บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 แค่เงี่ยนเท่านั้น

“จะไปไหนเจคอป” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเธอดูสีหน้าของเขาที่ดูเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันนั้นเขาจับมือเรียวของเธอไว้ทันที ชาลีและบอดี้การ์ดอีกสองคนรีบเดินมาหาเธอในทันที

“ชาลีไม่ต้องตาม บอกแม่ด้วยเดี๋ยวฉันกลับ แล้วบอกว่าฉันไปกับเพื่อนสาว” เธอเอ่ยบอกพวกเขา พวกเขากลับงงในทำตามคำสั่งเธอ

พอมาถึงลาดจอดรถ บอดี้การ์ดของเจคอปมารอเขาที่หน้ารถ บอดี้การ์ดมีสีหน้าที่งวยงงที่เธอพาผู้หญิงมาที่รถ ซึ่งเขาไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน

“ฉันขับเอง” เจคอปเอ่ยสั่งเจสันและโธมัสซึ่งเป็นบอดี้การ์ดของเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ รถ เจสันยื่นกุญแจรถสปอร์ตหรูคันสีดำให้กับเขา เธอที่ยืนข้างๆ โดยมีเขาเป็นคนจับมือ เธอยังคงงวยงงกับเหตุการณ์อยู่

“ขึ้นรถ” เจคอปเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง

“เจคอป คุณจะพาฉันไปไหน” แคนรี่เอ่ยถามเขาด้วยความสงสัย เธอมองใบหน้าของเขาที่ดูจริงจังเป็นอย่างมาก ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่า เขาจะเอาเธอไปเชือดแล้วก็ชำแหละขาย

“ขึ้นรถ” เขายังคงยืนยันคำเดิม เธอจึงขึ้นไปนั่งข้างคนขับ โดยมีบอดี้การ์ดเปิดให้ ส่วนเขาขึ้นมาที่นั่งฝั่งคนขับ

เมื่อเขาขับรถได้สักระยะหนึ่ง เขากลับไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ออกจากห้างสรรพสินค้า ได้ยินเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศ และลมหายใจ ทำให้บนรถคนนี้เงียบสงัด จนเธอทนไม่ได้จึงเอ่ยปากพูดก่อน

“เจคอปตอบฉันหน่อย” เธอเอ่ยเช่นนี้ เขากลับมองตรงไปด้านหน้าถนนโดยไม่ได้สนใจในตัวเธอ เธอจึงเงียบลงอีกครั้ง

จนมาถึงประตูรั้วขนาดใหญ่ ทันใดนั้นประตูรั้วก็เปิดออกกว้าง รถค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปในรั่วบ้าน เธอทอดสายตามองบ้านหลังนี้ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบ เธอคิดต่ออีกว่า

เขาจะเอาฉันมาฆ่าหมกทะเลหรือเปล่า โอ้...ไม่นะ

“ลงมาได้แล้ว” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เธอรู้สึกได้ว่าคำพูดนี้เหมือนฉันได้ยินเป็นคำแรกของโลก

แคนรี่ก้าวลงจากรถโดยมีบอดี้การ์ดเป็นคนเปิดประตูรถให้ เธอจึงเดินตามเขาเข้าไปในบ้าน เธอรู้สึกได้ว่าเหมือนเข้าเครื่องประหารกิโยตีนสมัยโบราณก็มิปาน

“พาฉันมาทำไมคะ” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย

แต่ทันใดนั้น

“ว้าย...ปล่อยนะ จะทำอะไร” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจอย่างมาก เมื่อเขาช้อนขาและช้อนหลังต่อหน้าธารกำนัล

“ถ้าไม่หยุดดิ้น จะเอาหน้าบ้านให้คนในบ้านได้เห็น” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอจึงหยุดดิ้นทันที เขาก้าวเดินข้ามธรณีประตูเข้าไปในบ้าน ราวกับว่าเธอเป็นเจ้าสาวได้เข้าหอในคืนแรก

“ปล่อยฉันกลับบ้านเถอะ” แคนรี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขอความรักความเมตตาจากเขา

เขากลับไม่พูดอะไรหน้าตาเหมือนจะสังหารศัตรูให้ตายในทันที

ในที่สุดฉันก็มาถึงแดนประหารจริงๆ ก็คือห้องนอนกว้างคุมโทนแดงทอง วางเธอนอนลงบนเตียง และเขาขึ้นคร่อมบนตัวเธอ จับข้อมือเรียวสองราวกับตรึงเอาไว้

“รู้ไหมที่ผมไม่เคยมีใคร เพราะผมรักคุณแค่คนเดียว ทำไมไม่เปิดใจให้ผมบ้าง แคนรี่” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่เธอกลับรู้สึกว่าลมหายใจของเขานั้นลดลงที่ต้นคอ ทำให้เธอรู้สึกปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ฉันไม่รู้ และไม่อยากรู้” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา อีกทั้งใจเธอกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ

“ตลอดเวลาหลายปีมา ผมยอมให้ทุกคนเห็นผมเป็นเกย์บ้าบออะไรก็ช่าง ผมไม่อยากให้ใครมายุ่งกับผม” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง จ้องลงไปนัยน์ตาของเธอที่อ่อนหวาน

“ถามจริง ถามเป็นครั้งสุดท้าย คุณเป็นเกย์หรือเปล่า” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่ ผมไม่ใช่เกย์ คุณไม่เชื่อผมอีกเหรอ” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ปล่อยมือฉัน และนอนลง” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอเองอยากพิสูจน์ว่าเขาพูดเรื่องจริงหรือเงี่ยนแค่นั้น

เขาจึงปล่อยมือเรียวเธอ นอนลงข้างเธอ เธอจึงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาทีละเม็ด เขาจึงจับมือเธอทันที

“คุณจะทำอะไร” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“อยู่เฉยๆ” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังราวกับข่มขู่ เขาจึงปล่อยมือเธอ เธอปลดกระดุมต่อจนมาถึงเม็ดสุดท้ายที่อยู่บนหัวหน่าว ทำให้เธอเห็นแนวขนและซิกแพคเป็นลอนสวยเช่นพี่ชายของเธอที่ชอบออกกำลังกายอย่างหนักราวกับเสพเฮโรอีน

เธอขึ้นมาคร่อมบนความเป็นชายที่ยังหลับใหลใต้กางเกงสแล็คสีดำ เธอใช้มือลูบไล้บนอกแกร่งที่อุดมไปด้วยซิกแพค เธอกับรู้สึกว่าที่ก้นของเธอเหมือนมีอะไรกำลังทิ่มอยู่ เธอจึงยกตัวขึ้น ทำให้เธอเห็นความเป็นชายกำลังตั้งตรงใต้กางเกง เธอกลับรู้สึกตกใจ และรีบลุกขึ้นออกจากตัวเขา แต่ทว่าเขาจับเอวกิ่วของเธอไว้ทั้งสองข้าง ไม่ให้ไปไหน

“จะไปไหน” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงวาบหวามและดุดัน นัยน์ตาของเขาเป็นประกายแรงกล้า อีกทั้งเป็นดวงตาที่ดูหื่นกระหายอย่างยิ่ง ทำให้เธอกลืนน้ำลายเหนียวๆ อย่างยากเย็น

“ฉันกลับบ้าน” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง และขยับดิ้นรนให้เขาปล่อย

“คุณทำให้ผมอยาก แล้วจะจากไปเหรอ ใจดำไปหน่อยไหม แคนรี่” เขาเอ่ยถามเขาลุกขึ้นนั่ง นำหมอนใหญ่มาพิงหลัง มือหนาของเขายกตัวเธอขึ้นเล็กน้อยให้อยู่บนความเป็นชายได้มากขึ้น มือหนาข้างหนึ่งลูบไล้เรือนร่างของเธอ มืออีกข้างเสื้อเข้ามาในสาบเสื้อขยำอกอวบอิ่มของเธอ เธอจึงจับมือหนาบนร่มผ้า

“เจคอปฉันขอโทษฉันเข้าใจผิดเอง” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“คุณต้องรับผิดชอบ” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและจริงจัง แล้วจูบริมฝีปากบางที่กำลังจะเอื้อนเอ่ยวาจา เขากลับสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากราวกับหาความหวาน ทำให้เธอจูบเขาอย่างไม่เป็นภาษา เขาจึงริมถอนริมฝีปากออกก่อนกลัวว่าเธอจะหายใจไม่ทัน กดริมฝีปากข้างกกหู แล้วใช้ลิ้นหาเลียหนักๆ ทำให้เธอครางกระเส่าเสียวสะท้านไปทั้งเรือนร่าง ไล่ลงมาดูดที่ซอกคอของเธอ

“อืม...อื้ม...”

เขาถอนริมฝีปากออกช้าๆ ทำให้เขาเป็นรอยดูดตีตราราวกับเป็นเจ้าของอย่างพึงพอใจ เขาจับหลังคอของเธอมาจูบที่ริมฝีปากสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากสอดลิ้นเข้าหากันและกันราวกับสนามรบผลัดกันชิงชัยในสงคราม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel