหยินของท่าน เห็นสินค้าสามชุดนี้คงอยากเก็บไว้ ข้ามีของตอบแทนให้เถ้าแก่เล็กน้อย ที่รับซื้อเครื่องประดับของข้า และให้ราคาที่ยุติธรรมมาตลอด นี่เจ้าค่ะของในกล่องนี้เป็นต่างหูเพชรและแหวนเพชร ท่านเอาสิ่งนี้ห่อเป็นของขวัญให้กับฮูหยินก็ได้ ชีวิตคู่ต้องหมั่นเติมความรักให้กัน ถึงจะมีความสุขเจ้าค่ะ” ลู่ชิงต้องผูกสัมพันธ์กับคู่ค้ากระเป๋าหนัก เผื่อวันหน้าจะมีการค้าอย่างอื่นเพิ่ม

“นี่เจ้าให้ข้าจริง ๆ รึ? ไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ หากฮูหยินของข้าได้เห็นคงจะสวมใส่มันทุกวันเป็นแน่ นางเป็นคนชอบของสวย ๆ งาม ๆ เช่นนี้เสียด้วย ขอบใจเจ้ามากจริง ๆ หากครั้งหน้าเจ้ามีเครื่องประดับแบบนี้มาขายอีก ข้าจะให้ราคาพิเศษกับเจ้าแน่นอน ฮ่า ๆ ๆ”

เถ้าแก่หงที่รับกล่องเครื่องประดับจากลู่ชิงมาเปิดดู ก็หัวเราะอย่างมีความสุขเพราะฮูหยินของเขาชอบของสวยงามจริง ๆ

“พวกเจ้ารอที่นี่สักครู่ ข้าจะไปเอาตั๋วเงินมาให้”

“เจ้าค่ะ” เมื่อเถ้าแก่หงเดินออกไปแล้วท่านพ่อก็พูดกับนางทันที

“ชิงเอ๋อร์ พ่อไม่ได้หูฝาดใช่หรือไม่ เรื่องราคาของชุดเครื่องประดับที่เจ้าเพิ่งขายให้กับเถ้าแก่หงไป”

“ท่านพ่อไม่ได้หูฝาดหรอกเจ้าค่ะ”

เพียงครู่เดียวเถ้าแก่หงก็นำตั๋วเงินทั้งหมดมามอบให้กับนาง พร้อมกำชับอีกครั้งเรื่องการขายในครั้งหน้า“ขอบคุณเถ้าแก่มากเจ้าค่ะ”

“ข้าต้องขอบคุณเจ้าถึงจะถูก หวังว่าครั้งหน้าคงจะเป็นของดีเช่นนี้อีกนะ”

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้ากับท่านพ่อขอตัวไปทำธุระต่อก่อนนะเจ้าคะ”

“พวกเราขอตัวก่อนขอรับ”

เถ้าแก่หงพยักหน้าและเดินออกมาส่ง ทั้งสองคนที่หน้าร้าน หลังจากนั้นเขานำเครื่องประดับทั้งสามชุด ใส่หีบปิดล็อคกุญแจอย่างดีเพื่อเตรียมนำไปประมูล เขาสั่งงานหลงจู๊ไว้ก่อนจะรีบเร่งกลับจวน เพื่อไปบอกเรื่องนี้กับฮูหยินพร้อมด้วยเครื่องประดับ ที่ลู่ชิงมอบให้เป็นของขวัญ นางต้องดีใจมากแน่ ๆ ยามที่ได้เห็นความแวววาวที่ส่องกระทบดวงตา
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel