บทนำ 1

บทนำ

หน้าต่างบานยาวของห้องรับรองถูกเปิดออกเพื่อรับลมธรรมชาติในฤดูหนาวที่ปีนี้ยาวนานเกือบหนึ่งเดือน สร้างความตื่นเต้นให้คนในเมืองหลวงที่เลือกเสื้อแขนยาวมาสวมตามแฟชั่น ประเทศเขตร้อนที่มีดวงอาทิตย์มาทายทักอยู่ตลอดเวลา ช่วงนี้จึงถือเป็นกำไรเมื่อไม่ต้องไปถึงประเทศเมืองหนาว ก็ได้สัมผัสอากาศเย็น

ลมเย็นพัดผ่านหอบเอากลิ่นหอมของดอกกุหลาบที่ปลูกไว้ในสวนเข้ามาด้วยไม่ต้องใช้สเปรย์ปรับกลิ่น เปิดเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ผสมผสานความเรโทรเข้ากับความคลาสสิคอย่างลงตัว พึมพำอย่างมีความสุขแล้วร้องคลอตามไปด้วย

บ้านหลังงามสร้างสไตล์อังกฤษเพราะบรรพบุรุษอพยพมาจากเมืองผู้ดี มาตั้งรกรากอยู่เมืองสยามจนตอนนี้แทบไม่มีเลือดยุโรปผสมแล้ว กลายเป็นคนไทยแท้ที่ประกอบอาชีพนักธุรกิจ โดยไม่ต้องเริ่มต้นด้วยตัวเองเพราะมีพื้นฐานดีมาจากคนรุ่นพ่อแม่

บ้านแสงเรืองวัฒนาประกอบไปด้วยประมุขของบ้านคุณทินภัทร แสงเรืองวัฒนา หัวเรือใหญ่ผู้กุมบังเหียนกิจการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทรคมนาคมหรือคมนาคม เขาคือหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลเพราะเป็นเจ้าของบริษัทให้บริการสายการบินยักษ์ใหญ่ บริษัทรถทัวร์ที่ได้รับความนิยม บุกเบิกบริการด้านการขนส่งฝ่ายเอกชน

ยังไม่รวมการถือครองหุ้นสูงสุดในเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายและอินเตอร์เน็ต คนทั่วไปมีใครบ้างจะไม่รู้จักตระกูลนี้

อีกทั้งภรรยาของท่านอย่างคุณชนจันทร์ แสงเรืองวัฒนายังออกงานสังคมบ่อยครั้ง เป็นตัวตั้งตัวตีทำการกุศลแก่เด็กผู้ยากไร้ตลอด ใบหน้างดงามของท่านชวนติดตาตรึงใจให้คนที่พบเห็นชื่นชม โดยที่ท่านทั้งสองมีโซ่ทองคล้องใจคือบุตรชายผู้มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ได้รับส่วนผสมของบุพการีและบรรพบุรุษมาอย่างลงตัว มีความเป็นคนยุโรปมากกว่าเอเชียเสียอีก

ทัพพ์ แสงเรืองวัฒนา แม้ปีนี้จะอายุ 18 ปีแต่ร่างกายสูงกำยำ กรอบหน้าชัดคล้ายกับหนุ่มวัยทำงาน ยิ่งสวมชุดสูทไปออกงานกับมารดาเล่นเอาคนมองไม่ออกว่ายังไม่จบมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยซ้ำ

“เกิดอะไรขึ้นที่บ้านคุณกันต์หรือเปล่า ได้ยินเสียงทะเลาะดังมาถึงนี่เลย” เสียงเพลงที่กำลังบรรเลงถูกขัดด้วยเสียงทะเลาะกันซึ่งดังมาถึงบ้านหลังนี้ คิ้วสวยขมวดเข้าหากันพลางชะเง้อเพื่อจะมองผ่านรั้วสูงของตัวเองแต่ก็ไม่เป็นผล

วันหยุดคนในครอบครัวมักจะใช้เวลาร่วมกัน โดยคุณชนจันทร์บังคับสามีและลูกชายผู้รักสันโดษให้มานั่งฟังเพลงรื่นเริงกับตัวเอง แม้ความจริงแล้วคุณทินภัทรอยากไปออกรอบตีกอล์ฟกับบรรดาเพื่อนก๊วนเดียวกันก็ทำไม่ได้

มีหรือจะกล้าขัดใจภรรยา...

ร่างสูงเองก็เช่นเดียวกัน ใจอยากขึ้นไปอ่านหนังสือในที่เงียบๆ ทว่าโดนมารดาให้เหตุผลต้องผ่อนคลายบ้างอย่าเครียดนัก จึงจำใจลงมาฟังเพลงและจิบน้ำชายามบ่ายกับท่าน ใบหน้าคมเรียบเฉยติดหงุดหงิดแสดงออกผ่านทางแววตาชัดเจน

แต่คนเป็นแม่ไม่ได้สนใจ ขอเพียงแค่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแล้วถ่ายภาพเอาไว้เพื่อตั้งโชว์ก็พอแล้ว ทุกคนต้องได้รู้ว่าครอบครัวแสงเรืองวัฒนาสมบูรณ์แบบมากแค่ไหน

“คุณกันต์พาผู้หญิงคนใหม่เข้าบ้านค่ะ คุณกิตติ์เธอเลยโวยวายไม่ยอม ตอนนี้ก็ทะเลาะกันใหญ่โตไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง” แม่บ้านที่คอยรับใช้คุณผู้หญิงไม่ห่างกายรีบบอกตามสิ่งที่ตนเองทราบ ขยับเข้าไปนวดตามขาของท่านแล้วบอกเล่าให้ฟังตามประสาขาเม้า ซึ่งคุณทินภัทรไม่ค่อยชอบท่าทางแบบนั้นเท่าไหร่นัก พยายามปรามหลายรอบแล้วแต่นิสัยก็แก้ยาก

“แล้วเราไปรู้อะไรกับเขา”

“เอ่อ เจิมได้ยินพอดีค่ะ ก็รั้วบ้านเรากับบ้านเขาติดกันนี่คะ เดินผ่านก็ได้ยินแล้ว” ยิ้มแหยแก้เขิน พลางอธิบายถึงเหตุผลซึ่งดูไม่น่าเชื่อเท่าไหร่

คุณชนจันทร์ได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจ รู้จักมักคุ้นกับคนบ้านนั้นเป็นอย่างดีเพราะเธอกับอดีตภรรยาของเขามักไปมาหาสู่กันเสมอ แต่อีกฝ่ายกลับตายจากด้วยโรคมะเร็งสมอง วันงานเห็นฝ่ายสามีร้องไห้น้ำตาคลอตลอดเวลา

ใครจะคิดผ่านไปไม่นานกลับพาหญิงอื่นเข้าบ้าน...

“น่าสงสารตากิตติ์นะคุณ เสียแม่ไปไม่นานพ่อก็พาผู้หญิงคนใหม่เข้าบ้าน ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน มีหัวนอนปลายเท้าหรือเปล่า” ทอดเสียงอาดูรยามพูดถึงเพื่อนสนิทของลูกชาย

กิตติกร เศวตวิกร ลูกชายเพียงคนเดียวของคุณกันตภัค เศวตวิกร เจ้าของบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ที่เพิ่งเปิดตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อปีก่อน ผลประกอบการพุ่งสูงเป็นที่น่าพึงพอใจ วัยรุ่นที่อยากโลดแล่นในวงการต่างเข้ามาสมัครไม่ขาดสาย

ทัพพ์ฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย เพราะก่อนหน้านี้เพื่อนก็มาปรับทุกข์บ้างแล้วแต่เขาไม่มีคำแนะนำดีๆ ให้อีกฝ่าย ถ้าเป็นตนก็คงออกจากบ้านหากพ่อพาหญิงอื่นเข้ามา ไม่อารัมภบทให้มากความด้วยเป็นคนไม่ค่อยชอบพูดอยู่แล้ว

และด้วยนิสัยของเขาก็ไม่เสียเวลาไปทะเลาะเบาะแว้งให้หงุดหงิด ถ้าจะเล่นงานต้องวางแผนรอบคอบและเอาให้หนัก...

“เห็นว่าเป็นนักร้องตามผับค่ะ อายุแค่สามสิบกว่าเอง มีลูกติดมาด้วยนะคะคุณผู้หญิง” ขยับเข้าไปใกล้ท่านพร้อมเล่าเรื่องราวที่ไปสืบพอสังเขป คนฟังยกมือทาบอกพลางทำตาโตด้วยความตกใจ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าของบริษัทใหญ่โตจะคว้าผู้หญิงพรรค์นั้นขึ้นมาแทนที่ภรรยาคนก่อนที่เป็นผู้ดีมีตระกูลได้

“ตายจริง แล้วคุณกันต์ยังพาเข้าบ้านอย่างนั้นเหรอ คิดอะไรของเขาไปคว้าผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นแม่ตากิตติ์...ฉันสงสารหลานจังเลย” เสียงเพลงไม่สร้างความสุนทรีอีกต่อไป หันไปหาสามีพลางบอกอีกฝ่ายที่ยังคงนิ่งเฉยไม่แสดงท่าที

ตนก็สนิทกับคุณกันตภัคเพราะอยู่บ้านใกล้กัน ว่างตรงกันก็ชวนไปออกรอบ เจอตามงานสังคมบ้าง รู้ดีว่าอีกฝ่ายขาดอะไรและต้องการสิ่งไหนเพื่อตอบสนอง...

เซ็กส์...ที่ภรรยาคนเก่าตอบสนองไม่ได้

แม้จะอายุเยอะแต่ความต้องการไม่ได้น้อยลงสักนิด แอบมีเล็กมีน้อยบ้างประปรายตามประสาคนมีอำนาจที่หญิงสาวชอบเข้าหาเพื่อไต่เต้าคว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหาห่วงมาผูกคอเร็วนัก

ทั้งยังมีลูกติดอีกต่างหาก...

“ทัพพ์ ไปหาเพื่อนหน่อยสิ” สามีที่นั่งเงียบจนนึกรำคาญเพราะไม่มีความรู้สึกเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงหันเหมาหาบุตรชายที่นั่งนิ่งไม่แสดงอารมณ์ เขารู้ดีว่ามารดาต้องการให้ไปสืบความจากกิตติกร ทว่าตนไม่สนใจใคร่รู้เรื่องของคนอื่นเท่าไหร่

“ผมต้องอ่านหนังสือครับ...” พูดจบร่างหนาลุกจากโซฟาหมายจะเดินออกจากห้อง จนมารดาต้องรีบท้วงถาม

“แล้วนั่นจะไปไหน”