บท
ตั้งค่า

ไม่พอขาย

3 วันผ่านไป กับการเตรียมพร้อมขายของครั้งแรกของครอบครัวหลิน ทุกคนต่างตื่นเต้นกันอย่างมาก ท่านพ่อได้เข้าเมืองติดต่อเช่าร้านค้าเล็ก ๆ ราคา 10 อีแปะต่อวัน ตกลงขาย ยามอู๋ถึงยามโหย่ว (12.00-17.00 น.) 

การเตรียมตัวมีอะไรบ้าง คือมะละกอดิบ 3 ตะกร้าใหญ่ และเครื่องปรุงรส อาทิเช่น พริก กระเทียม มะนาว เกลือ น้ำตาล กุ้งแห้ง หอยเชอรี่ ผักบุ้งป่าไว้กินกับส้มตำ และข้าวคั่ว

ครอบครัวหลินหุงข้าวเหนียวให้ลูกค้าทดลองชิมกับส้มตำไปด้วยขายราคา 5 อีแปะ กุ้งฝอยสด ๆ ไปด้วย 3 ตะกร้าใหญ่ ปลา 50 ตัวนำไปทดลองขายก่อน ถ้าขายดีวันหน้าก็จะไปจับมาเพิ่ม

แบ่งหน้าในการทำแต่ละอย่างมีดังนี้ ท่านแม่ตำส้มตำ ท่านพ่อย่างปลาเผา และพี่ชายทำยำกุ้งเต้น ส่วนเธอเป็นหน่วยสนับสนุน นั่นคือเรียกลูกค้าและเก็บเงินนั่นเอง

ครอบครัวหลินไปติดต่อขอให้ ท่านลุงหานไปส่งในตัวเมืองโดยเฉพาะ คิดราคาแค่ 5 อีแปะ ใกล้ถึงยามซื่อ (09.00-10.00 น.) ก็ออกเดินทาง ไปถึงก็ยามอู๋พอดี

ยามซื่อ ลุงหานขับรถวัวเทียมเกวียนมารับที่บ้านครอบครัวหลิน ทุกคนช่วยกันยกของขึ้นเกวียน เมื่อขนจนหมดแล้วก็ออกเดินทางได้

เสียง กุบกับ กุบกับ ของรถวัวเทียมเกวียนตลอดระยะเวลา 1 ชั่วยาม ฮุ่ยเหมยนั่งข้างหน้ากับลี่จูที่มักจะเป็น ตุ๊กตาหน้ารถเช่นเดิม

จากนั้นพวกเขาก็มาถึงในเมืองผิงเหยา เกวียนแล่นไปจอดที่ร้านค้า ที่ตกลงเช่าไว้ และช่วยกันขนของลงจากเกวียน เมื่อขนจนเสร็จแล้ว ท่านลุงหานจึงตกลงมารับในยามโหย่ว ที่ตกลงว่าจะขายกันไว้

และครอบครัวหลินคงไม่คาดคิดว่า อาหารที่พวกเขานำมาขายนั้นหมดตั้งแต่ 1 ชั่วยาม ทำให้ครอบครัวหลินต้องเดินเล่นจนทั่วตลาดเลยทีเดียว

เมื่อเตรียมของสำหรับขายเสร็จแล้วก็ ลองทำอาหารอย่างละ 1 อย่างไว้ให้ลูกค้าได้ชิม พอชิมว่ารสชาติใช้ได้ก็ใส่ใบตองที่พับไว้ให้ลูกค้าได้ชิมทันที

"ส้มตำๆ ๆ จ้าๆ ลองมาชิมก่อนดูได้จ้า"

เสียงเรียกของแม่ค้าตัวน้อย และกินให้ดูเป็นตัวอย่าง เมื่อมีผู้คนผ่านมาก็สนใจขอลองชิม ก็พบว่ารสชาติอร่อย แปลกใหม่เป็นอย่างมาก

"ขายเท่าไหร่หรือแม่นาง" เฟยลี่หญิงสาววัยกลางคนในชุดสาวใช้ของจวนสกุลอวี้เอ่ยขึ้น นางเป็นสาวใช้ของภรรยาเอกท่านเจ้าเมืองผิงเหยา ที่ออกมาซื้อของไปให้ฮูหยิน

"ชุดละ 25 อีแปะเจ้าค่ะ" ฮุ่ยเหมยเอ่ยตอบ

"ข้าเอา 2 ชุดนะ" นางเอ่ยขึ้นบอกแม่ค้าตัวน้อยและสำรวจร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ก็พบว่ามี ปลาเผาและยำกุ้งเต้นที่พี่ชายทำเสร็จแล้ว และนำมาวางไว้ให้ลูกค้าได้ชิม

"แม่นางลองชิมดูปลาเผา อร่อยมากไม่คาวเลย ชุดละ 20 อีแปะขอรับ" ท่านพ่อเอ่ยแนะนำสินค้าที่ตนเป็นคนทำทันที เมื่อให้ชิมฟรีนางจึงลองหยิบขึ้นมาชิมทันใด

"อืม อร่อยมากข้าเอาอีก 1 ชุด"

"รอสักครู่นะขอรับ" ท่านพ่อเอ่ยขึ้นและนำปลาไปเผาให้กับลูกค้าคนแรก

หนิงหลงก็ไม่ยอมแพ้รีบเสนอสินค้าที่ตนเป็นคนทำทันใด

"ยำกุ้งเต้น ชุดละ 15 อีแปะขอรับ"

เมื่อชิมเสร็จนางก็สั่งซื้อไปอีก 1 ชุด เมื่อนางจ่ายเงินเสร็จก็รีบเดินกลับจวน และลองชิมไปเรื่อย ๆ จนหมด

เมื่อมีคนมาลองชิมและก็มีคนต่อ ๆ ไปเข้ามา เมื่อทุกคนได้มาลองชิมอาหารร้านนี้ก็พบว่า รสชาติอร่อยและแปลกใหม่เป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจซื้อสินค้าทั้งหมดที่มีขายในร้าน ทุกคนล้วนทำหน้าที่ขะมักเขม้น เสียงท่านแม่ตำส้มตำไม่หยุด

โป๊ก โป๊ก โป๊ก เสียงครกตลอด 1 ชั่วยาม มีไม่ขาดสายลูกค้าแน่นขนัด วันนี้ครอบครัวหลินขายจนหมดเกลี้ยงภายใน 1 ชั่วยาม ทีแรกคิดว่าจะขายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

เมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อย ทุกคนล้วนเหนื่อยล้ากันมาก โดยเฉพาะเด็กน้อยวัย 3 หนาวที่เรียกลูกค้าเสียงแหบเสียงแห้งเลยทีเดียว

"คงต้องจ้างเกวียนกลับกันก่อนแล้วแหละ" ท่านพ่อเอ่ยขึ้น เมื่อยังไม่ถึงเวลาที่ตกลงว่าจะกลับทุกคนจึงเดินเล่นที่ตลาดและซื้อของกินก่อนกลับ

เมื่อเดินไปสักพักทุกคนก็เหนื่อยล้ากันมากเพราะยืนขายจนปวดขาไปหมดเวลาพักแทบไม่มี จึงตัดสินใจพากันขนของกลับหมู่บ้านป่าท้อ

เมื่อกลับมาถึงบ้านครอบครัวหลินจึงตัดสินใจที่จะนำสินค้าไปขายให้มากกว่านี้ วันพรุ่งนี้ยามเหม่า (คือ 05.00 - 06.59 น.) ไปจับปลาและกุ้งให้ได้มากที่สุดกว่าวันนี้ที่นำไปขาย

ท่านแม่นับเงินที่ขายของวันนี้ได้ 2000 อีแปะ เมื่อท่านแม่นับเสร็จ ก็ตาโตเท่าไข่ห่านเลยทีเดียว ท่านพ่อและพี่ชายก็ไม่ได้ต่างกัน ทุกคนดีใจกันมากไม่คิดว่าวันหนึ่งจะขายได้เยอะกว่าตนไปล่าสัตว์ป่ามาขาย

ได้แต่ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งลูกสาวตัวน้อยคนนี้มาให้แก่ครอบครัวของตน ทุกคนหันไปมองฮุ่ยเหมยด้วยความซาบซึ้งใจ

"ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งเหมยเอ๋อร์มาให้เรา" ท่านแม่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำตาคลอและลูบหัวลูกสาวตัวน้อยไปด้วย

"ท่านแม่ไม่ต้องขอบคุณข้าเจ้าค่ะ"

"ใช่ๆ ต้องขอบคุณเหมยเอ๋อร์จริง ๆ" ท่านพ่อเอ่ยขึ้นด้วยความภูมิใจในตัวลูกสาว หนิงหลงก็พยักหน้าเห็นด้วยกับท่านพ่อ ท่านแม่ และคิดในใจว่าข้าจะปกป้องน้องสาวของข้าด้วยชีวิต

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel