Ep.2
หญิงสาวจัดการประทินโฉมตนเองให้สวยสะคราญและเซ็กซี่สุดๆ ในลุคชะนีน้อยบ้านนา ด้วยชุดเสื้อสายเดี่ยวเอวลอยลายเสือ กับกางเกงยีนสีเข้มขาสั้นจนแทบจะปิดก้นไม่มิด
จากนั้นก็รวบผมเป็นมวยขึ้นมาเกล้าไว้กลางกระหม่อม ปล่อยลูกผมลงมาคลอเคลียลำคอระหงกับเนินไหล่บางขาวผ่องให้ชวนมองไปอีกแบบ
แต่ที่น่ามองที่สุดก็เห็นจะเป็นร่องอกอวบอิ่มที่นูนโผล่ออกมาเกือบจะครึ่งเต้า เพราะเธอสวมเสื้อชั้นในดันทรงอย่างดี แม้ว่าขนาดหน้าอกหน้าใจของเธอจะไม่บิ๊กเบิ้มเท่าไร แต่มันก็ทำให้หนุ่มๆที่ได้เห็นต้องว้าวได้แน่นอน
นี่เธอไม่ได้ตั้งใจแต่งตัวไปโชว์ใครนอกบ้านหรอกนะ แค่จะสวมชุดอยู่กับบ้าน แล้วเดินไปรอบๆรั้วก็เท่านั้นเอง เป็นเพียงแค่ชุดที่ใส่ออกตัวบ้าน ไม่ใช่ใส่ออกนอกรั้วบ้าน ฉะนั้น แต่งตัวแค่นี้อยู่ในบริเวณบ้านของตนเองถือว่าไม่โป๊ และไม่เป็นอันตรายกับใครแน่นอน
สาเหตุที่สิรินภาโดนบิดากับมารดาของเธอจับให้หมั้น เพราะรู้ถึงนิสยใจคอของลูกสาวตนเองนั่นแหละ และที่สำคัญ หญิงสาวทำงานกลางคืน ตรงนี้แหละที่คนในครอบครัวเป็นห่วงเธอมาก อยากให้เธอมีใครสักคนมาดูแล หรือไม่ก็เลี้ยงดูเธอโดยไม่ต้องออกไปทำงานกลางคืนอีก
ติณภพ คือลูกชายของเพื่อนรักทางฝ่ายมารดา ที่ตอนนี้กำลังศึกษาต่อปริญญโทที่กรุงเทพฯ อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้ว เขาเป็นหนุ่มหน้าตาดี แถมมีงานดีที่มั่นคงตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ นั่นคือการมาทำงานเป็นผู้จัดการโรงงานสืบทอดกิจการของมารดาเขา ในโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่กำลังไปได้สวยในช่วงสองสามปีมานี้
สิรินภาเคยเห็นหน้าคู่หมั้นของเธอแค่เพียงในรูปถ่ายผ่านจอมือถือเท่านั้น แต่ตัวจริงยังไม่เห็น
ถามว่าทำไมเธอถึงยอมรับหมั้นติณภพง่ายๆ นั่นก็เพื่อความสบายใจของพ่อกับแม่ ที่สำคัญเธอเคยอกหักมาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะผู้ชายบอกเลิก โดยเขาเอาพ่อแม่มาอางว่า พ่อกับแม่บอกว่าเธอเป็นตัวกาลกิณี หากคบกันไปแต่งงานกันไป จะมีแต่เรื่องเดือนร้อน เพราะดวงไม่สมพงษ์กัน เหตุผลบ้าๆนั่นทำให้เธอเสียใจมาก เพราะเธอชอบเขามากนั่นเอง แล้วตั้งความหวังไว้ซะสูงว่าจะได้แต่งงานกับเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรที่รวยที่สุดในจังหวัด แต่ฝันของเธอก็พังทลายไม่เป็นท่า เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง
‘ก็เธอมันไม่รวย แถมยังทำงานกลางคืนด้วยนี่ ใครอยากจะมาจริงจังด้วยล่ะ’
ดังนั้น เพื่อกู้หน้าตนเองกลับมา สิรินภาจึงยอมรับหมั้นกับผู้ชายที่มารดาหาให้ ติณภพคือผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่มีฐานะ ไม่ได้ด้อยไปกว่าแฟนเก่าของเธอ แถมหน้าตาก็ยังดีกว่า และเหมือนจะรวยกว่าเสียด้วย
แต่ก่อนจะแต่งงาน เธอก็อยากจะใช้ชีวิตอิสระให้เต็มที่ ยังคงทำงานกลางคืนได้เหมือนเดิม และบ้าๆบอๆไปวันๆ
ยัยเพื่อนบ้ามันไม่ได้บอกว่าเธอบ้า แต่มันว่าเธอน่ะ ‘แรด’ ชอบอ่อยผู้ชาย ความจริงเธอไม่ได้อ่อยนะ แค่เช็กเรตติ้งเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับใครจริงๆ
หญิงสาวสวมรองเท้าแตะเดินลงมาจากบันไดบ้าน เดินตรงไปยังสวนหย่อมเล็กๆทางรั้วฝั่งซ้ายมือ รั้วที่ไม่สูงมากนัก แค่เขย่งปลายเท้าก็มองเห็นสิ่งมีชีวิตในบ้านข้างหลังรั้วนั้นแล้ว แถมรั้วยังมีช่องโหว่ให้มองผ่านเข้าไปได้อีก
“มีใครอยู่บ้านหรือเปล่าเนี่ย บ้านดูเงียบเชียบจัง หรือว่าป้าเรย์กำลังกกผัวแกอยู่ในห้องนอน ยังไม่ตื่น แต่นี่มันจะเก้าโมงแล้วนะ” หญิงสาวเดินเลาะไปตามรั้ว พอเห็นช่องเล็กๆที่มองผ่านเข้าไปได้ ก็ก้มส่องดูเหมือนพวกหัวขโมยที่แอบมาเดินย่องจะขโมยข้าวของในบ้านคนอื่นเขา
‘แล้วแมวขโมยสาวสวยและรวยมากอย่างฉันจะขโมยอะไรดีล่ะ ปลาย่างดีไหม’
สิรินภานึกสนุกขึ้นมาดื้อๆ ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหา ‘ปลาย่าง’ อย่างที่เธอกำลังคิด
“อะแฮ่ม!”
‘ใครมากระแอมแถวนี้วะเนี่ย’
หญิงสาวหันขวับมองหา แล้วค่อยๆยืนขึ้นเต็มความสูง หันไปมองทางขวามือช้าๆ เพราะรู้สึกเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังยืนอยู่ทางนั้น และกำลังมองเธออยู่
สายลมเย็นพัดแผ่วมาเบาๆ ทำให้ผมเส้นเล็กๆสองสามเส้นปลิวมาพาดที่ขนตางอน แต่มันไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการจ้องมองหน้าใครคนหนึ่งเลยแม้แต่น้อย
