บทที่ 7 เกลียดแบบไหน
ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ ที่ดาริกาต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจของผู้ชายที่รักกับผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ทำได้แค่กล้ำกลืนฝืนทนแม้จะเจ็บช้ำเพียงใดก็ตาม
ตอนนี้เธอก็กำลังยืนมองชายหนุ่มนั่งทานข้าวกับว่าที่คู่หมั้น คอยตักนู่นตักนี่ใส่จานให้กันตลอด บ้างก็พูดคุยยิ้มแย้มหัวเราะกันอย่างมีความสุข
ขณะที่เธอเจ็บเสียเต็มประดาไม่ชินสักทีแม้จะเห็นภาพเหล่านี้ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ความเจ็บยังคงตอกย้ำซ้ำ ๆ ทุกครั้งไป
"คืนนี้น้องแป้งไปงานประมูลกับพี่นะครับ พี่จะเปิดตัวน้องแป้งกับทุกคนในฐานะว่าที่คู่หมั้น" ศรัณย์ปรายตามองร่างบางที่ยืนอยู่ไม่ห่างเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จ
"แต่แป้งไม่มีชุดเลยนะคะ ถ้าพี่ศรัณย์บอกล่วงหน้าก่อนแป้งจะได้เตรียมชุดไว้" แป้งทำหน้าคว่ำใส่คนที่ชวนเธอออกงานกะทันหัน
"ไม่ต้องห่วงเรื่องชุดครับ พี่เตรียมไว้ให้แล้ว"
"ฮืม.." แป้งมองหน้าชายหนุ่มอย่างฉงนไม่คิดว่าเขาจะเตรียมการพร้อมขนาดนี้ หรือไม่ก็บอกล่วงหน้ากันก่อนสักหน่อยยังดี
ศรัณย์ไหวไหล่พลางหัวเราะอย่างชอบใจกับปฏิกิริยาของหญิงสาว ก่อนจะลุกเดินออกจากโต๊ะอาหารโดยมีแป้งเดินตามหลังไปติด ๆ
ทิ้งให้ดาริกายืนน้ำตาคลอหน่วยอยู่ลำพังกระทั่งเห็นป้าสีนวลเดินมาจึงรีบกระพริบตาไล่น้ำตาออก จากนั้นก็เก็บจานไปล้าง
ครืด ครืด~
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้นทำให้ดาริกาที่กำลังเดินออกจากตึกใหญ่หลังจากทำหน้าที่ตัวเองเสร็จชะงัก มือล้วงไปหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเห็นเบอร์แยมจึงกดรับสาย
"ว่าไงแยม"
(คืนนี้เรากับมิ้นท์จะไปเที่ยวผับ ดาไปด้วยกันไหม)
"อืม..ไปก็ได้" ดาริกาชั่งใจชั่วครู่ก่อนตอบตกลง
(วันนี้ฝนคงตก แกยอมไปเที่ยวผับง่าย ๆ ปกติคะยั้นคะยอกันเอ็นแทบขึ้นคอ)
แยมอดแซวดาริกาไม่ได้เพราะปกติดาริกาจะไม่ค่อยชอบเที่ยวผับเท่าไร จะไปก็ต่อเมื่อขัดไม่ได้ หรือมีงานเลี้ยงเท่านั้น
"แกก็เวอร์เกิน"
(ไม่เวอร์สักหน่อย ยังไงหนึ่งทุ่มเราไปรับนะ)
"เค.."
หลังจากวางสายแยมดาริกาก็เดินตรงกลับห้องจัดการอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปผับ เธอเลือกใส่กระโปรงยีนส์ความสั้นอยู่กลางขาอ่อนกับสายเดี่ยวผ้าเช็ดหน้าสีดำเป็นชุดที่เพื่อนซื้อให้เป็นของขวัญเพราะปกติเธอไม่ใช่คนที่ชอบใส่เสื้อผ้าโชว์เนื้อหนังขนาดนี้จึงไม่ได้ซื้อผ้าพวกนี้เลย
อีกทั้งชายหนุ่มยังสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้แต่งตัวโป๊ ไม่ให้แต่งหน้าเดี๋ยวสวยแล้วหนุ่ม ๆ จะมาต่อแถวจีบ แค่นั้นไม่พอยังไม่ให้เธอเที่ยวผับเที่ยวบาร์ด้วยเพราะหวง
ทว่าตอนนี้คนสั่งห้ามคงไม่สนใจว่าเธอจะทำอะไร จะไปไหนหรือแต่งตัวยังไง หนำซ้ำยังทำร้ายจิตใจกันซ้ำ ๆ คืนนี้เธอจะปลดปล่อยให้ลืมผู้ชายใจร้ายอย่างเขาไปเลย
เลือกชุดเสร็จก็มานั่งแต่งหน้าต่อ ตามด้วยม้วนลอนผม จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มาเล่นฆ่าเวลาระหว่างรอเพื่อนสาวมารับ
ครืดดด~
ผ่านไปราวยี่สิบนาทีเสียงจากเตือนจากแอปพลิเคชันไลน์ก็ดังขึ้นพร้อมด้วยข้อความจากแยมที่เด้งบนหน้าจอบอกว่า 'กำลังไปรับนะ'
เธอกดปิดหน้าจอมือถือลุกจากเตียงเดินไปเช็คความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจก จากนั้นก็คว้ากระเป๋ามาสะพายไหล่เดินออกจากห้อง
"หยุดเดี๋ยวนี้ดาริกา"
ขณะกำลังเดินไปยังประตูรั้วเธอก็ต้องชะงักกึกกับน้ำเสียงแข็งกร้าวที่ดังตามหลังมา ซึ่งมันบ่งบอกถึงอารมณ์คนเรียกได้เป็นอย่างดี
ดาริกาอดหัวใจสั่นไหวไม่ได้แต่ยังคงเก็บอาการได้ดีหันกลับไปมอง ก่อนเธอจะต้องผงะเพราะเจ้าของเสียงยืนจังก้าอยู่ด้านหลังในระยะเผาขน
สองเท้าเล็กขยับถอยหลังรักษาระยะห่างอัตโนมัติ คิ้วขมวดมุ่น เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงเขาไกล ๆ อยู่เลยไม่รู้ว่าเดินมาข้างหลังเธอตอนไหนกัน
ใบหน้าคมเข้มขมวดจนคิ้วแทบจะผูกกัน แววตาเกรี้ยวกราดจ้องเขม็งมายังเธอราวกับจะฆ่ากันยังไงยังงั้นจนเธอรู้สึกตัวชา หายใจไม่ทั่วท้อง
มือเผลอขยำชายกระโปรงยีนส์ตัวสั้นอัตโนมัติในตอนที่อีกคนไล่สายตาเกรี้ยวกราดมองตั้งแต่ใบหน้าจรดปลายเท้าแล้วไล่สายตาขึ้นมาจับจ้องหน้ากันอีกครั้ง
บรรยากาศรอบตัวเย็นเยือกและอึมครึมชวนให้อึดอัดเอามาก ๆ
"เสื้อผ้าดี ๆ ไม่มีใส่เหรอถึงได้เอาเศษผ้ามาใส่แบบนี้" น้ำเสียงห้วนกระด้างเปล่งขึ้นหลังจากจ้องร่างบางในชุดขัดหูขัดตามาสักพัก "เสื้อผ้าแบบนี้เหมาะจะเอาให้หมาใส่มากกว่า"
คำพูดจากร่างสูงทำดาริกานึกโมโหไม่น้อย ความหวั่นใจมลายหายไปหมดสิ้น เธอเชิดหน้าขึ้นสวนกลับอย่างเหลืออด
"นี่มันร่างกายของฉัน ฉันจะใส่อะไรมันก็คงไม่เกี่ยวกับคุณศรัณย์ใช่ไหมคะ"
"ไม่เกี่ยวได้ยังไงในเมื่อเธอเป็นคนในบ้านพิทักษ์ธรานนท์"
"ก็แค่คนใช้ค่ะ ฉะนั้นฉันจะแต่งตัวยังไง หรือจะแก้ผ้าเดินคงไม่ทำให้ตระกูลพิทักษ์ธรานนท์เสียหายเพราะคงไม่มีใครให้ค่าคนใช้อย่างฉัน"
"อย่าอวดดีดาริกา อย่าลืมสิว่าที่เธอมีกินมีใช้ มีที่ซุกหัวนอน และได้เรียนมหาลัยดี ๆ เพราะเงินของพิทักษ์ธรานนท์ทั้งนั้น ฉะนั้นถือว่าเธออยู่ในการปกครองของพิทักษ์ธรานนท์ห้ามทำอะไรที่ส่งผลไม่ดีต่อภาพลักษณ์พิทุกษ์ธรานนท์เด็ดขาด"
"ฉันก็แค่แต่งตัวเหมือนที่วัยรุ่นทั่วไปแต่งกัน มันไม่ดีตรงไหนคะ"
"เหมือนวัยรุ่นเหรอ ฉันว่าแต่งตัวแบบนี้ออกจากบ้านมืด ๆ ค่ำ ๆ เหมือนกระหรี่มากกว่า"
"คุณศรัณย์" ดาริกาโมโหมากกว่าเดิมกับคำพูดหยาบคายจากอีกคน ขณะที่หัวใจเจ็บช้ำยิ่งกว่าไม่นึกว่าเขาจะมีความคิดกับเธอแบบนี้ทำราวกับว่าไม่รู้จักนิสัยใจคอกันเลย
"ก็แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ อยากคิดอะไรก็ตามสบายเลย" เธอมองสบแววตาเกรี้ยวกราดอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะเอ่ยตัดบทแล้วหันหลังเดินต่อไม่อยากจะโต้ตอบกับคนใจร้ายให้เจ็บช้ำใจอีก
"ว้าย!"
เดินได้เพียงก้าวเดียวก็ต้องร้องอุทานตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะถูกอีกคนเดินมาขวางหน้า แล้วจับเธอขึ้นอุ้มพาดบ่าจนหัวห้อยโตงเตง
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัวสักนิด
"คุณศรัณย์ปล่อยฉันนะ" พอหายตกใจก็พยายามดีดดิ้นสุดแรงทั้งรัวกำปั้นทุบตีแผ่นหลังกว้างหวังให้เขาปล่อยตัวลง "คุณจะมายุ่งกับฉันทำไมในเมื่อเกลียดกัน เอาเวลาไปสนใจคุณแป้งว่าที่คู่หมั้นคุณดีกว่า"
"..."
"ปล่อยฉันนะคุณศรัณย์"
"..."
ไม่มีคำพูดและปฏิกิริยาใด ๆ ตอบสนองจากร่างสูง เขาเอาแต่ก้าวฉับ ๆ ตามทางเดินที่ไปยังห้องพักคนใช้
ดาริกานึกหวั่นใจเธอเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าชายหนุ่มคิดจะทำอะไร พยายามส่งเสียงทักท้วงก็แล้ว ดิ้นก็แล้ว ตีก็แล้วแต่ไม่ส่งผลอะไรต่อเขาสักนิด
เธอถูกเขาอุ้มมาหยุดหน้าห้องพัก ก่อนเขาจะใช้มือข้างซ้ายประตู อีกมือยังกอดรัดรอบต้นขาแน่น แล้วก้าวเข้าไปในห้องใช้เท้าถีบประตูให้ปิด
จากนั้นก็อุ้มเธอไปวางกลางห้อง
ทันทีที่เท้าแตะถึงพื้นและทรงตัวได้เธอก็ถอยหลังด้วยความเร็วไม่อยากจะอยู่ใกล้คนใจร้ายเกินไป ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกันแน่ถึงได้อุ้มเธอเข้ามาในห้องแบบนี้
"ถอดชุดนี้ทิ้งไปซะ อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอใส่อีก" เสียงห้วนกระด้างออกคำสั่งอย่างดุดันทำดาริกาหวั่นใจเล็กน้อย แต่ความโมโหยังมีมากกว่าจึงยืนนิ่งไม่ยอมทำตามพลางเสหน้าหนีไปทางอื่น
ท่าทางต่อต้านและเมินเฉยของเธอทำคนที่อารมณ์คุกรุ่นอยู่แล้วยิ่งโกรธไปใหญ่
"ดาริกา!"
