บท
ตั้งค่า

บทที่ 29 พบเจอขุนนางมีพิรุธในวันรับตำแหน่ง 1/2

เนื่องจากเป็นการประชุมที่สำคัญอีกวันหนึ่ง ขุนนางตำแหน่งสูงหลายคนจดจ้องว่าที่ขุนนางคนใหม่ หวังดึงมาอยู่ฝ่ายเดียวกับตน หากเป็นคนจิตใจทะเยอทะยานในผลประโยชน์ ย่อมตกปากรับคำเชิญชวนนั้นได้ไม่ยาก แต่นั่นใช้ไม่ได้กับฟงเหยาเหวิน

เมื่อฮ่องเต้เสด็จมาประทับบัลลังก์มังกร เหล่าขุนนางก็พร้อมเพื่อเริ่มประชุมทันที

“ขอบใจขุนนางทุกท่านที่มาครบกันทุกคน วันนี้นอกจากการแต่งตั้งตำแหน่งขุนนางแล้ว เจิ้นยังมีเรื่องสำคัญที่เพิ่งได้รับข่าวมา คิดว่าควรบอกกับทุกท่านเผื่อขุนนางท่านใด จะคิดหาทางออกที่ดีให้กับเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้เริ่มแต่งตั้งตำแหน่งขุนนางแก่บัณฑิตทั้งสามก่อนเถิด”

ซุยกงกงขันทีข้างกายของฮ่องเต้เป่ยชาง ก้าวเดินออกมาพร้อมราชโองการสีทองในมือ เพื่อประกาศการแต่งตั้งขุนนางในครั้งนี้

“ด้วยโองการแห่งโอรสสวรรค์ มีพระดำริแต่งตั้งบัณฑิตผู้ผ่านการสอบระดับเตี้ยนซื่อ ฟงเหยาเหวินผู้สอบได้อับดับหนึ่งในปีนี้ เป็นขุนนางขั้นสามให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้ากรมตุลาการ รับเบี้ยหวัดสามร้อยตำลึงเงิน

หวังหยุนเฉินผู้สอบผ่านอันดับสองเป็นขุนนางขั้นสี่ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมอาลักษณ์ประจำกรมพิธีการ รับเบี้ยหวัดสองร้อยห้าสิบตำลึงเงิน

จ้าวหมิงอวิ๋นผู้สอบผ่านอันดับสามเป็นขุนนางขั้นห้า ให้ดำรงตำแหน่งอาลักษณ์หลวงประจำกรมขุนนาง รับเบี้ยหวัดสองร้อยตำลึงเงิน

จบราชโองการ...”

“กระหม่อมขอบพระทัยฝ่าบาท เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้พ่ะย่ะค่ะ”

“อืม ลุกขึ้นเถิด เจิ้นหวังว่าพวกเจ้าทั้งสามคน จะตั้งใจทำงานให้กับราชสำนักอย่างซื่อสัตย์ และตระหนักในหน้าที่ของตนให้ดี จงยับยั้งช่างใจให้ได้หากมีผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมายมาวางอยู่ตรงหน้า”

“พวกกระหม่อมรับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ”

ภายหลังการประกาศราชโองการเสร็จสิ้น หยางไท่หมิงแสร้งก้าวท้าวออกมาทูลถามกับฮ่องเต้ ว่าเรื่องสำคัญที่ทรงตรัสถึงนั้นเกี่ยวกับเรื่องอันใด

“ฝ่าบาทกระหม่อมขอบังอาจทูลถาม ไม่ทราบว่าเรื่องสำคัญที่ทรงตรัสค้างไว้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ทรงแสร้างทำสีพระพักตร์เป็นกังวลเล็กน้อย เพื่อลวงตาขุนนางในท้องพระโรงเผื่อจะมีใครแสดงท่าทีมีพิรุธบ้าง ซึ่งคนที่จะช่วยในเรื่องนี้ย่อมเป็นสองสหาย รวมถึงฟงเหยาเหวินที่เพิ่งรับตำแหน่งไปหมาด ๆ

“อืม เรื่องนี้ทำเจิ้นรู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงราษฎรมาก เนื่องจากเจิ้นได้รับรายงานด่วนจากชายแดน ว่ายามนี้แคว้นหนานหยางมีพฤติกรรมน่าสงสัย คล้ายกำลังวางแผนต้องการทำสงครามเพื่อยึดครองแคว้นเป่ยชาง เพราะต้องการทรัพยากรและเงินทองมากมาย ในการบำรุงกองทัพก่อนบุกไปแก้แค้นแคว้นหวู่”

