EP.2 ผัวทรยศ [2]
[พาร์ท : พี่คราม]
อีนั่นกลับมาแล้ว
กูได้แต่นั่งกระวนกระวายอยู่ในห้อง กระวนกระวายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเวลานั้นใกล้มาถึง แล้วมันก็เหมือนผิดตลอดมา ที่กูคิดว่ากูจะรักใครสักคนได้นอกจากอีนั่น จริงๆ ก็แค่หลอกตัวเอง เอาน้องสาวมันมาย่ำยีตามคำที่มันสั่ง เอามาสวมรอยแทนที่มัน
ทำร้ายผู้หญิงทุกคนได้เพื่อมันคนเดียว
หลังจากกูผละจากห้องของมิว หลังจากเอากันเสร็จก็หมดธุระ ไม่มีไรต้องคุย กูกลับมาที่ห้อง แล้วเอาแต่ร้อนเป็นไฟอยู่แบบนี้
จนกูทนไม่ไหว
กูพยายามจะออกไปข้างนอก ลากอีตัวสักคนมาเอาเพื่อสงบสติอารมณ์ ความอยากอันแรงกล้าเกิดขึ้นหลังจากนึกถึงอีนั่นจนปวดทรมานอย่างห้ามไม่อยู่
หลายเดือนที่กูรออีนั่นเสมอมา แม้จะเอาน้องสาวมันมาเป็นที่ระบาย แต่กูไม่เคยลืมอีนั่นเลย
กูไม่คิดว่าตัวเองเหี้ย แต่นั่นคือความรัก
กูแค่รักเดียวใจเดียว ไม่คิดรักใครอื่นนอกจากอีนั่น
ครืด... ครืด
กูนิ่งไปเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ระหว่างที่ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าประตูห้อง พอกดดูว่าใครโทรมา มันขึ้นว่าเป็นเบอร์แปลก
กูตัดสายทิ้งเพราะงดรับเบอร์แปลก ได้ยินเสียงขยับตัวอยู่หน้าประตู
กูรู้สึกตงิดขึ้นมา กดโทรกลับหาเบอร์แปลกทันที
แม่งสังหรณ์ใจ
ติ๊ด
“ใคร” กูถามไปเสียงห้วนเมื่อมันรับสาย แต่ต่อมาก็ต้องชะงัก นิ่งไปเมื่อมันเป็น...
[คราม เราเอง]
“...!”
[เราอยู่หน้าประตูห้องคราม เปิดหน่อยสิ] เสียงหวานจัดที่เคยคุ้นกับมันมาเกือบสองปีก่อนที่มันจะออกจากชีวิต ทิ้งเหมือนกูเป็นเศษขยะ
แกรก
กูเปิดประตูออกทั้งที่ยังแนบหูกับโทรศัพท์ มองภาพผู้หญิงผมชมพูยาวจนถึงกลางหลังตรงหน้า ภาพนั้นถูกซ้อนทับเหมือนครั้งที่เรายังคบกัน ใบหน้าที่ยังเหมือนเดิมราวกับตุ๊กตาที่มีชีวิต
ถ้าเทียบกับน้องสาวของมัน... ก็แค่เด็กผู้หญิงจืดๆ คนนึง
“คราม” มันเรียกชื่อกู ก่อนที่จะเอื้อมมือไปรูดเสื้อตัวนอกออก ผ้าหนาๆ หล่นลงไปกองกับพื้น พร้อมกับเรือนร่างสวยงามที่ใส่แค่เพียงซีทรูบางๆ จนเห็นเกือบหมดทุกอย่าง
กูจ้องมองภาพนั้นอย่างตะลึง มันมักจะมาพร้อมกับความตื่นเต้นเสมอ
“คิดถึงจัง”
หลังจากจบประโยคนั้น กูก็กระชากแขนเธอเข้ามาจูบทันที เราแลกลิ้นให้กันอย่างโหยหา
เหมียว ผู้หญิงที่มองกูมีค่าแค่ขยะชิ้นนึง
ตอนนี้ เธอกลับมาหากูแล้ว
“มึงทำแบบนี้ทำไม?”
กูถามเธอหลังจากที่เราเอากันเสร็จบนเตียงของกู ในห้องของกู ถามเหมือนควาย ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ
“ถ้าจะถามว่าเราทำแบบนี้ทำไม ก็ถามตัวเองก่อนสิ” เหมียวกอดกูไว้ มันลูบวนไปมาแถวๆ ซิกแพคหนา “ทำไมพอเจอหน้ากัน ถึงได้เอาเราจนเตียงยับขนาดนี้”
“...”
“ทั้งๆ ที่ก็เพิ่งเอากับน้องสาวเรามา”
“มึงกับมิวก็มีค่าเท่ากัน” กูแค่นหัวเราะ ประชดประชันมันด้วยความแค้นกับหลายต่อหลายเดือนและหลายช่วงเวลาที่มันทิ้งกูไป แต่มือกลับขย้ำเอวมันไม่ยอมปล่อย “แค่ของเล่นของกู”
“ไม่ใช่ว่าลืมเราไม่ได้เหรอคราม” มันพูดออกมาคำนึง กูนิ่งไป “ครามคนโง่ ลืมเราไม่ลงตลอดสองปีเลยสินะ”
“อย่ามาพูดควายๆ!” กูผลักมันออกอย่างแรง ก่อนที่จะขึ้นคร่อมมัน ทำเหมือนที่ทำกับผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่เจ็บจนใจแทบขาด “กูแค่รอวันที่จะเอาคืนมึงอย่างสาสม เหมือนที่มึงทำกับกู”
เหมียวที่อยู่ใต้ร่างกูเบิกตากว้าง ก่อนที่จะฉีกยิ้มบาง
“คราม” ริมฝีปากสีแดงสดขยับพูด “ครั้งนี้ที่เรากลับมา เรากลับมาเพื่อมาเอาครามคืนนะ”
“...”
“เราไม่เคยเห็นครามเป็นของเล่นเลยสักครั้ง” มือเรียวเอื้อมมาลูบที่สันคอกูเบาๆ แววตากูฉายชัด เห็นน้ำตามันไหลลงมาตามผิวแก้ม “เรารักคราม”
“...”
“รักครามจริงๆ”
ตอแหล
กูรู้ดี รู้อยู่แก่ใจ แต่ทุกครั้งที่เหมียวมันกลับมาแล้วตอแหลใส่กูแบบนี้
หมับ
“กูก็รักมึง” กูดึงร่างขาวเนียนเข้ามากอดไว้แน่น แทบไม่มีความเสียใจที่กูมีความคิดว่าจะทิ้งผู้หญิงทุกคน เพราะที่ผ่านมา กูมีคนในใจ แต่ที่เลือกรัก เพราะมันคล้ายคนในใจมากเกินไป
แต่คนในใจแม่งก็คือคนในใจ ไม่มีหน้าไหนแทนได้
สองปีกับห้าเดือน คงรู้อยู่แก่ใจว่ากูจะเลือกใคร
“...”
“แต่ครั้งนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่กูจะให้มึงแล้ว เหมียว”
แม้ว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นมิว... ก็ไม่เว้น
[จบพาร์ท : คราม]
ฉันตื่นเช้ามาพร้อมกับแชทที่ถูกครามบล็อก เบอร์ก็ถูกบล็อก โทรหาเขาแต่กลับไม่มีใครรับสาย
ฉันนั่งมึนงงอยู่ในห้องนอนของตัวเอง กับร่างเปลือยเปล่าที่เพิ่งตื่นจากการหลับใหล มันเพิ่งตื่นตัวจากเมื่อวานเลย ที่เรามีอะไรกันแล้วเขาบอกรักฉัน
เมื่อคืนเขายังอยู่กับฉันแท้ๆ แต่วันนี้เขากลับบล็อกฉันทุกช่องทาง เหมือนกำลังจะถูกเขี่ยทิ้งก็ไม่ปาน
แวบแรกฉันกลัวว่าครามจะเป็นอะไรไป เพราะปกติถึงเขาจะนอนกับผู้หญิงคนอื่นเวลามีฉันจนฉันโกรธ แล้วตามมาง้อฉันอย่างรุนแรง แต่ครามก็ไม่เคยแสดงออกว่าจะขาดการติดต่อกับฉันไปทั้งอย่างนี้ เขายังแสดงออกว่าจะมีฉันเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ
ห้าเดือนที่ผ่านมาฉันลงหลักปักฐานว่าจะลงเอยที่เขา หวังไว้สูงมากทีเดียวว่าจะต้องเป็นเขาที่ฉันจะแต่งงานด้วย
หรือเพราะเมื่อวานที่ฉันบอกว่าจะให้เขาไปเจอครอบครัว? เขาไม่อยากคิดจะรับผิดชอบฉันเหรอ
ไม่อยากโดนผูกมัดขนาดนั้นเลยเหรอ...
