บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 แผนการตื้น ๆ มีมือที่สามรับรู้ 1/1

และแล้วงานเลี้ยงของจวนตระกูลฟงก็มาถึง แขกเหรื่อมากมายหลายตระกูลต่างมาร่วมแสดงความยินดี ซึ่งในมือของทุกตระกูลจะมีกล่องของขวัญ เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจที่บางคนแอบแฝงเรื่องอื่น ๆ เพียงแค่สิ่งที่ผู้คนได้เห็นเป็นเพียงหน้ากากเท่านั้น

ส่วนหยางเฟิ่งเซียนกับพี่ชายของตน ได้ชักชวนบิดาและมารดามายังจวนญาติผู้พี่ ก่อนจะถึงเวลาเริ่มงานเลี้ยงหนึ่งชั่วยาม เพื่อนำอุปกรณ์พิเศษที่จีจี้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า เข้าไปติดตามมุมต่าง ๆ ที่คาดว่าจะมีคนลงมือทำเรื่องไม่ดีในวันนี้

ซูอันนำกล้องวงจรปิดขนาดเล็ก ใส่ไว้ในลังไม้จำนวนนับร้อยชิ้น และกำชับกับบุตรทั้งสองก่อนลงจากรถม้าอีกเล็กน้อย “หรงเอ๋อร์ เซียนเอ๋อร์ อย่าลืมสิ่งที่แม่เคยสอนพวกเจ้าไว้ล่ะ หากมีคนคิดทำร้ายลูกในงานเลี้ยง...”

“ถ้าหากลูกถูกคนกลั้นแกล้งหรือลอบทำร้ายในงานเลี้ยง อย่าได้ตอบโต้กลับด้วยความรุนแรง จงทำตัวให้เป็นคนที่น่าสงสาร จากนั้นค่อยเอาคืนอย่างสาสมใช่หรือไม่เจ้าคะ” หยางเฟิ่งเซียนย่อมจดจำได้กับสิ่งที่มารดาต้องการบอกกับตน ยกเว้นหากถูกรังแกซึ่ง ๆ หน้าเท่านั้น นางถึงจะลงมือจัดการอย่างตรงไปตรงมาไม่มีละเว้น

“หึ ใช่ ในเมื่อพวกลูกจดจำได้ก็ดีแล้ว แม้จะเป็นที่โปรดปราณของเสด็จปู่ เสด็จย่า ก็อย่าได้หยิ่งผยองพองขนจนเกินไปนัก ยามใดควรใช้อำนาจยามใดควรใช้ฝีมือของตน จงคิดให้ถี่ถ้วนก่อนลงมือทำสิ่งใด”

หยางซิวหรงเข้าใจคำเตือนของมารดา ตั้งแต่เล็กจนโตเขากับน้องสาวรวมถึงญาติผู้พี่ ถูกมารดาสั่งสอนอย่างเข้มงวดมาตลอด “ท่านแม่อย่าได้กังวลกับเรื่องนี้เลย ลูกกับน้องเล็กและญาติผู้พี่ล้วนจดจำได้ขึ้นใจ หากไม่จำเป็นจริง ๆ พวกลูกจะใช้สติปัญญากับความสามารถของตน จัดการปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเองขอรับ”

“ท่านแม่พาท่านพ่อเข้าไปพบท่านป้ากับท่านลุงเถิดเจ้าค่ะ ส่วนที่เหลือลูกกับพี่ใหญ่จะช่วยกันจัดการให้เรียบร้อย และจะตามไปหาพวกท่านในบริเวณงานเลี้ยงทีหลังนะเจ้าคะ” หยางเฟิ่งเซียนย่อมรับรู้ถึงความห่วงใยของมารดา แต่นางกำลังตื่นเต้นกับอุปกรณ์แปลก ๆ ที่เพิ่งได้รับมากกว่า

หยางไท่หมิงไม่ลืมเอ่ยเตือนอีกครั้ง ก่อนจะปล่อยให้บุตรทั้งสองทำตามความตั้งใจ “อย่าลืมสนุกจนลืมเวลาล่ะเข้าใจหรือไม่ หลังจากจัดการทุกอย่างแล้วรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และเข้าไปคารวะผู้อาวุโสด้วยนะ อาหรงดูแลน้องให้ดีอย่าได้คลาดสายตา”

“ลูกทราบแล้วขอรับท่านพ่อ”

สองพี่น้องยืนส่งบิดามารดาเดินเข้าจวน แล้วจึงหันมาสั่งผู้ติดตามของตนช่วยกันยกลังไม้ตามเข้าไปทีหลัง ซึ่งทั้งสองเดินลัดเลาะไปยังเรือนของญาติผู้พี่ฝาแฝด เพื่อบอกถึงแผนการเฝ้าระวังที่ต้องช่วยกันจัดการ

“หลี่เจินเจ้ากับไป่เฉิงยกลังไม้ตามพวกข้าไปที่เรือนญาติผู้พี่ ส่วนจ้าวหยูพาคนที่เหลือไปตรวจรอบ ๆ งานอีกครั้ง” หยางซิวหรงสั่งผู้ติดตามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ขอรับคุณชาย”

ฟงเสวี่ยหลินเป็นผู้เห็นญาติผู้น้องที่เดินมายังเรือนของตน จึงได้เอ่ยทักทายและถามถึงสิ่งที่ผู้ติดตามกำลังยกอยู่ด้านหลัง

“อ้าว อาหรง เซียนเอ๋อร์ พวกเจ้ามาถึงกันแล้วหรือ เช่นนั้นท่านน้าก็มาพร้อมกับพวกเจ้าน่ะสิ แล้วนั่นให้คนยกลังไม้อันใดมาด้วยล่ะ?”

หยางเฟิ่งเซียนขอเป็นคนตอบคำถามนี้แทนพี่ชาย “พี่เสวี่ยหลินในลังไม้นี้เป็นสิ่งที่ท่านไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มันสามารถช่วยให้พวกเรารู้ว่า มุมไหนของจวนที่เป็นจุดลับสายตา ที่คนนิสัยไม่ดีอยากใช้เป็นสถานที่ลงมือเจ้าค่ะ”

“เซียนเอ๋อร์! อย่าบอกนะว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในลังไม้นั้นได้มากจาก...”

“คิ ๆ ๆ ท่านเดาได้ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ”

ฟงเสวี่ยหลินรีบยกมือขึ้นปิดปากของตน ด้วยเกรงว่าจะส่งเสียงร้องออกไปจนบ่าวไพร่ตกใจเอาได้ แม้ที่ผ่านมาเขากับน้องชายจะได้รับบางอย่างจากท่านน้า แต่มันก็ยังสร้างประหลาดใจให้กับตนได้ทุกครั้ง

แต่ก่อนจะได้พูดสิ่งใดกับญาติผู้น้อง ฟงเหยาเหวินก็ออกจากเรือนอีกฝั่งมาเสียก่อน ซึ่งฟงเสวี่หลินชิงบอกน้องชายเกี่ยวกับลังไม้ เพื่อมิให้เขาต้องถามอีกครั้ง และท่าทางของฟงเหยาเหวินก็ไม่ต่างอันใดกับพี่ชายนัก

“อาหรง เซียนเอ๋อร์ ท่านน้าจะเก่งกาจเกินไปแล้วกระมัง”

“นั่นมันแน่อยู่แล้วเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้พวกเราควรช่วยกันนำสิ่งที่อยู่ในลังไม้ แบ่งกันไปติดตามจุดต่าง ๆ โดยเร็วดีกว่า ถ้ามีแขกมาจะเป็นที่น่าสงสัยเอาได้นะเจ้าคะ” หยางหยางเฟิ่งเซียนยืดอกรับคำชมที่ญาติผู้พี่มีต่อมารดาอย่างเต็มใจ
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel