ตอนที่5. เป็นเจ้าจริง ๆ
“ท่านแม่ทัพ”
“กายเจ้าเริ่มใหม่ แต่ใจเจ้ายังไม่เริ่ม หากอยากที่จะตัดสิ่งใด ต้องไปยังจุดเริ่มต้น”
แม่ทัพสาวตั้งใจที่จะให้มู่อิง เผชิญกับอดีตและจัดการทุกอย่างให้เด็ดขาดเสียที ปล่อยไปเนิ่นนานก็รังแต่จะค้างคาในใจ เหมือนที่นางทิ้งอดีตที่เจ็บปวด ให้กลายเป็นเพียงภาพฝัน แล้วเดินหน้ากับปัจจุบัน เพื่อได้หายใจต่อให้ยาวนานขึ้น
“ข้าแค่ไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดท่านแม่จึงไม่ได้อยู่ในสุสานสกุลมู่เจ้าคะ”
“เจ้าอยากรู้ว่านางทำสิ่งใดผิดเช่นนั้นใช่หรือไม่”
“เจ้าค่ะ”
“นางจะทำผิดหรือไม่นั้น หาได้สำคัญเท่ากับที่นางปกป้องเจ้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จนคลอดเจ้าออกมาอย่างปลอดภัย”
สองนายบ่าวก้าวมาหยุดยังหลุมศพของมู่ฮูหยิน ที่ตอนนี้รกไปด้วยหญ้า ทั้งคู่ได้ช่วยกันทำความสะอาดโดยรอบ ก่อนที่มู่อิงจะเก็บดอกไม้ป่าที่กำลังเบ่งบานอยู่อีกด้าน มาวางไว้ตรงหน้าหลุมศพของมารดา
“ก่อนออกเดินทาง เราค่อยจ้างคนมาคอยดูแล และปลูกดอกไม้ให้แก่แม่ของเจ้า”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพ”
“พวกท่านเป็นใครกัน”
เสียงของชายชราจากด้านหลัง ทำให้สองนายบ่าวหันกลับไปมองอย่างใจเย็น
“ข้ากับน้องสาวมาเคารพญาติ”
“นางไร้ญาติมานานแล้ว นับตั้งแต่บุตรสาวของนางถูกขายไปเป็นทาสให้แก่พวกวาณิช”
น้ำเสียงติดกรุ่นโกรธของชายชรา ทำให้คิ้วเข้มของสองนายบ่าวขมวดเป็นปม ก่อนที่มู่อิงจะดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น คนที่นางคิดว่าตายไปแล้ว วันนี้กลับมาปรากฏต่อหน้านางราวชะตานำพายิ่งนัก
“ท่านลุง”
มู่อิงเรียกชายชราผู้เป็นพี่ชายของมารดา ซึ่งก็คือญาติฝั่งมารดาเพียงคนเดียวที่นางเหลืออยู่
“เจ้าคือ!”
“ข้า...”
หญิงสาวหันไปสบตากับผู้เป็นนาย เพื่อขอความเห็นว่านางควรเปิดเผยตัวหรือไม่ ด้วยตำแหน่งของผู้เป็นนายในตอนนี้ ใช่ว่าจะป่าวประกาศได้อย่างสะดวกนัก ด้วยอันตรายมีอยู่รอบด้าน
และนางก็คือคนที่ศัตรูของท่านแม่ทัพรู้จักเป็นอย่างดี ในฐานะมือซ้ายที่เคียงข้างมิห่างกาย แม่ทัพสาวพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนจะยิ้มอย่างให้กำลังใจต่อสาวใช้ ที่เสมือนน้องสาวอีกคนของนาง เช่นเดียวกันกับอู่หรง
“ข้าเอง...มู่อิง”
“ห๊า! เป็นเจ้าจริง ๆ เช่นนั้นรึ! ดวงตาข้าฝ้าฟางจนมองอะไรไม่ชัดเจนเช่นในอดีต เจ้าเป็นหลานสาวข้าจริง ๆ รึ! ฮือ ๆ เจ้า...เจ้ากลับมาแล้ว นางกลับมาแล้วนะเม่ยเม่ย ลูกสาวเจ้ากลับมาหาเราแล้ว”
ชายชราร้องไห้ราวเด็กน้อย มือหยาบกร้านบีบมือของหลานสาวแน่น เขาในอดีตต้องเดินทางทำการค้า จนครั้งล่าสุดถูกคดโกงจนไม่เหลือสิ่งใด กลับมาบ้านเกิดก็ได้รับข่าวร้าย
หลานสาวถูกขายมิรู้ชะตากรรม เมียรักที่คิดว่าซื่อตรงต่อเขา แต่งงานกับชายอื่น เพราะคิดว่าเขาตายไปแล้ว ลูกชายถูกทำร้ายจากสามีใหม่ของอดีตเมียรัก
เขาในฐานะพ่อที่ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เลือกที่จะลักพาตัวลูกชายออกจากบ้านของภรรยา แล้วก็ระหกระเหินไปยังต่างเมือง จนเวลาล่วงเลยไปนับสิบปี เขาจึงได้กลับมาที่เมืองนี้ และมาอาศัยอยู่กระท่อมชายป่า หวังที่จะตายในบ้านเกิดเท่านั้น
“ท่านพ่อ! เกิดสิ่งใดขึ้น บิดาข้าแค่คนชราคุณหนูทั้งสองโปรดอย่าได้ถือสาเลยนะขอรับ”
สองนายบ่าวมองไปยังชายหนุ่ม ที่มีรูปร่างกำยำเช่นคนทำงานหนัก บนใบหน้ามีร่องรอยบาดแผลขนาดใหญ่ จากปลายหางตายาวลงมาจนถึงคาง
มู่อิงกำหมัดแน่นเมื่อเห็นสภาพของน้องชาย นางจำได้ดีว่าเด็กชายตัวน้อย มักแอบเอาหมั่นโถวมาให้พี่สาวผู้นี้ ในยามที่ถูกบิดาลงโทษไม่ให้ดื่มกิน น้องชายของนางเดินจากบ้านสกุลเกา มาจนถึงสกุลมู่เพียงเพื่อหยิบยื่นน้ำใจให้พี่สาวเช่นนาง
“ชุนหลาง! พี่สาวเจ้าอย่างไรเล่า”
มู่อิงเรียกน้องชาย ก่อนที่จะยกมือปาดน้ำตาที่เอ่อไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ใครกันทำร้ายน้องน้อยของนางเช่นนี้ หากไร้รอยแผลเป็นบนใบหน้า เกาชุนหลางต้องหล่อเหลามากทีเดียว
“พี่สาว...ใช่ท่านจริง ๆ หรือพี่...กลับมาแล้ว...ฮึก ๆ”
ชายหนุ่มร้องไห้ราวเด็กห้าขวบ เขากับพี่สาวจากกันนานเหลือเกิน ในวันที่พี่สาวถูกลากไปตามถนนโดยบิดาของนาง เขาถูกมารดาพาตัวกลับไปขังไว้ในห้องเก็บฟืน
