บทที่ 1 ดาริกา=ผิด
หลังจากธีทัตจากไปบริเวณนั้นจึงเหลือเพียงคนทั้งสองท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ
ศรัณย์จ้องใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยังมีคราบน้ำตาเกาะอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปที่รถโดยไม่พูดไม่จาสักคำ ส่วนอีกคนยังคงยืนนิ่งไม่ยอมขยับมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความรู้สึกหลากหลาย
วันนี้เกิดเหตุการณ์ขึ้นเยอะมากจนเธอปรับอารมณ์ไม่ทัน สมองมันอึน ความรู้สึกมากมายผสมผสานกันมั่วไปหมด
ทั้งรู้สึกเสียใจและโกรธในเวลาเดียวกันที่เขาทำราวกับเธอเป็นสิ่งของเอามาใช้เดิมพัน ในสมองงุนงงว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ทำไมถึงย้อนกลับมาช่วยเธอถึงขั้นยอมเสียเงินหลักล้าน
"จะอยู่ที่นี่รึไง!"
น้ำเสียงดุดันดังขึ้นทำเธอที่จิตใจและสมองล่องลอยไปไกลสะดุ้งเฮือก ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินไปยังรถสปอร์ตหรูที่มีอีกคนยืนเปิดประตูฝั่งคนขับค้างอยู่ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ แววตาจ้องมองมาราวกับจะกินหัวกัน
และทันทีที่เธอก้าวขึ้นมานั่งบนรถเขาก็สตาร์ทเครื่องเหยียบคันเร่งพุ่งตัวออกด้วยความเร็วทำเธอที่กำลังก้มหน้ารัดเข็มขัดนิรภัยหน้าแทบคะมำชนคอนโทรลด้านหน้า
เธอหันควับมองใบหน้าเคร่งขรึมของคนที่กำลังขับรถด้วยความขุ่นเคืองน้อย ๆ เหมือนเขาจงใจแกล้งกัน คนถูกมองรับรู้ได้หันจ้องตอบ เอ่ยถามเสียงเรียบ
"มีปัญหาเหรอ?"
ดาริกาเลือกไม่ตอบแล้วเบี่ยงหน้ามองออกไปนอกกระจกรถแทน ขณะที่ในใจกำลังก่นด่าอีกคนสารพัด
ภายในรถถูกความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะ ก่อนศรัณย์จะเอ่ยอีกครั้ง
"อย่าคิดว่าที่ฉันเอาตัวเธอกลับมาเพราะรักหรืออะไรนะ ฉันแค่เก็บเธอไว้ทรมานเล่น ๆ เองดีกว่า เงินหนึ่งล้านที่ฉันเสียไปเธอก็ต้องเป็นคนจ่ายคืน"
"..."
คำพูดจากริมฝีปากหยักทำดาริกาหันกลับมามองเสี้ยวหน้าคมอีกครั้ง สองคิ้วขมวด ดวงตากลมฉายแววงุนงง
ตอนแรกเป็นเขาเองที่เอาเธอไปเป็นของเดิมพัน แล้วก็เป็นเขาเองที่เปลี่ยนใจยกเลิกมันจนยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านแลก แล้วไหง่กลายเป็นเธอที่ต้องรับผิดชอบกัน
เธอไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป รู้ดีว่าพูดอะไรไปก็มีแต่จะทำให้เขาไม่พอใจเปล่า ทว่าการที่เธอใช้ความเงียบเหมือนยิ่งทำให้เขาโกรธ
"ลืมปากไว้ที่สนามแข่งรึไง" ตะเบ็งเสียงถามดังลั่นจนเธอสะดุ้ง
"พี่ศรัณย์จะให้น้องดาพูดอะไรล่ะคะ"
"เธอกำลังท้าทายขีดความอดทนของฉันนะดาริกา"
พอเธอพูดก็ยิ่งกลับกลายเป็นทำให้เขาโกรธกว่าเดิมอีก สำหรับเขาในตอนนี้ไม่ว่าเธอจะทำหรือพูดอะไรก็ดูเหมือนจะขัดหูขัดตา และทำให้เขาไม่พอใจไปเสียหมด
"พอพูดก็ไม่ถูกใจ พอไม่พูดก็ผิดอีก แล้วจะให้น้องดาทำยังไงคะถึงจะพอใจพี่ศรัณย์"
"อย่ามาชักสีหน้าใส่ฉัน"
ขนาดเธอแค่ขมวดคิ้วเขายังมองว่าเธอชักสีหน้าใส่เลย
"นะ..."
เอี๊ยดดด~
ทำท่าจะปฏิเสธแต่ก็ต้องชะงักเพราะเขาหักพวงมาลัยรถเข้าจอดข้างทางกะทันหันจนเธอตัวโยนไปข้างหน้าดีที่รัดเข็มขัดนิรภัยอยู่ไม่อย่างนั้นคงหัวคะมำชนคอนโทรล
เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณที่รถจอดอยู่ สองข้างทางมีแต่ต้นไม้กับพงหญ้า แถมไฟส่องสว่างก็ติด ๆ ดับ ๆ ถนนดูเปลี่ยวค่อนข้างน่ากลัวน้อยนักที่จะเห็นรถวิ่งผ่าน
อีกคนจอดรถตรงนี้ทำไมกันคำถามผุดขึ้นในสมองเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วสิ ไม่ใช่ว่าเขาจะปล่อยเธอไว้ที่นี่นะหันมองใบหน้าคมด้วยความหวั่นใจ
"ลงไป"
ไม่ทันได้ถามน้ำเสียงดุดันก็ดังขึ้นเสียก่อน นั่นไงเธอคิดไว้ไม่มีผิดเขาจะทิ้งเธอไว้ข้างทางจริง ๆ แต่เรื่องอะไรเธอจะยอมทำตามคำสั่งล่ะ
"ไม่น้องดาไม่ลง มันทั้งมืดทั้งเปลี่ยวน้องดากลัว" เธอว่าพลางใช้สองมือจับสายเข็มขัดนิรภัยแน่น ถนนทั้งมืดทั้งเปลี่ยวขนาดนี้ใครจะลงก็ลงไปเถอะแต่ไม่ใช่เธอแน่นอน
เกิดลงไปแล้วเจอคนไม่ดีจะทำยังไง อีกคนจะโกรธมากแค่ไหนหรือมองว่าเธอหน้าด้านก็ช่างปะไรเอาความปลอดภัยของตัวเองไว้ก่อน
"บอกให้ลงไป หูหนวกเหรอ" เขาออกคำสั่งอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังและดุกว่าเดิมพร้อมสาดสายตาคมกริบจ้องเธอเขม็ง
"ไม่ค่ะ น้องดาไม่ลง" แอบหวั่นกับท่าทางของเขาอยู่เหมือนกัน แต่จะให้ลงจากรถไม่มีทางเด็ดขาดยิ่งจับสายเข็มขัดนิรภัยแน่นขึ้นด้วยกลัวว่าเขาจะมาลากเธอลงไป
"เธอนี่มันหน้าด้านหน้าทนจริง ๆ"
"พี่ศรัณย์จะด่าอะไรก็ด่ามาเถอะค่ะ แต่น้องดาไม่ลง"
ศรัณย์ถอนหายใจออมาพรืดใหญ่กับความดื้อด้านของเธอ เขารู้มาตลอดว่าเธอดื้อแต่ไม่คิดว่าจะทั้งดื้อและด้านมากขนาดนี้
จ้องใบหน้าจิ้มลิ้มนิ่ง ๆ นานนับนาที ก่อนขับรถออกจากตรงนั้นพลางเปล่งเสียงพูด
"ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ แล้วก็ไม่ต้องแทนตัวเองว่าน้องเราไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน เธอเป็นแค่ลูกแม่บ้าน ต่อให้แม่ของเธอจะถีบตัวเองจนได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งเมียใหม่พ่อฉันมันก็เปลี่ยนกำพืดของเธอกับแม่ไม่ได้หรอก"
"ทำไมต้องพูดจาดูถูกกันด้วยคะ" คำพูดของเขาทำดาริกาเสียใจอยู่ลึก ๆ ขณะเดียวกันก็นึกขุ่นเคืองไม่น้อย
แววตาที่มองใบหน้าหล่อเหลาอย่างตัดพ้อในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นขุ่นเคืองนาทีต่อมา
แรกเริ่มก็เป็นเขาบังคับให้เธอเรียกว่าพี่แล้วแทนตัวเองว่าน้องเหตุผลเพราะน่ารักดี แต่มาวันนี้กลับพูดเหมือนว่าเธออยากยกตัวเองเทียบเท่าเขาช่างเป็นคนไร้เหตุผล
"ไม่ให้เรียก ไม่เรียกก็ได้ใจร้ายใส่กันขนาดนี้คิดว่าอยากเรียกมากรึไงกัน"
"หรือฉันพูดผิด ขี้ข้าก็คือขี้ข้าวันยังค่ำ"
เขายังคงสาดคำพูดแสนเจ็บแสบใส่กันไม่เลิก แต่เธอไม่อยากทะเลาะต่อจึงเลือกจะเงียบเบี่ยงหน้าเข้าหากระจกแล้วปิดตาลงทำเหมือนหลับ