ฉันนั่งคิดมากอยู่บนเตียง ครามทิ้งฉันไปอย่างงงๆ เหมือนว่าห้าเดือนที่ผ่านมาเขาไม่ได้รักฉันเลย ทั้งที่เขาแสดงออกมากขนาดนั้นว่าหวงแหนฉันราวกับของสำคัญแท้ๆ
ฉันไม่สามารถติดต่อเพื่อนเขาได้ เพราะตลอดเวลาที่คบกัน เพื่อนเขาสักคนครามก็ยังไม่เคยแนะนำให้รู้จัก ฉันเคยถาม แล้วก็โดนเขาตะคอกใส่ว่าเพราะเขาไม่ต้องการให้เพื่อนรู้จักฉัน แล้วหลังจากนั้นเขาก็ปลุกปล้ำฉันอย่างหนัก เนื่องจากฉันทำให้เขาไม่พอใจ
แม้แต่บ้านของเขา ฉันยังไม่เคยไปเลย ครามรู้เรื่องของฉันทุกอย่าง แต่เรื่องของเขาฉันกลับไม่เคยได้รู้อะไรเลย
ฉันนั่งเครียด ร้องไห้ คิดมาก คิดไปต่างๆ นานาว่าเพราะอะไร เพราะมันไม่มีเหตุผลเลย เรื่องของเขาฉันก็ไม่เคยรู้ ทั้งเรื่องแฟนเก่า หรือเรื่องที่ว่าเขาคิดอะไรอยู่
ฉันหลอกตัวเองว่าเขารักฉัน หลอกตัวเองทุกวัน
จนมัน...
ครืด ครืด
ฉันสะดุ้งเมื่อคิดอะไรอยู่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่นข้างหมอน พอกดดูเบอร์ ก็พบว่าเป็นเบอร์แม่
ฉันรีบเช็ดน้ำตา แล้วรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล มีอะไรเหรอคะแม่”
[น้องมิว วันนี้มีเรียนมั้ยจ๊ะ] ทันทีที่แม่ถามฉันก็สูดน้ำมูก [มีน้ำมูก? เป็นหวัดเหรอน้องมิว]
“เปล่าค่ะแม่ มิวไม่มีเรียน มีเรื่องไรอ่ะ” ฉันปรับเสียงตัวเอง แล้วยกหลังมือเช็ดน้ำมูกที่ไหลลงมาเพราะผลจากการร้องไห้
[พี่เหมียวเค้าเอาสามีมาเปิดตัวกับพ่อแม่ เลยอยากให้มิวมาร่วมแสดงความยินดีจ้ะ]
หือ?
พี่เหมียวเปิดตัวสามีเหรอ
พี่เหมียวน่ะเสน่ห์แรงจะตาย มีแฟนตั้งแต่ ม.ต้น แล้ว ไม่เห็นน่าตื่นเต้นตรงไหน
“มิวต้องไปด้วยเหรอคะ”
[แน่สิจ๊ะ พี่เหมียวบ่นคิดถึงมิวอยู่นะ] ฉันชะงักไป
พี่เหมียวบ่นว่าคิดถึงงั้นเหรอ?
“ค่ะ งั้นเดี๋ยวรอมิวอาบน้ำแต่งตัวแปปนึงนะแม่”
ใจอ่อนอีกแล้ว
