บท
ตั้งค่า

ตอนที่3.2 เสือขาวกับพยัคฆ์

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นให้ข้าไปส่งดีหรือไม่ อย่างไรก็ทางผ่าน” เว่ยหลิงเฮ่อเอ่ยถามเผยตั้นเยี่ยน

“ไม่เพคะ/ไม่ต้อง” จ้าวฉือลี่และเว่ยเหวินเซียนเอ่ยพร้อมกัน

เว่ยหลิงเฮ่อมองบุรุษและสตรีที่อยู่ตรงหน้าสลับกันไปมา แต่เมื่อไตร่ตรองดูแล้วก็พอเข้าใจ เพราะหากเขาเป็นเผยตั้นเยี่ยนก็ไม่คิดจะให้เขาไปส่งแน่นอน เพราะกลัวว่าจะถูกสังหาร

ส่วนที่เสด็จอาของเขาไม่อยากให้เขาเป็นคนส่งนางกลับ ก็คงเพราะอยากพานางกลับไปจัดการสอบสวนเรื่องตราพยัคฆ์ที่หายไปจึงไม่ยอมให้เขาไปส่งนาง แต่เพราะเหตุนี้แหละที่เว่ยหลิงเฮ่อกลัว เพราะหากเผยตั้นเยี่ยนปริปากบอกว่าขโมยตราพยัคฆ์ไปให้ใคร คราวนี้เสด็จอาของเขาคงไม่ยอมให้เขาขึ้นครองบัลลังก์ได้โดยง่ายอย่างแน่นอน

“พอดีว่าสารถีของหม่อมฉันถูกคนของท่านอ๋องช่วยเอาไว้ ตอนนี้อยู่ที่จวนท่านอ๋อง หม่อมฉันเลยจะไปรับเขากลับด้วยเพคะ”

จ้าวฉือลี่รู้ดีว่ามันฟังดูไม่ขึ้นเท่าใดนัก แต่ทว่ายามนี้นางนั้นก็หาทางออกไม่ได้แล้วจริง ๆ เพราะนางรู้ดีว่าหากไปกับเว่ยหลิงเฮ่อยามนี้ก็มีแต่ตายอย่างเดียว แต่หากไปกับเว่ยเหวินเซียนที่มีใจให้นาง หากเขาหาหลักฐานมัดตัวนางไม่ได้อย่างน้อยนางก็ยังพอใช้มารยาหญิงทำให้รอดตัวไปได้

“คุณหนูเผยช่างเป็นห่วงเป็นใยคนรอบข้างเสียจริง น่าอิจฉาคุณชายรองเผยที่มีพี่สาวเช่นเจ้า” เว่ยหลิงเฮ่อรู้ว่าไม่อาจพานางกลับไปพร้อมเขาได้ ไม่เช่นนั้นเสด็จอาของเขาอาจสงสัย จึงได้เอ่ยถึงน้องชายของนางเพื่อเป็นการขู่

อยู่ดี ๆ เว่ยหลิงเฮ่อพูดถึงเผยจือเหยียนน้องชายมารดาเดียวกันของเผยตั้นเยี่ยนขึ้นมา ก็ทำให้จ้าวฉือลี่รู้ว่าเขากำลังข่มขู่นาง เพราะเขารู้ดีว่าเผยตั้นเยี่ยนรักน้องชายมารดาเดียวกันผู้นี้มากเท่าใด

จ้าวฉือลี่เองก็รู้ว่าต่อให้ตายเผยตั้นเยี่ยนก็ไม่มีทางเอ่ยปากพูดเรื่องที่จะทำให้น้องชายต้องตกอยู่ในอันตราย เพราะตอนที่เผยตั้นเยี่ยนถูกทรมานก็มิยอมเอ่ยปากบอกว่าใครคือคนที่สั่งให้นางขโมยตราพยัคฆ์ เพราะไม่เช่นนั้นเว่ยหลิงเฮ่อจะต้องไม่ปล่อยตระกูลเผยไปอย่างแน่นอน

ส่วนเว่ยเหวินเซียนก็ไม่ยุ่งกับคนในตระกูลเผยอยู่แล้ว เพราะเขารู้ว่าเผยตั้นเยี่ยนนั้นมิถูกกันกับบิดา จึงไม่คิดว่าบิดาของนางเป็นผู้บงการ ส่วนน้องชายของเผยตั้นเยี่ยนก็ยิ่งไม่รู้เรื่องด้วยเข้าไปใหญ่เพราะเขานั้นอยู่ที่สำนักศึกษา

เว่ยเหวินเซียนถึงจะโหดเหี้ยมอำมหิต ทว่าเขาก็ไม่เคยเอาครอบครัวของคนร้ายหรือคนผิดมาลงโทษด้วย เพราะอย่างไรคนเหล่านั้นก็คือผู้บริสุทธิ์ ยกเว้นคนในครอบครัวเหล่านั้นจะมีส่วนรู้เห็นเขาจึงจะจับมาลงทัณฑ์ด้วย นี่ถือเป็นข้อดีของเว่ยเหวินเซียนอย่างหนึ่งที่จ้าวฉือลี่ชอบตอนที่อ่านนิยาย เพราะหากเป็นไปได้นางก็ไม่อยากให้เจ้าหนี้นอกระบบมาทวงเงินจากนางเพราะพ่อของนางไปค้ำประกันให้กับเพื่อนเหมือนกัน

“องค์รัชทายาทกล่าวเกินไปแล้วเพคะ เพราะหม่อมฉันไม่มีอันใดที่จะสามารถทำให้คนรอบข้างได้ มีแต่ความรักความห่วงใยให้เท่านั้น มีอันใดให้น่าอิจฉากันเพคะ” จ้าวฉือลี่เอ่ยพร้อมยิ้มให้องค์รัชทายาทหลิงเฮ่อราวกับจะบอกเขาว่านางนั้นเข้าใจแล้ว

เว่ยหลิงเฮ่อพยักหน้ารับรู้ก่อนหันมาหาเว่ยเหวินเซียน “เสด็จอาเช่นนั้นข้าไม่อยู่รบกวนพวกท่านแล้ว ข้าขอตัวกลับวังก่อน” เมื่อเขาเอ่ยเสร็จก็ผสานมือโค้งกายคารวะผู้เป็นอาทันที

จ้าวฉือลี่มองดูเว่ยหลิงเฮ่อที่ขี่ม้าผ่านไป ‘นักเขียนท่านนี้ช่างแต่งให้บุรุษหน้าตาดีชวนมองต่างจากนิสัยเสียจริง’ นางคิดในใจเพราะเมื่อครู่หากนางไม่มัวแต่พะวงว่าจะรับมือบุรุษทั้งสองอย่างไร ป่านี้นางก็คงมัวแต่หลงรูปโฉมของเว่ยหลิงเฮ่ออยู่เป็นแน่

เว่ยเหวินเซียนมองเผยตั้นเยี่ยนที่กำลังมองตามเว่ยหลิงเฮ่อด้วยท่าทางแบบเดียวกับที่มองเขาก่อนหน้านี้ ‘บังอาจนัก นี่เจ้ามองบุรุษทุกคนด้วยสายตาเช่นนี้หรือ’ ถึงเขาจะรู้สึกว่าวันนี้เผยตั้นเยี่ยนแปลกไปจากเผยตั้นเยี่ยนที่เขารู้จักมากจนเขาไม่อยากเชื่อสายตา แต่เมื่อเห็นนางมองบุรุษอื่นทั้งที่อยู่ต่อหน้าเขาก็อดที่จะเดือดดาลไม่ได้

เขาคว้าตัวนางพร้อมกับจับอุ้มขึ้นนั่งบนหลังม้าก่อนที่เขาจะกระโดดไปนั่งอยู่ด้านหลังของนาง หานสิงเวยองครักษ์คนสนิทชินอ๋องเหวินเซียนเห็นผู้เป็นนายควบม้าออกไปก็รีบกระโดดขึ้นม้าก่อนจะยื่นมือมาดึงมือของฉุยฉุยให้ขึ้นมานั่งที่ข้างหลังของเขา

จวนชินอ๋องเหวินเซียน

เมื่อมาถึงจวนเว่ยเหวินเซียนก็สั่งให้สาวใช้นำทางเผยตั้นเยี่ยนกับฉุยฉุยไปยังเรือนรับรองและทำการตรวจค้นตัวสตรีทั้งสอง ขณเดินไปนั้นก็ให้หานสิงเวยเดินตามหลังไปด้วย เพราะกลัวว่าสตรีทั้งสองอาจจะเล่นตุกติกระหว่างทาง

ส่วนจิ่งหลินสารถีขับรถม้าที่เว่ยเหวินเซียนนั้นช่วยมาได้ระหว่างที่หลบหนีผู้ร้ายก็ถูกเจ้าของจวนสั่งให้ทหารค้นตัวเช่นกันแต่ก็ไม่พบตราพยัคฆ์ เขาจึงสั่งให้คนไปเติมน้ำใส่อ่างพร้อมกับให้ใส่เกลือลงไปในน้ำแล้วให้จิ่งหลินลงไปแช่

ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เขานั้นออกศึกบ่อยครั้งจึงมักไม่ค่อยอยู่จวน ของมีค่าทั่วไปนั้นหากหายเขานั้นก็ไม่เสียดายอันใด เขาเพียงกลัวว่าของต่างหน้าที่เสด็จพ่อและเสด็จแม่เคยมอบให้นั้นจะหายไป จึงติดนิสัยป้ายยาแย้มสัตย์ไว้ตามของมีค่า เพราะหากผู้ใดมาแตะต้องหรือหยิบจับของชิ้นนั้น เพียงแค่แช่ด้วยน้ำเกลือส่วนใดก็ตามที่โดนของที่ป้ายด้วยยาแย้มสัตย์ไว้ก็จะกลายเป็นสีส้มทันตา

เว่ยเหวินเซียนทดสอบกับจิ่งหลินแล้วทว่าตัวของจิ่งหลินกลับไม่มีส่วนใดเปลี่ยนเป็นสีส้มเลย เขาจึงยกสุรากระดกเข้าปากไปหลายจอก เพราะหากเขาหาตราพยัคฆ์ไม่เจอ พรุ่งนี้เขาคงต้องเข้าวังไปรับโทษกับเหวินหลิงฮ่องเต้พระเชษฐาของเขาก่อนที่จะเข้าประชุมเช้าที่ท้องพระโรงเป็นแน่

ขณะนี้ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์สุราหรือเพราะไฟที่สุมอยู่ในอก จึงทำให้เขานั้นร้อนรนจนอยู่ไม่สุข เขามองไปทางเรือนรับรองที่เผยตั้นเยี่ยนกับฉุยฉุยกำลังโดนค้นตัว ถึงในใจเขานั้นไม่ต้องการให้เจอตราพยัคฆ์หรือสีส้มจากยาแย้มสัตย์ตามตัวของเผยตั้นเยี่ยนกับฉุยฉุย แต่หากไม่เจอดูแล้วคนในจวนรวมถึงทหารใต้บัญชาการของเขาทั้งหมดคงต้องถอดเกราะกลับไปอยู่บ้าน หรือไม่ก็ต้องไปเข้ากับทัพของค่ายอื่นแล้ว

เมื่อเว่ยเหวินเซียนเห็นสาวรับใช้เดินออกมาจากห้องพร้อมกับเอ่ยบางอย่างกับหานสิงเวยเขาก็ลุกขึ้นทันที พร้อมกับจ้องมององครักษ์คนสนิทอย่างรอคอยคำตอบ

เมื่อหานสิงเวยเห็นผู้เป็นนายมองมาก็ส่ายหัวไปมาให้ผู้เป็นนายได้เห็น เพียงเว่ยเหวินเซียนเห็นองครักษ์คนสนิทส่ายหัวก็รู้ทันทีว่าไม่พบตราพยัคฆ์ที่ตัวของสตรีทั้งสองคน เขาจึงเอ่ยเสียงดังบอกทหารให้เตรียมน้ำอุ่นผสมเกลือที่เรือนนอนของเขาก่อนที่เขาจะก้าวเท้ายาวไปยังเรือนรับรอง

เมื่อเจ้าของจวนมาถึงเรือนรับรองเผยตั้นเยี่ยนกับฉุยฉุยก็ใส่เสื้อผ้าแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เว่ยเหวินเซียนเปิดประตูเข้าไปด้านในด้วยความร้อนใจ เมื่อเจอเผยตั้นเยี่ยนเขาก็จับมือของนางพร้อมออกแรงดึงเพื่อให้นางเดินตามเขาไป

ด้วยความตกใจจ้าวฉือลี่จึงสะบัดข้อมือสุดแรง พร้อมเอ่ยเสียงดัง “ท่านอ๋องเพคะ พระองค์จะทำอันใดเพคะ”

“ข้าป้ายยาแย้มสัตย์ไว้ที่ตราพยัคฆ์ ถึงยามนี้ตราพยัคฆ์จะไม่อยู่ที่ตัวของเจ้าก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าไม่ได้เอาไป” เพียงพูดจบเขาก็กระชากมือนางให้เดินตามเขาไป

‘ยาแย้มสัตย์คืออะไรอีก สวรรค์ท่านจะให้ข้าตายให้ได้เลยใช่หรือไม่’ นางบ่นในใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel