6 แผนลวงตา
เจโรมกลับมาที่โรงแรมและเริ่มคิดแผนอีกครั้งในเมื่อแผนการแรกไม่ได้ผลก็ต้องใช้แผนที่สอง และเมื่อแผนที่สองก็ยังไม่ได้ผล ก็ต้องใช้แผนที่สาม เขาคิดว่าศศิภัทรเป็นผู้หญิงที่เดาใจยากกว่าที่คิด เธอไม่ยอมแพ้แต่เขาก็จะทำให้เธอแพ้ให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
เพราะเป็นคนชอบเอาชนะเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเมื่อได้มาเจอคู่แข่งแบบนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกท้าทายมากขึ้น เขาจะให้เวลาตัวเองได้เล่นเกมกับเธออีกสักหน่อยและถ้าวันไหนเบื่อที่จะเล่นเจโรมก็จะใช้แผนสุดท้ายที่คิดว่ายังไงศศิภัทรก็คงต้องแพ้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดแผนได้เจโรมโทรศัพท์หาเหมือนแพรทันทีเพื่อเริ่มแผนขั้นต่อไปในเย็นนี้ทันที
เจโรมให้เหมือนแพรขับรถไปใกล้บ้านบิดาของเขา จากนั้นก็แกล้งทำเป็นรถเสียกะเวลาให้รถของบิดาขับผ่านซึ่งเขาถามจากคนขับรถแล้วว่าท่านจะกลับบ้านเวลาไหน
หลังจากประชุมตลอดบ่ายคุณอนันต์ก็นั่งรถออกจากบริษัทของตนเองเพื่อกลับมาที่บ้าน วันนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าจะออกไปทานข้าวข้างนอกกับศศิภัทรว่าที่ภรรยาสาว
“ซีซีเข้าใจค่ะ วันนี้ซีซีเองก็เหนื่อยค่ะ คุณอารีบกลับบ้านไปพักผ่อนนะคะ” น้ำเสียงที่ตอบกลับทางโทรศัพท์อ่อนหวานและไม่เคยแสดงความโกรธหรือไม่พอใจเลยสักครั้งที่เขาผิดนัด
“ขอบใจนะซีซีที่เข้าใจอานะ”
“ซีซีรู้ว่าคุณอาทำงานเหนื่อยแค่ไหน สุขภาพของคุณอาต้องมาก่อน แต่ซีซีหวังว่าวันที่เรานัดไปดูชุดแต่งงานคุณอาจะว่างนะคะ” ศศิภัทรอ้อนเสียงหวาน
“แน่นอน อาไม่มีทางลืมวันสำคัญหรอกนะ”
“ขอบคุณนะคะคุณอาที่ไม่ลืมเรื่องสำคัญของเรา วันนี้คุณอาพักผ่อนนะคะ ซีซีก็จะรีบพักเหมือนกันค่ะ”
คุณอนันต์วางสายจากศศิภัทรแล้วก็ยิ้มอย่างอย่างมีความสุข ตั้งแต่ได้รู้จักกับหญิงสาวเขาก็รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น
เขาเป็นผู้ชายที่กำลังจะก้าวเข้าสูงคำว่าสูงวัยแต่หัวใจกลับกระชุ่มกระชวย ศศิภัทรเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่รู้จักกันมาหลายเดือนเธอไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเขาเลยแม้แต่อย่างเดียว แม้เขาจะพยายามเสนอแต่เธอก็ปฏิเสธ มันเลยทำให้คุณอนันต์รู้สึกประทับใจและติดต่อกับเธอบ่อยมากขึ้น
หญิงสาวห่วงใยในสุขภาพของเขาและคอยแนะนำอยู่ตลอด แม้รู้ว่าเธออาจจะทำเพราะหน้าที่แต่ก็ไม่เคยมีใครใส่ใจเขาเท่ากับศศิภัทรมาก่อน จนในที่สุดเขาก็ขอคบกับเธออย่างจริงจัง
ในวันนั้นคุณอนันต์รู้สึกกังวลเพราะกลัวเธอปฏิเสธเนื่องจากเขาอายุมากแล้ว แต่เธอกลับตกลงและขอเขาหนึ่งข้อถ้าอยากจะคบกับเธอ นั่นก็คือการแต่งงานซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากเลยเพราะเขาผ่านการแต่งงานมาแล้วถึงสี่ครั้ง ถ้าจะมีครั้งที่ห้ามันก็คงไม่แปลกและตอนนี้เขาก็รอคอยให้วันนั้นมาถึง
ระหว่างนั่งใช้ความคิดมาตลอด รถยนต์คันหรูก็แล่นเข้ามาในซอย เขามองออกไปนอกประตูและเห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ คุณอนันต์จำได้ทันทีว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังรถคันนั้นคือใคร
“จอดก่อนวินัย” คุณอนันต์บอกคนขับรถ
“ครับ” วินัยชะลอความเร็วของรถแล้วจอดริมทางถัดจากรถที่จอดอยู่ไปเพียงนิด
เหมือนแพรยิ้มเมื่อเห็นรถของคุณอนันต์จอดลงเพราะมันเป็นไปตามแผนที่เจโรมวางเอาไว้
“สวัสดีครับคุณแพรรถเป็นอะไรเหรอครับ” เขาทักทายเธอไปก่อน
“สวัสดีค่ะ รถแพรเสียคะ”
“เรียกช่างหรือยังครับ ให้ผมช่วยอะไรไหม”
“เรียกแล้วค่ะ แต่คงอีกสักพักทางอู่ถึงจะมาดูให้ คุณอนันต์มาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ”
“บ้านผมอยู่ถัดจากตรงนี้ไปอีกนิดเดียวคุณแพรไปรอในบ้านก่อนดีไหม ตอนนี้ก็เริ่มจะค่ำแล้วผมว่าอยู่ตรงนี้คนเดียวมันอันตรายนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แพรเกรงใจ”
“จะต้องเกรงใจอะไรกันล่ะครับ ไปเถอะ ถ้าทางอู่มาแล้วไม่เจอเขาก็คงโทรตามคุณแพรเอง”
“ขอบคุณค่ะ”
เหมือนแพรขึ้นมานั่งบนรถก่อนที่วินัยจะขับมายังบ้านหลังใหญ่
“บ้านน่าอยู่มากเลยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
เหมือนแพรเดินตามเขามายังห้องรับแขกและมองไปรอบๆ บ้านที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เธอยิ้มให้กับสาวใช้ที่เอาน้ำและของว่างมาเสิร์ฟ
“คุณแพรพักอยู่แถวนี้เหรอครับ”
“เปล่าหรอกค่ะ แพรมาทำธุระแถวนี้ค่ะ”
คุณอนันต์ยังไม่ทันที่จะถามอะไรต่อเสียงโทรศัพท์ของเหมือนแพรก็ดังขึ้นเสียก่อน
“แพรขอรับสายก่อนนะคะน่าจะเป็นสายจากช่างค่ะ” เหมือนแพรเดินออกมาหน้าบ้านและตรงไปที่รถของตนเองตกลงกับช่างนิดหน่อยก่อนจะเดินกลับเข้ามาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง
“ช่างว่ายังไงบ้างครับ”
“รถมีปัญหานิดหน่อย ช่างจะเอารถมาลากไปที่อู่” หญิงสาวถอนหายใจสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
“แย่เลยนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ให้แพรเข้ามานั่งรอ แต่ตอนนี้แพรคงต้องขอตัวกลับก่อนที่จะค่ำไปกว่านี้”
“แล้วคุณแพรจะกลับยังไงครับ”
“เรียกบริการรับส่งค่ะ” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแอปพลิเคชันและเรียกบริการรถรับส่ง
“เดี๋ยวครับคุณแพร”
“มีอะไรคะ”
“ไม่ต้องเรียกหรอกครับ เดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่งคุณเอง”
“ขอบคุณนะคะ แต่แพรเกรงใจค่ะ แค่มานั่งรอที่นี่ก็ทำให้คุณเสียเวลามากแล้ว” หญิงสาวกล่าวอย่างเกรงใจ
“ไม่ต้องเกรงใจเลย ไหนๆ คุณก็มาถึงบ้านผมแล้ว ทานข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหม วันนี้ผมไม่อยากทานข้าวคนเดียว”
“คุณอนันต์อยู่คนเดียวเหรอคะ”
“ครับ ผมอยู่คนเดียว”
“แต่มันจะดีเหรอคะ ถ้าคุณซีซีเธอรู้คงไม่ดีแน่ที่คุณทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่น”
“ซีซีเธอเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายครับ หรือที่คุณปฏิเสธเพราะไม่อยากทานข้าวกับคนแก่”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ คุณแก่ที่ไหนกันล่ะ แบบนี้เขาเรียกวัยผู้ใหญ่ค่ะ” เธอพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง
“ตกลงคุณแพรอยู่ทานข้าวกับผมนะครับ”
“ได้ค่ะ”
เหมือนแพรพยายามชวนคุณอนันต์คุยตลอดการทานอาหารค่ำบรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูเป็นกันเองและผ่อนคลาย คุณอนันต์รู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้มากและเมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังหางานทำเขาก็รีบเสนอ
“สนใจมาทำงานกับผมไหมล่ะ อย่าตอบว่าเกรงใจอีกนะ”
“แต่แพรเกรงใจจริงๆ นี่คะ”
“ตอนนี้เลขาของผมกำลังอยากได้ผู้ช่วยพอดีเลยครับ ถ้าได้คุณแพรมาช่วยก็คงดี”
“คนอื่นคงจะมองว่าแพรเป็นเด็กเส้นนะคะ ให้แพรไปสมัครที่ฝ่ายบุคคลก่อนไหม”
“ไม่มีใครกล้าว่าหรอกครับ ตกลงไหม”
“แพรขอคิดดูก่อนนะคะ”
“ถ้าตัดสินใจได้แล้วไปหาผมที่บริษัทนะครับ ผมจะแจ้งเลขาไว้ว่าให้คุณเข้าพบผมได้ตลอด”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ผมหวังว่าเราจะได้ทำงานร่วมกัน” คุณอนันต์ยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะถ้ามีผู้หญิงสวยๆ อยู่ที่บริษัทด้วยเขาก็คงอยากจะไปทำงานทุกวัน