10 ขออยู่แบบนี้
เช้าวันเสาร์คุณอนันต์รีบตื่นแต่เช้าเพื่อจะไปยังสนามบินแต่ออกจากบ้านมาได้เพียงนิดเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เบอร์ที่โทรเข้ามาคือเบอร์ของเหมือนแพรเขาจึงกดรับทันที
“มีอะไรหรือเปล่าแพรผมกำลังจะไปสนามบินแล้ว”
“คุณอนันต์คะ ช่วยมาหาแพรที่คอนโดหน่อยได้ไหมคะ”
“เป็นอะไรเหรอแพรทำไมเสียงเป็นแบบนั้น”
“แพรปวดท้องมากๆ ค่ะ คุณช่วยพาแพรไปโรงพยาบาลหน่อยได้ไหมแพรไม่อยากเรียกรถพยาบาลให้มารับกลัวคนอื่นจะตกใจ”
“แต่ผมต้องไปสนามบินนะ”
“คุณเลื่อนไฟล์ทไปอีกนิดได้ไหมคะแพรไม่ไหวจริงๆ ค่ะ แล้วแพรก็ไม่รู้จะโทรหาใคร” หญิงสาวทำเสียงแผ่วเบาพยายามให้เขาเห็นใจและมาหาเธอก่อนจะไปภูเก็ต
“เอาอย่างงั้นก็ได้ เดี๋ยวผมจะไปหาคุณที่คอนโดก็แล้วกันนะ”
เมื่อวางสายเขาก็สั่งให้คนขับรถพาไปยังคอนโดมิเนียมของเหมือนแพรที่เคยไปส่งเธออยู่หลายครั้ง
“รอฉันอยู่ที่นี่นะวินัย ฉันขอขึ้นไปดูแพรก่อน เดี๋ยวอาจจะต้องพาเธอไปโรงพยาบาล” เขาสั่งคนขับรถจากนั้นก็รีบขึ้นไปด้านบนกดออดและรออยู่หน้าไม่นานประตูก็เปิดออก
“คุณอนันต์ แพรดีใจจังที่คุณมา”
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าแพร หน้าเธอซีดมากๆ เลยนะ” เขาถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นเธอหน้าซีดใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ
“ให้ปวดท้องมากๆ เลยค่ะ”
“ถ้างั้นไปหาหมอกันนะ”
คุณอนันต์ประคองเหมือนแพรลงมาที่รถจากนั้นก็สั่งวินัยให้ไปยังโรงพยาบาลใกล้ที่สุด เขายืนรออยู่หน้าห้องตรวจไม่นานเหมือนแพรก็ออกมาด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่
“เป็นยังไงบ้างต้องนอนที่นี่ไหม”
“หมอบอกว่าแพรเป็นโรคกระเพาะค่ะ ตอนนี้หมอฉีดยาแก้ปวดให้แล้วและก็ให้กลับบ้านได้ค่ะ แพรขอบคุณคุณอนันต์มากนะคะที่พาแพรมาโรงพยาบาลและแพรก็ต้องขอโทษคุณด้วยที่ทำให้ต้องเสียเวลา”
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมไปส่งแพรก่อนแล้วค่อยไปภูเก็ตก็ได้”
เมื่อมาถึงคอนโดอนันต์ก็พาหญิงสาวขึ้นบนห้อง
“อยู่คนเดียวได้ใช่ไหมแพร”
“คุณอนันต์มีไฟล์ทบินเป็นกี่โมงคะ”
“ไฟล์ทเดิมคงไม่ทันแล้ว”
“แพรขอโทษนะคะ เดี๋ยวแพรจองให้ใหม่ คุณจะไปกี่โมงคะ” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเลื่อนดูเที่ยวบินที่จะไปยังภูเก็ตซึ่งในวันเสาร์แบบนี้เต็มเกือบจะทุกไฟล์ท
“มีเร็วสุดกี่โมง”
“มีตอนเย็นค่ะ คุณโทรไปบอกคุณซีซีก่อนไหมคะว่าจะไปช้า ระหว่างนี้แพรจะจองตั๋วให้นะคะ”
คุณอนันต์หยิบโทรศัพท์และกดโทรหาว่าที่ภรรยาแต่ก็ติดต่อเธอไม่ได้ เขาจึงส่งข้อความไปแทนเปิดและคิดว่าอีกสักพักค่อยโทรหาเธอใหม่
“ยังเหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงอยู่เป็นเพื่อนแพรก่อนได้ไหมแพรไม่อยากอยู่คนเดียวเลยค่ะ” หญิงสาวเข้ามานั่งใกล้ๆ กอดแขนของเขาแล้ว พิงศีรษะบนแผงอก แขนเรียวกอดเอวของเขาไว้ คุณอนันต์รู้สึกแปลกกับท่าทางของเหมือนแพรแต่ก็ไม่ได้ดึงมือเธอออก
“เธอไม่มีเพื่อนที่ไหนเลยเหรอแพร”
“แพรไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไหนหรอกค่ะ แพรมาจากบ้านนอกเข้ามาทำงานในเมืองก็อยู่ตัวคนเดียว”
“ไม่มีคนรักเหรอ”
“เคยมีค่ะแต่ตอนนี้เขาทิ้งแพรไปแล้วค่ะ”
“ผมอยากเห็นหน้าผู้ชายที่มันทิ้งคุณจังเลยนะ เขาคงเป็นผู้ชายที่โง่มากที่ทิ้งผู้หญิงสวยๆ อย่างแพร”
“แพรว่าเขาคงไม่โง่หรอกค่ะ เขาฉลาดมากกว่าเพราะคนอย่างแพรไม่มีอะไรดีเลยจะมีแค่จะมีก็แต่ความสวย เงินทองสมบัติหรือชาติตระกูลแพรก็ไม่มีมันเทียบกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้เลย แล้วคุณอนันต์คิดเหรอคะว่าจะมีผู้ชายที่ไหนเขารักแพรจริง แพรเคยคิดนะคะว่าอยากแต่งงานมีครอบครัวที่อบอุ่นแต่ตอนนี้แพรไม่ต้องการแบบนั้นอีกแล้ว”
“แล้วชีวิตแบบไหนที่แพรต้องการ”
“ก็ชีวิตในตอนนี้ไงคะ แพรมีงานทำที่ดี มีเจ้านายที่ดีแค่นี้แพรก็มีความสุขแล้วค่ะ แพรรู้สึกอิจฉาคุณซีซีมากเลยนะคะ เธอทั้งสวยอ่อนหวานแล้วยังโชคดีจะได้แต่งงานกับคุณอนันต์อีก ทำไมแพรไม่เจอคุณก่อนคุณซีซีนะ”
“หมายความว่ายังไงแพร”
“ก็หมายความว่าถ้าหากแพรได้เจอคุณก่อน บางทีคุณอาจจะเห็นแพรอยู่ในสายตาบ้าง ไม่ใช่เห็นแพรเป็นแค่ผู้ช่วยเลขาอยู่แบบนี้”
“แพร....” คุณอนันต์ดึงตัวหญิงสาวออกแล้วมองหน้าเขาเข้าใจความหมายของเธอดีว่าเธอต้องการอะไรจากเขา
“แพรขอโทษนะคะที่พูดอะไรที่ไม่เหมาะสมออกไป แต่ตั้งแต่แพรเจอคุณอนันต์ แพรก็รู้สึกดีกับคุณมากๆ คุณเป็นผู้ใหญ่ใจดีอบอุ่น มันทำให้แพรรู้สึกอยากจะตื่นแต่เช้าไปทำงานทุกวัน ได้ทำงานใกล้ชิดกับคุณได้ทานข้าวกับคุณมันเป็นชีวิตที่มีความสุขมาก”
“แต่คุณก็รู้นี่แพรว่าผมกำลังจะแต่งงาน”
“ใช่ค่ะแพรรู้ว่าคุณอนันต์กำลังจะแต่งงาน แพรไม่กล้าเข้าไปแทรกกลางหรอกค่ะ ขอแค่คุณอนันต์เมตตาแพรบ้าง”
“หมายความว่ายังไง” คุณอนันต์จ้องหน้าเหมือนแพรและอยากจะรู้ว่าที่เขาคิดมันถูกต้องไหม
“แพรรักคุณค่ะ แพรยินดีจะอยู่กับคุณแบบนี้แพรจะไม่เรียกร้องอะไรแค่คุณเมตตาแพร แบ่งเวลาให้แพรบ้าง”
“เธอกำลังจะเสนอตัวเป็นเมียน้อยใช่มั้ยเหมือนแพร” คุณอนันต์จ้องหน้าเธออย่างต้องการคำตอบเขา เคยเจอผู้หญิงที่เข้าหาแบบนี้แต่ส่วนใหญ่ทุกคนจะเรียกร้องขอเป็นหนึ่งขอเป็นที่หนึ่ง ขอการแต่งงานของการจดทะเบียนสมรสแต่เหมือนต่างจากคนอื่น
“แพรรู้ค่ะว่าสิ่งที่พูดออกไปมันไม่เหมาะสม แต่แพรจะไม่เรียกร้องอะไรจากคุณเลย แพรจะเก็บเรื่องของเราเป็นความลับจะไม่ทำให้คุณกับคุณซีซีมีปัญหา คุณไม่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูแพรเลย ขอแค่ยังให้แพรด้วยทำงานในบริษัทของคุณและแพรจะไม่ให้คนที่บริษัทรู้เด็ดขาด แพรจะทำตัวเป็นผู้ช่วยเลขาที่ดีแค่ขอแค่นี้ได้ไหม แพรจะไม่เรียกร้องอะไรจากคุณเลยและสัญญาว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับระหว่างเราสองคนค่ะ” หญิงสาวอ้อนเสียงหวาน เธอกำลังอธิบายและขอความเห็นใจจากเขาแล้วเธอก็ขึ้นมานั่งบนตักของคุณอนันต์มือเรียวเล็กของเธอค่อยๆ ปลดกระดุมของเขาออกทีละเม็ด
“แพร...”
“คุณยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนจะขึ้นเครื่อง อยู่กับแพรได้ไหม มอบความสุขให้แพรนะคะ”
แล้วในที่สุดคุณอนันต์ก็พ่ายแพ้ต่อตัณหาราคะที่เหมือนแพรเป็นคนปลุกขึ้นทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
คุณอนันต์แทบสำลักกับความสุขที่ได้รับจากเหมือนแพรเพราะตั้งแต่ตกลงแต่งงานกับศศิภัทรเขาก็ไม่เคยนอนกับใครเลย
“แพรมีความสุขมากที่สุดเลยค่ะ” เธอกอดร่างเปลือยของคุณอนันต์ไว้แน่น
“พูดจริงหรือแกล้งพูดเอาใจคนแก่อย่างผมกันล่ะเหมือนแพร”
“แพรพูดจริงๆ นะคะคุณอนันต์ไม่แก่เลยสักนิด ถึงจะอายุเยอะแล้วคุณก็ยังดูดีแถมแรงอย่างดีอีกด้วย”
“คุณนี่ช่างพูดนะแพร ทำเอาคนแก่อย่างผมหัวใจพองโต”
“เลิกพูดคำว่าแก่ได้แล้วค่ะ สำหรับแพรคุณไม่แก่เลยสักนิด คุณทำให้แพรมีความสุขมากที่สุด”
“เธอมีความสุขจริงๆ เหรอ”
“จริงสิคะ” หญิงสาวพิงศีรษะกับแผงอกของเขาพลางคิดในใจว่าสักวันเธอจะต้องขึ้นเป็นที่หนึ่งของคุณอนันต์ให้ได้
“ผมก็มีความสุขเหมือนกันนะ คุณทำให้ผมรู้สึกดีๆ มาก แต่วันนี้ผมต้องไปภูเก็ตจริงๆ แล้วจะโทรหานะ”
“ถ้าคุณอยู่กับคุณซีซี ไม่ต้องโทรหาแพรก็ได้นะคะ แพรไม่อยากให้คุณมีปัญหา”
“ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะเหมือนแพร”
“แพรบอกแล้วนี่คะ ว่าแพรไม่อยากให้คุณมีปัญหาไม่อยากมีตัวตนในสังคม ขอแค่ได้มีความสุขกับคุณก็พอ” หญิงสาวพูดจาเอาใจจนทำให้คุณอนันต์รู้สึกหวั่นไหว
แต่เขาก็ต้องลุกจากที่นอนและแต่งตัวเพื่อเดินทางไปสนามบินเพราะไม่อยากผิดสัญญากับว่าที่ภรรยาที่ไปรอเขาอยู่ที่ภูเก็ตตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
เมื่อลงมาถึงมาลงมาด้านล่างก็ขึ้นไปนั่งบนรถวินัยมองเจ้านายแต่ไม่ได้พูดอะไร
“เรื่องที่ฉันอยู่ที่นี่นานห้ามบอกใครและเก็บเป็นความลับเข้าใจใช่ไหมวินัย”
“ผมเข้าใจดีครับคุณอนันต์เรื่องของเจ้านายผมไม่มีทางเอาไปพูดที่ไหนเด็ดขาด”
จากนั้นรถคันหรูก็ขังตรงไปยังสนามบิน ระหว่างทางก็พยายามโทรหาศศิภัทรแต่เธอก็ยังไม่รับสายจึงส่งข้อความไปอีกครั้งว่าตนเองกำลังจะขึ้นเครื่อง