สิ้นพระสุรเสียงของฮ่องเต้ใต้เท้าโหรวที่ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เนื่องจากตนเองยังไม่ได้รับข่าวดังกล่าว ถึงกับออกมาทูลถามถึงความเป็นไปได้

“ฝ่าบาทข่าวนี้จริงเท็จเพียงใดหรือพ่ะย่ะค่ะ เหตุใดไม่มีจดหมายส่งมาถึงกระหม่อมบ้างเล่า หรือว่าข่าวเรื่องนี้เพิ่งถูกค้นพบพ่ะย่ะค่ะ”

“ใช่ เรื่องนี้เพิ่งถูกคนของแคว้นเราค้นพบ แต่การทำสงครามยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ เพราะแคว้นหนานหยางยังต้องการเสบียงอีกมาก อย่างน้อยเรื่องเสบียงอาจช่วยยื้อเวลาได้อีกอย่างมากครึ่งปี

ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทศัตรู เจิ้นจึงมีคำสั่งให้รองแม่ทัพฟงเสวี่ยหลิน จัดกองกำลังทหารห้าหมื่นนายออกเดินทางทันที เพื่อไปช่วยป้องกันเขตชายแดนระหว่างแคว้น

ส่วนกองทัพใหญ่ของแคว้นเราคงต้องรบกวนแม่ทัพฟง ช่วยเตรียมกำลังไว้ให้พร้อม เมื่อใดมีข่าวศัตรูเคลื่อนกำลังทหาร ท่านจงยกกองทัพไปสมทบขจัดผู้คิดร้ายต่อแคว้นเป่ยชาง”

“กระหม่อมฟงเทียนเซิงรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”

ในขณะที่ขุนนางคนอื่น ๆ พยักหน้ายอมรับแผนการของฮ่องเต้ แต่ยังมีขุนนางผู้หนึ่งกลับเสนอเรื่องการจัดเก็บเสบียง หากเกิดการทำสงครามระหว่างแคว้นขึ้นจริง แต่ภายใต้การเสนอวิธีนี้กลับมีบางอย่างแฝงเอาไว้

“ฝ่าบาทกระหม่อมขอบังอาจเสนอเรื่องการจัดเก็บเสบียง เพื่อรวบรวมไว้ล่วงหน้ายามกองทัพต้องออกเดินทาง ถ้าไม่เริ่มเก็บสะสมเสบียงยามนี้ กระหม่อมเกรงว่าจะเกิดความล่าช้าได้ นั่นจะกลายเป็นช่องโหว่ให้ศัตรูได้เปรียบเราทันทีพ่ะย่ะค่ะ”

“นี่ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เช่นนั้นมอบหน้าที่นี้ให้เจ้ากรมการเกษตรช่วยจัดการ เก็บตามจำนวนที่กฎหมายแคว้นกำหนด อย่าได้ข่มเหงบังคับเอาเสบียงจากชาวบ้านเด็ดขาด” ฮ่องเต้ทรงตรัสเน้นประโยคสุดท้ายด้วยพระสุรเสียงเรียบนิ่ง

“กระหม่อมเซียงหม่าสือรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”

คนที่คิดว่าเมื่อเสนอแผนการที่ตนคิดต่อหน้าพระพักตร์ ย่อมได้เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ยามที่กราบทูลใต้เท้าโหรวยังแอบยกยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่รับสั่งของฮ่องเต้กลับยกให้เจ้ากรมการเกษตรแทนตนเอง

จากสีหน้าที่เจ้าเล่ห์กลับกลายเป็นผิดหวัง และโกรธเคืองที่ตนมิได้รับทำหน้าที่ดังกล่าว แม้ว่าเจ้ากรมการเกษตรจะเป็นพวกเดียวกับตนก็ตามที ใต้เท้าโหรวคิดว่าการแสดงสีหน้าของตนนั้น ไม่มีผู้ใดจับสังเกตได้แต่เขากลับคิดผิด

ฟงเหยาเหวินที่ใช้สายตาคมคอยมองขุนนางตำแหน่งใหญ่ ๆ เพื่ออยากรู้ว่าจะมีผู้ใดเผยพิรุธออกมาหรือไม่ สุดท้ายก็มีคนทนไม่ไหวจริง ๆ ‘หึ ในที่สุดหางเจ้าก็โผล่ออกมาจนได้สินะ ขั้นต่อไปคงต้องลงมือสืบอย่างจริงจังเสียแล้ว
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel