ตอนที่ 4 ข้อตกลง
@คฤหาสน์อนันต์พัฒน์
“ไข่มุก มานั่งข้างเฮียนี่มา” พอร์ชตบโซฟาเบาๆเรียกให้ไข่มุกมานั่งข้างๆ
“ไม่ดีหรอกค่ะ” ไข่มุกรู้ดีว่าสถานะของเธอคือเด็กรับใช้ในบ้านถึงแม้เจ้าสัวจะเอ็นดูเธอเหมือนลูกก็ตาม
“เป็นน้องสาวเฮียก็ต้องนั่งตรงนี้ มาเร็ว” พอร์ชยังคงเรียกไข่มุกต่อ
“เอ่อ..” เธอไม่รู้จะหาเรื่องไหนมาปฏิเสธดี
“ไข่มุก!” เขาเรียกเสียงเข้ม
“ก็ได้ค่ะ...” ไข่มุกเดินไปนั่งข้างๆทันที
พรึ่บ!
“...แต่มุกไม่อยากให้คนในบ้านหมั่นไส้ไปกว่านี้” เธอบ่นออกมา ทุกคนในบ้านต่างก็ไม่ชอบที่พอร์ชเอ็นดูไข่มุกเป็นพิเศษ จนคนอื่นมองเธอในทางเสียๆหายๆ
“หึ แต่เราก็แสบใช่ย่อย อย่าคิดว่าเฮียไม่รู้นะ” พอร์ชเอื้อมมือมาลูบหัวไข่มุกเบาๆ
“ฮะๆ รู้ทันมุกทุกเรื่องเลยอ่ะ” ไข่มุกยู้จมูกเอ่ยออกมาทำเสียงหมั่นไส้ใส่พอร์ช
“แล้วเฮียพอร์ชมีอะไรเปล่าคะ” เธอเอ่ยถามต่อ
“ปิดเทอมแล้วใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ มุกเบื่อแย่เลยถ้าต้องอยู่บ้านอย่างเดียว” ไข่มุกบ่นออกมา
“ปิดเทอมกี่เดือน”
“สองเดือนค่ะ” ไข่มุกเอ่ยตอบพอร์ช
“อืม...”
“...อยากไปฝึกภาษาไหม”
“...” ไข่มุกทำหน้างงใส่พอร์ช เพราะเธอไม่เข้าใจสิ่งที่เขาบอก
“ปีสี่..ก็จะฝึกงานแล้ว..เฮียว่ามุกน่าจะฝึกภาษาเอาไว้นะ..เราจะได้เปรียบคนอื่นเขาไง” พอร์ชบอกไข่มุก จริงๆเขาก็วางแผนการเรียนไว้ให้ไข่มุกทุกอย่างแล้ว
คณะบริหารที่เรียนอยู่ก็เป็นคณะที่เขาเลือกให้เพราะพอร์ชอยากให้ไข่มุกเข้ามาทำงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของอนันต์พัฒน์ที่เขาดูแลอยู่
“มุกคิดไว้เหมือนกันค่ะ แต่มุกยังไม่รู้เลยว่าจะลงเรียนคอร์สกับสถาบันที่ไหนดี”
“เฮียเตรียมไว้หมดแล้ว”
“ที่ไหนเหรอค่ะ เพื่อมุกจะได้ชวนวีต้าไปเรียนด้วย”
“สิงคโปร์”
“ห๊าาา สิงคโปร์?” ไข่มุกเอามือมาปิดปากตัวเองเมื่อเผลอตกใจจนเสียงดัง
“ทำไม ไม่ดีใจเหรอ...”
“...เฮียเคยได้ยินมุกบ่นบ่อยๆว่าอยากไปต่างประเทศกับเขาบ้าง”
“ดีใจสิค่ะ เฮียพอร์ชจะส่งไปเรียนภาษาที่สิงคโปร์จริงๆเหรอค่ะ” เสียงใสถามย้ำอีกครั้งว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปจริงๆ
“เฮียเคยล้อเล่นที่ไหนกันละ”
“ก็จริง อิอิ” เธอกระโดดทำท่าดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่นไม่มีผิด ถึงไข่มุกจะโตเป็นสาวแต่ความน่าสดใสก็ยังไม่เปลี่ยนไป รอยยิ้มที่แสนหวานปรากฎบนใบหน้าจนทำให้ใครที่เห็นอดยิ้มตามไม่ได้
“หึ...เด็กน้อยเอ๋ยย” พอร์ชแสยะยิ้มออกมากับความน่ารักของไข่มุก
“มุกไม่ใช่เด็กแล้วซักหน่อย” ไข่มุกนั่งลงข้างๆ ทำหน้างอแงยิ่งเหมือนเด็กเข้าไปใหญ่
“เหรอ...”
“...รู้แล้วว่าโต..แต่ยังไงก็ยังเด็กในสายตาเฮียเหมือนเดิม..นี่ก็ให้ดื่มนมทั้งเยอะไม่เห็นโตขึ้นเลย” คนตัวโตก็ยังคงล่อไข่มุกที่เปรียบเสมือนน้องสาวต่อ
“เฮียพอร์ชว่ามุกเตี้ยเหรอ”
“เปล่าซักหน่อย” พอร์ชส่ายหน้าเบาๆปฏิเสธคนตัวเล็กทันที
“แต่ไม่เป็นไร มุกไม่โกรธเพราะมุกจะได้ไปเที่ยวกับเขาสักที” ไข่มุกเอ่ยออกมาด้วยความดีใจจนเผลอหลุดปากสิ่งที่เธออยากทำ
“เดี๋ยววว ส่งไปเรียน” เสียงเข้มดังขึ้นทันที
“คริคริ รู้แล้วหน่าา...”
“...เรียนด้วย..เที่ยวด้วยเนอะ..ประสบการณ์ชีวิตไง” เธอยังคงแถไปต่อตามประสาเด็กคนหนึ่ง
“ให้มันได้อย่างนี้สิเรา”
“โอ๊ยยยย เจ็บๆ เฮีย!” พอร์ชยื่นมือมาบิดจมูกไข่มุกด้วยความเอ็นดู เขารู้ว่าไข่มุกอยากไปเที่ยวเหมือนเด็กคนอื่นๆ ตั้งแต่เด็กจนโตไข่มุกไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนเลย นอกจากบ้านและไปโรงเรียนชีวิตเธอมีแค่นี้จริงๆ ทุกครั้งที่เขาไปดูงานต่างประเทศไข่มุกจะบ่นอยากไปด้วยตลอดหากเจ้าสัววรรณอนุญาตเขาก็คงหิ้วไข่มุกไปด้วยแล้ว
“แล้วเฮียพอร์ชจะให้มุกไปเมื่อไหร่คะ”
“อาทิตย์หน้า เตรียมตัวให้พร้อมละ”
“รับทราบค่ะ” ไข่มุกเอ่ยออกมาพร้อมทำมือแบบทหารแล้วยิ้มหวานๆให้ผู้ชายตรงหน้าเธอ ความน่ารักสดใสของเธอหากใครได้เห็นก็คงอุบยิ้มไม่ได้แน่
แต่..
ใครจะรู้ว่าความสุขของเธออยู่ในสายตาของใครอีกคนหนึ่งและรับรู้ทุกอย่างที่เธอและพอร์ชสนทนากันทุกประโยค
.
.
.
-เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น-
“อะไรว่ะ พวกมึงโกงกู” ปอร์เช่โวยวายขึ้นเมื่อเกมที่เล่นกลับแพ้ย่อยยับทั้งที่เจ้าของคาสิโนยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ
“ไม่โวยวายสิครับ” หลุยส์เอ่ยบอกเสียงเรียบ
“เอาสัญญาคืนมา..กูไม่มีวันคืนเงินให้หรอกโว้ย”
“เหรอครับ...”
“...เอ้ย ไปเอากุญแจรถคุณปอร์เช่มา” หลุยส์หันไปสั่งลูกน้อง
“เอ้ยๆ อย่าเข้ามานะโว้ย” ปอร์เช่เดินหนีลูกน้องในคาสิโนออกห่าง
“ลากมาด้านนอก เดี๋ยวลูกค้าตกใจหมด”
“ปล่อยกู! จะพากูไปไหน ไม่ไปโว้ย”
.
.
ปัง!
เสียงประตูปิดลงหลังจากลากปอร์เช่เข้ามาในห้องรับแขกเรียบร้อย
“ปล่อยสิวะ”
“หึ” หลุยส์แสยะยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนตรงหน้าหัวร้อน
“พวกมึงโกงกู” ปอร์เช่ยังคงไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองเล่นไป
“พูดดีๆนะครับ คุณก็รู้ความจริงมันคืออะไร” เพราะที่จริงทุกคนต่างก็เตรียมแผนเพื่อให้เขาแพ้ ทว่าด้วยความใจร้อนของปอร์เช่เองที่ทำให้คนในบ่อนไม่ต้องเล่นตามแผน
“หึ กูบอกเลยว่ากูไม่จ่าย!!”
“งั้นก็ต้องเคลียร์กับนายผมเองแล้วแหละครับ”
“นายมึง ใครวะ” สีหน้าสงสัยปรากฎขึ้นทันที
“ไปตามคุณเอเดนมาหน่อย” หลุยส์หันไปสั่งลูกน้องต่อ
.
.
-สักพัก-
แอดดดด เสียงประตูถูกเปิดออกพร้อมร่างหนาแทรกตัวเข้ามา
“หึ นี่เหรอนายมึง...”
“...หน้าตาขี้โกงทั้งบ่อน กระจอก!”
“คุณปอร์เช่ ถ้ายังรักชีวิตกรุณาพูดให้มันดีๆหน่อย”
“ทำไมกูจะพูดก็พวกมึงมันขี้โกงจริงนี่หว่า”
“...” หลุยส์ไม่เอ่ยอะไรต่อแต่กลับเดินเข้าไปกระชากร่างปอร์เช่ทันที
“ใจเย็นๆสิ ไอ้หลุยส์...”
“...ลูกค้าวีไอพีเลยนะโว้ย” ในที่สุดเอเดนก็เอ่ยออกมาหลังจากดูท่าทีของเป้าหมายอยู่นาน
“พวกมึงจะเอายังไงก็พูดมา อย่ามาทำลีลาใส่กู”
“หึ ไม่เอาสิครับ...”
“...หนี้คุณเรามาตกลงกันดีกว่า”
“ตกลง? อะไรของมึง”
“ก็คุณเป็นหนี้ผม ผมเลยมีข้อเสนอเล็กๆน้อยๆมาให้คุณ...สนใจไหมละครับ”
“...ว่ามา”
“เล่นเกมกับผมสักตาสองตา ถ้าคุณชนะก็ว่ามาเลย” เอเดนแสยะยิ้มเป็นมิตร
“คุณเอเดน!” หลุยส์เอ่ยทักทันทีเพราะกลัวเอเดนเสียเปรียบ ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเจ้านายเก่งพนันก็ตามแต่การให้อีกฝ่ายเป็นคนเสนอข้อตกลงยังไงก็เสียเปรียบอยู่ดี
“จู่ๆ เงียบเหอะหน่า...”
“...ว่าไงละครับ สนใจไหม” เสียงเอเดนยังคงเอ่ยต่อ
“ก็ไม่เลว ฉันขอเป็นคนเลือกเกมเอง และที่สำคัญไม่ใช่วันนี้” ปอร์เช่ยิ้มออกมากับข้อเสนอของเอเดน เขานึกใจเอเดนเป็นถึงเจ้าของบ่อนทำไมโง่อย่างนี้ว่ะ
“ยังไงก็ได้ นัดมาได้เสมอ ผมพร้อมจะเล่นเกมสนุกๆอยู่แล้ว”
“ดี..ใจถึงสมเป็นเจ้าของบ่อน”
“งั้นตกลงตามนี้ครับ” เอเดนยื่นมือหมายรวมมิตรแต่อีกฝ่ายกลับลุกขึ้นและตบลงบนบ่าเอเดนเบาๆก่อนจะเดินออกไปหน้าตาเฉยๆ
ปัง!!
สิ้นเสียงประตู หลุยส์จึงเอ่ยขึ้นมาทันที
“จะดีเหรอครับนาย ให้มันเป็นคนเลือกเกม เลือกข้อตกลงแบบนี้ จะเสียเปรียบเอานะครับ”
“เหอะหน่า กูชอบอะไรที่มันตื่นเต้นอยู่แล้ว ไม่มีล่วงหน้าแบบนี้สิดี”
“แล้วรถมัน จะปล่อยไปแบบนี้เหรอครับ” หลุยส์เอ่ยถามต่อ
“ยังไงก็มีสัญญาอยู่ดี” เขารู้ดีว่าตัวเองยังไงก็ชนะ ส่วนรถคันนั้นยังไงก็ต้องได้เขา ถึงวันนี้ปอร์เช่จะขับออกไปแต่เมื่อจบเกมทุกอย่างที่เอเดนวางแผนก็ต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน
“งั้นผมจะให้ลูกน้องค่อยตามมันนะครับ” หลุยส์ที่เป็นห่วงเอเดนจึงเอ่ยต่อ เพราะเขารู้ว่าตระกูลปอร์เช่ไม่ธรรมดา การที่รู้ความเคลื่อนไหวของเหยื่ออาจมีผลดีต่อเกม
“ไม่ต้อง!!” เสียงแข็งเอ่ยขึ้นเพื่อห้ามไม่ให้ลูกน้องทำเกินคำสั่ง
“ทำไมละครับ”
“กูบอกแล้ว ไม่ชอบอะไรที่รู้ล่วงหน้า”
หลุยส์ส่ายหน้าทันทีกับความดื้อรันของเจ้านาย แต่ก็ยอมเดินออกจากออกไปโดยดี ไม่ขัดใจเจ้านายให้เสียบรรยากาศความสุขกับเกมที่เอเดนฝันไว้
ส่วนเอเดนเมื่อนึกถึงความสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้นก็แสยะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี เขารอเวลาที่จะได้ปะทะกับตระกูลนี้มานานแล้ว อยากรู้มานานว่าลูกชายจะแน่เหมือนผู้เป็นพ่อหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ต่างกันฟ้ากับ...เหว
