บท
ตั้งค่า

บทที่ 15 ใช้วิธีเดียวกันง่ายกว่า 1/2

ฟงเหยาเหวินเห็นว่าการซ้อนแผนจัดการเสร็จแล้ว จึงได้เอ่ยชักชวนพี่น้องกลับไปนั่งสนทนาเช่นเดิม ทำให้คล้ายกับว่าไม่รับรู้ถึงแผนการสกปรกของสตรีสองตระกูลมาก่อน

ซึ่งเหตุการณ์ตามแผนที่สี่พี่น้องได้รับรู้ ในที่สุดก็เกิดขึ้นโดยหยางเฟิ่งเซียนก็เล่นตามน้ำไปอย่างลื่นไหล

อ๊ะ! ซ่า “พี่ใหญ่ชุดของข้าเป็นผ้าไหมราคาแพง และยังเป็นท่านตาท่านยายที่ลงมือปักด้วยตนเองเลอะไปหมดแล้วเจ้าค่ะ”

“เจ้าเดินอย่างไร! เหตุใดถึงไม่ระวังจนทำให้ชุดของน้องสาวข้าเลอะเทอะเช่นนี้ รู้หรือไม่ชุดของนางเป็นผ้าไหมชั้นเลิศ ราคาสูงถึงพับละหนึ่งร้อยตำลึงทองเชียวนะ เซียนเอ๋อร์เจ้าเป็นอย่างไรบ้างน้องพี่” หยางซิวหรงลุกขึ้นโวยวายเสียงดังอย่างสมจริง

ตุบ “บ่าวมิได้ตั้งใจเจ้าค่ะคุณชายหยาง คุณหนูหยางโปรดอภัยให้บ่าวด้วยเถิด บ่าวเดินสะดุดพื้นทำให้เสื้อผ้าของท่านเปรอะเปื้อนไปหมดเช่นนี้”

แต่กลายเป็นฟงเสวี่ยหลินที่ใช้เสียงดัง ดุบ่าวรับใช้ในจวนของตนด้วยความโมโห “เจ้าเป็นสาวใช้ประสาอะไร คนอื่น ๆ ที่เดินเข้าออกยังไม่เห็นเดินสะดุดเช่นเจ้าสักคน นี่เจ้าคิดจะทำให้อาเหวินขายหน้าแขกเหรื่อในงานเลี้ยงเช่นนั้นรึ!”

“คุณชายใหญ่บ่าวไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เจ้าค่ะ บ่าวเพิ่งถูกเรียกให้มาช่วยงานในเรือนหน้าครั้งแรก ได้โปรดเมตตาบ่าวสักครั้งเถิดเจ้าค่ะ”

ฟงเหยาเหวินกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุม อย่างที่คนเป็นบัณฑิตชอบทำถามสาวใช้ตรงหน้า “แล้วเจ้าทำงานอยู่ส่วนไหนของจวนหรือ ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อนเป็นสาวใช้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ใช่หรือไม่”

“เอ่อ ชะ ชะ ใช่เจ้าค่ะคุณชายเล็ก บ่าวเพิ่งมาทำงานที่จวนแห่งนี้ได้หนึ่งเดือนเศษเจ้าค่ะ”

ขณะที่เสี่ยวฮัวถูกบุตรหลานเจ้าของจวนดุด่า ด้านศาลากลางน้ำก็เกิดเหตุการณ์คล้าย ๆ กันขึ้น ซึ่งเซิ่งฟางเอินกับหลีเยียนหรานไม่พอใจ ที่เกิดเรื่องเช่นนี้กับพวกตนถึงกับลงมือตบตีสาวใช้นางหนึ่ง

แต่จะลงมือจนเกินงามก็ไม่อาจทำได้ สุดท้ายจึงสั่งให้พาไปที่เรือนรับรอง เพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ตระกูลฟงจัดเตรียมไว้ให้แขกทุกคน โดยสตรีทั้งสองไม่รู้เลยว่าเวรกรรมกำลังสนองกลับมาหาตน

กลุ่มคนอีกด้านหนึ่งเมื่อเห็นว่าคนที่คิดร้ายกับตน ลุกออกไปทางเรือนรับรองถึงได้หยุดต่อว่าเสี่ยวฮัว เพื่อให้นางพาหยางเฟิ่งเซียนไปยังเรือนรับรองตามแผน “ช่างเถิดเจ้าค่ะพี่เหยาเหวิน ไหน ๆ เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วอีกอย่างนางคงมิได้ตั้งใจ เช่นนั้นเจ้าพาข้าไปเปลี่ยนชุดใหม่ที่เรือนรับรองก็แล้วกัน”

“ขอบคุณคุณหนูหยาง บ่าวจะพาท่านไปเปลี่ยนชุดใหม่นะเจ้าคะ”

เมื่อหยางเฟิ่งเซียนตามเสี่ยวฮัวไป ผู้ติดตามข้างกายอย่างหลี่เจินย่อมเดินตามไปดูแลห่าง ๆ ยามที่หยางเฟิ่งเซียนมาถึงเรือนรับรอง เป็นเวลาไล่เลี่ยกับเซิ่งฟางเอินและหลีเยียนหราน กำลังถูกสาวใช้เปิดประตูเรือนรับรองที่ใกล้กันเข้าไป

เพียงเท่านี้รอยยิ้มร้าย ๆ จากดวงตาและมุมปากของหยางเฟิ่งเซียน ก็ทำให้หลี่เจินรู้ได้ทันทีว่าแผนการของเจ้านายสำเร็จแล้ว ส่วนเสี่ยวฮัวที่ยื่นมือออกไปเพื่อเปิดประตูเรือน กลับสะดุ้งสุดตัวเมื่อคอของตนกระทบกับความเย็นที่คมกริบ

เฮือก! “คะ คะ คุณหนูจะทำอะไรเจ้าคะ”

“เจ้าคือคนที่เซิ่งฟางเอินซื้อตัว เพื่อพาข้ามาให้ถูกบ่าวไพร่ทำมิดีมิร้ายใช่ไหม เจ้ามีโอกาสเพียงครั้งเดียวในการตอบ หากโกหกคนของข้าจะเชือดคอเจ้าทิ้งทันที” หยางเฟิ่งเซียนข่มขู่ด้ายท่าทางสงบนิ่ง แต่น้ำเสียงและสายตาที่แสดงออกมาบอกได้ว่ามิได้ล้อเล่น

เสี่ยวฮัวถึงกับขนลุกขนชันเนื้อตัวสั่นสะท้าน เพราะชื่อเสียงของบุตรหลานสองตระกูลล้วนเป็นที่กล่าวขาน ตุบ “คุณหนูหยางโปรดไว้ชีวิตบ่าวด้วยเจ้าค่ะ บ่าวหน้ามืดตามัวเห็นแก่ค่าจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ จนเกือบทำให้คุณหนูหยางเสื่อมเสียชื่อเสียง”

แม้หยางเฟิ่งเซียนอยากจัดการเสี่ยวฮัวเพียงใด แต่นี่เป็นจวนตระกูลฟงเช่นนั้นควรให้เจ้าของจวนลงโทษนางเอง “ได้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ยามนี้เจ้าได้ยินเสียงร้องอันสุขสมในเรือนตรงข้ามหรือไม่ หากเจ้าฉลาดมากพอคงรู้นะว่าควรทำอย่างไรต่อไป”

“บะ บะ บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” เสี่ยวฮัวเข้าใจสิ่งที่หยางเฟิ่งเซียนต้องการ นางจึงลุกขึ้นและวิ่งกลับเข้าไปในงานเลี้ยงอีกครั้ง พร้อมกับท่าทางที่แสดงออกอย่างมีพิรุธ
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel