ของขวัญรักไร้ทะเบียน

16.0K · จบแล้ว
ปะหนัน
10
บท
2.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอยอมเอาตัวเข้าแลกเป็นเวลาหกเดือนเพราะหนี้สินของพี่ชาย ขายศักดิ์ศรีขายหัวใจเพื่อชดใช้ในสิ่งที่ไม่ได้ก่อ ทุกอย่างควรจะจบลงเมื่อถึงเวลา แต่สุดท้ายการจะเดินออกมาครั้งนี้ เธอกลับไม่ได้มาแค่เพียงคนเดียว ลูกคือของขวัญ ถึงจะเป็นแค่สายเลือดนอกทะเบียนก็ตาม ฟ้าลดาไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาแค่ใช้ตัวเธอล้างหนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่คู่ควร /*/*/ “เสื้อผ้าลูกผมอยากให้คุณเปลี่ยนไปซักมือ เช็คดูให้ละเอียดว่ามีมดหรือมีเศษฝุ่นอะไรหรือเปล่า” “ค่ะ” น้ำเสียงและสีหน้าของหญิงสาวราบเรียบเย็นชา เธอเป็นแค่แม่ของลูกและในสายตาของเขาก็เป็นแค่คนรับใช้ เขาสั่งอะไรเธอก็ต้องทำ ที่ฟ้าลดาต้องอดทนขนาดนี้ เพราะเธอไม่อยากจากลูกไปไหน ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกอึดอัดกับสถานะของตัวเองในเวลานี้ แต่เธอก็รักลูกเกินกว่าที่จะตัดใจทิ้งเด็กน้อยไว้ที่นี่ได้ “แล้วเรื่องอาหารของลูก ผมอยากให้ลูกกินอาหารให้ตรงเวลา คุณช่วยจัดการเรื่องเวลาใหม่ด้วยนะ” “ค่ะ” เธอยังคงตอบสั้นๆไม่ได้พูดอะไรนอกเหนือจากนี้ หญิงสาวก้มหน้าก้มตาพับผ้าใส่ตู้ ฟังชายหนุ่มที่กำลังพูดคุยกับลูกสาวด้วยโทนเสียงที่อ่อนโยน ต่างจากตอนที่คุยกับเธอ หญิงสาวน้อยใจจนน้ำตาร่วง อยู่ใกล้กันแค่นี้แต่เธอกลับไม่มีสิทธิ์ไขว่คว้า ได้แต่แอบมองเขาแต่ไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้ด้วยซ้ำ ฟ้าลดารู้สึกว่าที่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ที่ของเธอ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ผิดไปหมด เมื่อไหร่ที่พลาดเขาก็จะหาเรื่องมาตำหนิ แต่เมื่อไหร่ที่เธอทำดีเขาก็จะไม่แยแส ฟ้าลดาไม่ได้คาดหวังว่าชายหนุ่มต้องมารักเธอ แต่อยากให้เขาให้เกียรติเธอในฐานะแม่ของลูกบ้าง

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานเศรษฐีหนุ่มเจ้าสำราญคู่นอนคืนเดียวแต่งงานสายฟ้าแลบพาลูกกหนีมีลูกโรแมนติก

หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

ตอนที่ 1

หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

ฟ้าลดาเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยในตัวเมืองเชียงใหม่ เธอรีบเดินทางกลับบ้านทันทีเพราะเป็นห่วงพี่ชายที่ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาเลย แต่หญิงสาวก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากเพราะปกติพี่ชายของเธอทำงานเป็นพนักงานขับรถของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ช่วงเวลาที่ทำงานเขาไม่ได้ติดต่อกับใครรวมทั้งเธอด้วย

หญิงสาวเข้าใจและไม่เคยรบกวน การที่พี่เธอหายไปนานๆจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

เธอเดินทางมาถึงที่บ้านแต่กลับพบว่าทุกสิ่ง ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก ทั้งยังได้ยินเสียงเด็กเจี๊ยวจ๊าวดังออกมาจากข้างใน ฟ้าลดาขมวดคิ้วชะเง้อมอง กดกริ่งหน้าบ้านย้ำๆด้วยความรู้สึกโมโห เมื่อเห็นว่าบ้านตัวเองมีคนแปลกหน้าบุกรุก

“มาหาใครคะคุณ”

หญิงสูงวัยสวมเสื้อคอกระเช้าเดินออกมายืนหน้าประตูรั้ว เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร

“นี่บ้านฉันค่ะ พวกคุณเป็นใคร เข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง เนื่องจากอากาศร้อนอารมณ์ก็ร้อนตาม เธอไม่พอใจผู้คนเหล่านี้ คิดว่าพวกเขาเป็นผู้บุกรุก

“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ ลูกเขยฉันซื้อบ้านหลังนี้แล้ว คุณนั่นแหละเป็นใคร จู่ๆก็มากล่าวอ้าง”

“ใครเป็นคนขายบ้านหลังนี้ให้พวกคุณ”

หญิงสาวสังหรณ์ใจ หรือว่าที่เธอติดต่อพี่ชายไม่ได้อาจเป็นเพราะเรื่องนี้

“ลูกชายฉันซื้อบ้านหลังนี้มาจากเสี่ยเจ้าของบ่อน เจ้าของบ้านคนเก่าติดหนี้พนันก็เลยเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองไว้”

ฟ้าลดาแทบล้มทั้งยืน เธอเองก็เคยได้ยินมาผ่านๆหูว่าช่วงนี้พี่ชายติดการพนัน แต่โง่เองที่ไม่เชื่อ ทั้งยังต่อว่าเพื่อนที่เอาเรื่องนี้มาพูด หญิงสาวไม่คิดเลยว่าพี่ชายที่แสนดี จะกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารีบต่อสายหาเขา แต่เมฆินทร์ก็ไม่ยอมรับสาย สุดท้ายก็ปิดเครื่องหนี หญิงสาวไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี เธอมีเงินติดตัวไม่มากจากการทำงานพาร์ทไทม์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

หญิงสาวเดินคอตกออกมาหน้าถนนใหญ่ เรียกวินมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ค่าห้องพักรายวันราคาไม่กี่ร้อยทำให้หญิงสาวพอจะประหยัดเงินไปได้บ้าง

แต่การที่เธอไม่ได้กลับมาที่นี่หลายปี ทำให้รู้ว่าอะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปมาก รวมทั้งค่าครองชีพด้วย แถวนี้เจริญขึ้นผิดหูผิดตา ได้ยินว่าคนที่เข้ามาพัฒนาเป็นนายทุนใหญ่ กว้านซื้อที่ดิน นำพาความเจริญเข้ามาสู่พื้นที่แห่งนี้ เปลี่ยนสถานที่เงียบสงบให้กลายเป็นแหล่งการค้า

ถามว่าดีหรือไม่ย่อมดีแน่นอน แต่ฟ้าลดารู้สึกว่าที่นี่เปลี่ยนมากเกินไป แทบไม่หลงเหลือกความเป็นเมืองที่แสนสงบแบบดั้งเดิม

ตลอดเวลาที่อยู่ในห้องพักเธอก็พยายามติดต่อหาพี่ชาย ติดต่อหาเพื่อนเขา แต่ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้เมฆินทร์ไปอยู่ที่ไหน หลายคนก็ถือโอกาสนี้ทวงเงินที่เธอ

ฟ้าลดาจึงจำเป็นต้องประนีประนอม เพราะตอนนี้เธอเพิ่งเรียนจบยังไม่มีรายได้มั่นคง แต่เมื่อไหร่ที่เธอมีงานทำเธอยินดีที่จะชดใช้แทนพี่ชายให้

หญิงสาวนั่งร้องไห้ รู้สึกเคว้งคว้าง บ้านก็ไม่มีอยู่ เงินในกระเป๋าก็จะหมด งานก็ยังไม่มีทำ ฟ้าลดาไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตต่อไป เมื่อตั้งสติได้สิ่งแรกที่เธอทำคือรีบยื่นเอกสารเพื่อสมัครงาน

แต่ในขณะที่หญิงสาวกำลังวุ่นวายอยู่กับ การเตรียมเอกสาร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เบอร์แปลกๆทำให้ฟ้าลดาลังเลที่จะรับสาย แต่สุดท้ายเธอก็กดรับเพราะความอยากรู้

“สวัสดีค่ะ”

หญิงสาวกรอกเสียงลงไปแต่จู่ๆคนที่โทรมาก็ตัดสายทิ้งไปดื้อๆ เธอจ้องหน้าจอด้วยความงุนงง ก่อนที่ข้อความจากเบอร์เมื่อครู่จะถูกส่งมา

‘พรุ่งนี้มาพบคุณศตวรรษที่โรงเเรมเอสดับบิวเวลาสิบเอ็ดโมง’

หญิงสาวนิ่งไปชั่วขณะแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เธอเพิ่งส่งใบสมัครไปที่โรงแรมแห่งนี้ก็พอจะเข้าใจอะไรๆขึ้นมา

ฟ้าลดาไม่ได้เอะใจเลย ว่าทำไมทางโรงแรมถึงได้ตอบรับอย่างรวดเร็วขนาดนี้ เธอกำลังดีใจที่ตัวเองจะได้งาน โดยไม่รู้เลยว่าในวันพรุ่งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

เช้าวันต่อมาหญิงสาวแต่งตัวเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีเรียบๆและกระโปรงทรงเอสีดำ สลัดภาพลักษณ์ เด็กสาว เปลี่ยนบุคลิกใหม่ให้เข้ากับวัยทำงาน

โรงแรมแห่งนี้เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่กลับมีคนเข้าใช้บริการมากมาย ได้ยินว่าที่นี่เป็นหนึ่งในโรงแรมดังประจำจังหวัด จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่ทำให้หญิงสาวตัดสินใจยื่นใบสมัครมา

ฟ้าลดาแจ้งเจ้าหน้าที่ด้านหน้าว่าเธอมาพบศตวรรษ ก่อนถูกพาขึ้นไปชั้นบนสุด ทันทีที่เดินออกมาจากลิฟท์เธอก็พบกับบรรยากาศที่ค่อนข้างวังเวง และกลิ่นอายบางอย่างที่ดูไม่ชอบมาพากล

หญิงสาวทำใจดีสู้เสือก้าวเดินเข้าไปในห้องทำงานของชายหนุ่ม เห็นเขานั่งรออยู่แล้วเธอก็รีบยกมือไหว้

“สวัสดีค่ะ”

“ตามหาตัวยากทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ”

นี่คือประโยคแรกที่ชายหนุ่มเอ่ยทักทาย เขาไม่ได้ต้องการให้หญิงสาวมาทำงานที่นี่ ไม่ได้สนใจเกียรตินิยมของเธอด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่สะดุดตาเขาคือนามสกุลเธอเท่านั้น นามสกุลที่เหมือนกับลูกหนี้จอมเจ้าเล่ห์อย่างเมฆินทร์

“คะ?”

หญิงสาวยังไม่เข้าใจ เธอแค่สงสัยว่าทำไม คนตรงหน้าถึงได้พูดแบบนั้นออกมา

“ฉันชื่อศตวรรษ เป็นเจ้าหนี้ของพี่ชายเธอ นายเมฆินทร์เชิดเงินฉันไปหลายล้าน ตอนนี้หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ ฉันพยายามตามหามันอยู่ เธอรู้หรือเปล่าว่ามันอยู่ที่ไหน”

หญิงสาวส่ายหน้า ตัวเธอเองยังติดต่อเขาไม่ได้เลย ที่ผ่านมาเธอกับพี่ชายไม่ได้พูดคุยกัน จึงไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรทำไมถึงได้เป็นหนี้เป็นสินมากมายขนาดนี้

หญิงสาวแทบจะร้องไห้ เมื่อรู้ว่าพี่ชายของเธอเอาบ้านไปจำนองเพื่อใช้หนี้การพนัน และที่ยิ่งไปกว่านั้น ยังโกงเงินผู้ชายตรงหน้าไปอีกหลายล้าน

แม้ว่าเธอจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็ละอายใจเกินกว่าที่จะปัดความรับผิดชอบ

“ฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ฉันบอกเจ้าหนี้เขาทุกคนแล้วว่าฉันจะทยอยชดใช้เงินให้”

ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมองหญิงสาวตั้งแต่ หัวจรดเท้า ได้ยินว่าเธอเพิ่งเรียนจบยังไม่ได้ทำงานด้วยซ้ำจะเอาเงินที่ไหนมาทยอยใช้หนี้

สายตาของของศตวรรษทำให้ฟ้าลดารู้สึก ขนลุก ประกายบางอย่างในแววตาของเขาทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวและกังวลใจ