บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“ถ้าไม่คิดจะรักกันตั้งแต่แรก...นายจะมากักฉันเอาไว้ทำไม เธอเองก็ยอมรับว่าแท้ที่จริงแล้วรักนาย นายน่าจะดีใจแล้วก็ปล่อยฉันไปสักที ทุกอย่างมันก็จะได้จบ!”

“นั่นไม่ใช่ทางออกที่ฉันจะเลือกให้กับเรา บอกแล้วไงว่าฉันไม่มีวันปล่อยเธอไป เพราะว่าฉันยังมีหน้าที่สำคัญต้องปกป้องรอยยิ้มของเธออยู่” แค่นั้นจริงๆ สินะ สิ่งที่ยื้อคนคนนี้เอาไว้เป็นเพียงแค่รอยยิ้มที่เขาบอกว่าสดใสที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมา ก็แค่หน้าที่ที่เขาอยากจะทำให้เสร็จสิ้นเท่านั้นเองสินะ

“ขอเวลาฉันอีกนิดนะ แล้วฉันจะรีบจัดการเรื่องทุกอย่างให้มันดีขึ้นเอง ฉันสัญญา ได้ไหม” จบคำสัญญาที่ยูไดเอ่ยปากพูดเป็นครั้งแรก ร่างฉันก็ถูกดึงเข้าไปซุกแผงอกกว้างที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ยังอบอุ่นเสมอ และก็เป็นอีกครั้งที่ฉันต้องใจอ่อนให้กับความอ่อนแอของตัวเองที่มันมีมากมายมหาศาล มาจนถึงวินาทีนี้ฉันค่อนข้างจะมั่นใจแล้วล่ะ ว่าชีวิตฉันได้ถูกสาปเข้าให้แล้วจริงๆ

ถูกสาปให้ต้องจมอยู่กับการรอคอย และคำสัญญาของเขา

ผู้ชายที่สาปฉันในวันที่ฝนตก!

‘เย็นนี้เจอกันหน้าโรงเรียนนะ ฉันมีแข่งรถตอนทุ่มครึ่ง และเธอจะต้องไปเชียร์ฉัน ห้ามมีข้อแม้อะไรทั้งนั้น แล้วเจอกัน’ นี่เป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่เราทั้งคู่จะแยกกันเข้าเรียน ซึ่งตอนนี้มันก็ล่วงเลยมาเป็นเวลาคาบสามเข้าไปแล้ว ฉันได้แต่พยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินจากมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย จนกระทั่งมาถึงคลาส ที่ตอนนี้มีร่างของใครบางคนยืนรออยู่ก่อนแล้ว

“เมื่อเช้ายูไม่ได้ไปรับฉัน เขาหายไปกับเธอมาสินะ” น้ำเสียงที่ถ้าต่อหน้าคนอื่นจะหวานใสไร้เดียงสา แต่เมื่อใดที่อยู่ต่อหน้าฉัน...จะกลายเป็นน้ำเสียงหยิ่งผยองขึ้นมาทันตาของวาโยดังขึ้นทันทีที่ฉันเดินมาใกล้

“ก็เราเป็นแฟนกันนี่ ผิดด้วยรึไงที่จะไปไหนมาไหนด้วยกัน!” ปกติแล้วฉันเองก็เป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยพูดจาเท่าไหร่นัก แต่กับผู้หญิงคนนี้ ที่เที่ยวไปป่าวประกาศว่าฉันใช้มารยาแย่งยูไดไปจากเธอบ้างล่ะ ฉันเคยทำแท้งมาบ้างล่ะ จนถึงตอนนี้ภาพลักษณ์ของฉันในสายตาคนอื่นดูเหมือนจะย่ำแย่ลงมากเข้าไปทุกที ฉันจะไม่ขอทน!

“เขาก็แค่รักเธอประชดฉัน แค่นี้ดูไม่ออกรึไง!”

“ถ้ามั่นใจขนาดนั้นเธอจะมาบอกฉันทำไม เขารักเธอ แต่ว่าทำไมพอฉันบอกให้เขาเลิกกับฉันซะ เขาถึงได้ทำหน้าเหมือนคนใกล้จะตายทุกทีเลย มันทำไมกันนะ!”

“ไม่จริง! เธอโกหก!ยูไดไม่มีวันหลงรักผู้หญิงอย่างเธอ!”

“แล้วผู้หญิงอย่างเธอมันน่ารักมากเลยสินะ...” ฉันที่ตั้งท่าจะสวนกลับต้องชะงักลงเมื่อเสียงเข้มๆ ของผู้มาเยือนใหม่ดังขึ้นขัดซะก่อน ใบเย็นชาแสนคุ้นตาที่เดินเข้ามาร่วมวงสนทนาอันดุเดือดของเราทั้งคู่นั่นมัน...

“ระ...ไรเฟิล!”

“ยังเป็นผู้หญิงที่ต่อหน้าอ่อนหวาน แต่ลับหลังเป็นนางมารเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ฉันขอตัวยัยนี่สักครู่ก่อนแล้วกัน ช่วยมาด้วยกันหน่อยได้ไหมครับนางฟ้า” ฟังดูเหมือนเป็นคำพูดที่อ่อนหวานสินะ ฉันคงจะคิดแบบนั้นถ้าไม่เพราะทันทีที่พูดจบ หมอนั่นก็ดึงมือฉันลากให้ลงบันได โดยทิ้งวาโยให้ยืนแน่นิ่งอยู่กับที่ เขาคนนี้...ทำไมกัน! ทุกครั้งที่หมอนี่ปรากฏตัวขึ้น ยัยนั่นมักจะทำหน้าเหมือนใกล้จะตาย ใบหน้าที่น่าสงสารแบบนั้นมันคืออะไรกันแน่นะ

[สวนนั่งเล่นภายในมหาวิทยาลัย]

“นี่! นายจะลากฉันไปถึงไหน ปล่อยนะ!” ไรเฟิลยอมปล่อยแขนฉันให้เป็นอิสระตามคำขอแต่โดยดี นัยน์ตาสีดำสนิทตวัดมามองฉันนิด ก่อนจะคว้าบุหรี่ขึ้นมาสูบด้วยท่าทางเซ็งๆ

มองหน้าฉันด้วยสีหน้าแบบนั้น..หมายความว่ายังไงกันยะ

“ขอโทษแทนยัยนั่นด้วย วาโยไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ แต่ที่ยัยนั่นเป็นแบบนั้น...ทั้งหมดเป็นเพราะฉันเอง”

“นายหมายความว่ายังไง ตกลงว่านายคือคนที่วาโยรัก และยูไดก็รักวาโย แต่ว่ายัยนั่นดันรักนาย แต่กลับกัน นายกลับไม่รักยัยนั่น โอ๊ย! ฉันงงกับความรักของพวกนายจริงๆ” ฉันพูดพร้อมกับสะบัดหัวไปมาอย่างงุนงงสับสน นี่มันวงจรชีวิตรักสามเส้าครบสูตรเลยนี่นา แล้วอีแบบนี้ใครกันนะระหว่างสามคนนี้ที่เจ็บหนักใกล้ตายที่สุด

“ถ้าอย่างงั้น...ให้ฉันรักเธอดีไหม เธอจะได้เข้ามาร่วมความสนุกกับพวกเรายังไงล่ะ” ใบหน้าคมคายโน้มต่ำลงมาเรื่อยๆ จนฉันต้องถอยหนีห่างออกมาในรัศมีที่คิดว่าน่าจะปลอดภัย ก่อนจะเอ่ยปากพูด...

“ขอบคุณที่อุตส่าห์ชวน แต่ฉันขอผ่าน”

“หึ! เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกมันนี่ เพราะดูท่าไอ้ยูมันจะหวงเธอน่าดู เอาอย่างนี้ดีไหม เพื่อเป็นการฉลองที่เราได้คุยกันอย่างเป็นทางการ ฉันจะเล่านิยายปัญญาอ่อนสักเรื่องให้เธอฟัง”

“.....”

“แต่ขอเตือนเอาไว้ก่อนเลยนะว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างเศร้า เธออาจจะเสียน้ำตาถ้าได้ฟังมัน”

“งั้นก็เป็นโชคดีของฉันที่พกผ้าเช็ดหน้าติดตัวเอาไว้เผื่อว่าจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นสินะ”

ไรเฟิลกระตุกยิ้มให้กับประโยคที่สวนกลับอย่างไม่เกรงกลัวของฉัน ก่อนจะเหลือบมองท้องฟ้าด้วยสายตาเรียบเฉย นิ่งไปนานหลายนาทีกว่าเขาจะตัดสินใจเล่านิทานที่ว่าออกมา...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel