บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 รุ่มร้อนดั่งไฟ

ตอนที่ 1

รุ่มร้อนดั่งไฟ

เสียงส้นสูงคู่สวยกระทบพื้นหินอ่อนขัดมันวาวของอาคารสำนักงานใหญ่ดังเป็นจังหวะเร่งร้อน บอกเวลาที่ใกล้จะสายเต็มที...อีกแล้ว! พิมพ์ดาวสบถเบาๆ พลางเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นจนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง เธอรู้ดีว่าหากไปถึงช้ากว่านี้สักวินาทีเดียว อาจจะถูก หมายหัวตั้งแต่ยังไม่เริ่มงานวันแรก

“ไม่ทันแน่...” เสียงพึมพำลอดไรฟันขณะที่ร่างเพรียวระหงใน ชุดกระโปรงเข้ารูปสีขาวครีมแนบเนื้อ ทะยานเข้ามาในโถงตึก กวาดสายตามองหาลิฟต์ด้วยความหวังอันริบหรี่ ช่วงเอวคอดกิ่วถูกรัดตรึงไว้แน่นพอดีกับสัดส่วนโค้งเว้า บรรจงโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งได้อย่างหมดจด รอยแหวกด้านข้างกระโปรงยาวขึ้นมาจนเผยให้เห็นเรียวขาเนียนสวยไร้ที่ติ เปล่งประกายขาวอมชมพูสะท้อนแสงไฟที่สาดส่องลงมาอย่างละมุนละไม เป็นธรรมชาติจนน่าหลงใหลราวกับงานประติมากรรมชั้นเอก

ในเสี้ยววินาทีที่สติกำลังจดจ่ออยู่กับการจับจ้องไปยังแผงไฟของลิฟต์ ดวงตาคู่สวยก็พลาด การมองเห็นบางสิ่งตรงหน้า ส่งผลให้ ร่างของเธอปะทะเข้ากับใครบางคนเข้าเต็มแรง ณ เบื้องหน้าลิฟต์ที่กำลังจะปิดตัวลงอย่างช้าๆ แรงกระแทกนั้นทำให้พิมพ์ดาวเซถลาไปข้างหลัง เกือบจะเสียหลักล้มลงก้นจ้ำเบ้า หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมือคู่หนึ่งที่คว้าต้นแขนเธอไว้ได้ทัน

“โอ๊ย...ขอโทษค่ะ ฉันรีบ...”

เสียงหวานใสหลุดออกมาด้วยความตกใจและรีบร้อน ทว่าคำพูดนั้นกลับขาดห้วงไปกลางคัน เมื่อเธอกัดฟันรวบรวมแรงเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของมือแกร่งที่ประคองเธอไว้ โลกทั้งใบดูเหมือนจะหยุดหมุนลงฉับพลัน

ดวงตาของเขาลึกคมเฉียบ ราวกับนัยน์ตาของเหยี่ยวที่จ้องมองเหยื่ออยู่ใต้ คิ้วเข้มที่ขมวดน้อยๆ คล้ายจะรำคาญ แต่กลับแฝงด้วยเสน่ห์อันน่าค้นหา ใบหน้าของเขาเรียบขรึม ไร้อารมณ์ใดๆ แต่กลับมีบางอย่างที่ดึงดูดสายตาอย่างประหลาด ไม่ใช่แค่ ความหล่อเหลา แต่เป็นรังสีอำนาจที่แผ่ออกมาอย่างโจ่งแจ้ง สูทสีเทาดำเนื้อดีตัดเย็บอย่างประณีตแนบกับเรือนกายสูงใหญ่ รับกับผิวเข้มที่ดูกร้าวแกร่ง ยิ่งทำให้เขาดูทรงอำนาจและน่าเกรงขามอย่างรุนแรง ยากที่จะละสายตาไปจากเขาได้แม้แต่วินาทีเดียว

และนั่นเอง...คือครั้งแรกที่ เธอได้เผชิญหน้ากับ คีรัณย์บุรุษผู้เป็นประธานบริษัทที่ใครๆ ต่างล่ำลือถึงความโหดเหี้ยม เย็นชา และเป็นคนที่ไม่เคยแตะต้องพนักงานหญิงคนไหนเลยสักคน...แม้แต่ปลายเล็บ

แต่...ทำไมตอนนี้สถานการณ์ถึงได้พลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง

“เปียกหมดเลย” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยขึ้นแผ่วเบา คล้ายจะหยอกเย้า แต่แฝงไว้ด้วยความหมายอื่นใดที่ลึกซึ้งกว่านั้น สายตาคมกริบของเขาเหลือบมองเสื้อเชิ้ตสีอ่อนของเธอที่เปียกฝนจนแนบเนื้ออย่างไม่ตั้งใจ เผยให้เห็นทรวดทรงอวบอิ่มภายใต้บราลูกไม้สีครีมอย่างชัดเจนทุกสัดส่วน

จนพิมพ์ดาวแทบลืมหายใจ หัวใจของเธอเต้นรัวโครมครามอยู่ในอก ราวกับจะทะลุออกมานอกร่างได้ทุกเมื่อ ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความประหม่าและอับอาย

“ขะ...ขอโทษค่ะ” เธอรีบร้อนยกแฟ้มเอกสารขึ้นมาบังทรวงอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่วายถูกสายตาอันร้อนแรงของเขา กลืนกินไปจนหมดสิ้นแล้ว

ติ๊ง!

เสียงลิฟต์เปิดออกพอดี เป็นจังหวะเดียวกับที่ความอึดอัดเริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุม พิมพ์ดาวก้าวเข้าไปในลิฟต์อย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้เอะใจเลยว่าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนนั้นกำลังก้าวตามเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ราวกับเงาที่ติดตามตัวเธอไปทุกหนแห่ง แล้ว...

ประตูลิฟต์ปิดลงทันที พร้อมกับเสียงเครื่องจักรขัดข้องอย่างน่าตกใจ เสียงกระตุกเบาๆ ของลิฟต์ทำให้ใจเธอหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

พิมพ์ดาวหันกลับไปทางเขาอย่างรวดเร็ว ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก “เอ๊ะ...ลิฟต์ค้างเหรอคะ!?”

“ใจเย็นๆ” คีรัณย์พูดเสียงเรียบ แต่ นัยน์ตาของเขาไม่หลุดไปจากรูปร่างอันน่าปรารถนาของเธอแม้แต่น้อย เขาก้าวเข้าใกล้ทีละก้าวอย่างช้าๆ จงใจทอดสายตาอันแพรวพราวไล่เลื่อนจากเรียวขาเนียนสวยขึ้นมาตามโค้งสะโพกแน่นกลมกลึง ชะลอหยุดอยู่ที่เอวคอดกิ่วอย่างพึงพอใจ ริมฝีปากหยักลึกของเขาค่อยๆ โค้งยิ้มบางเบา เป็นรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของพิมพ์ดาวเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ

“คุณชื่ออะไร” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม

“พิมพ์ดาว...ค่ะ เลขาฝึกงาน” เธอตอบตะกุกตะกัก

“ฉันชื่อคีรัณย์” คำตอบของเขาดังก้องอยู่ในหูของพิมพ์ดาว หัวใจของเธอหล่นวูบราวกับตกจากที่สูง

เขา...คือบอส! ประธานใหญ่ของบริษัทที่เธอกำลังจะเข้าฝึกงาน เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่าทำตัวไร้มารยาทกับเขาไปมากแค่ไหน

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่า...”

“ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้น”

เสียงของคีรัณย์แทรกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ มือใหญ่ของเขาจะแตะลงบนต้นแขนของเธอเบาๆ แล้วออกแรงดึงร่างบางให้ถอยหลังไปจนแผ่นหลังบอบบางแนบชิดกับผนังลิฟต์ที่เย็นเฉียบ เสียงลมหายใจอุ่นร้อนของเขาพร่าอยู่ข้างใบหูของเธออย่างใกล้ชิดจนรับรู้ได้ถึงไอร้อนผ่าวที่แผ่ออกมา

“คุณรู้ไหม ว่าคุณกำลังยั่วมากแค่ไหน...” คำกระซิบที่แฝงไปด้วยความปรารถนาอันรุนแรงทำให้ขนกายของพิมพ์ดาวลุกชันไปทั่วร่าง

“บะ...บอสคะ” เธอพยายามจะคัดค้าน แต่เสียงกลับติดอยู่ที่ลำคอ

“เรียกชื่อฉัน พิมพ์ดาว...”

เสียงทุ้มต่ำของเขาที่กระซิบอยู่ข้างหูราวกับเป็นมนตร์สะกด ริมฝีปากหยักลึกของเขาเคลื่อนเข้ามา จูบเบาๆ ตรงต้นคอระหง ลมหายใจของพิมพ์ดาวสะดุดกึก ทรวงอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมไหวแนบชิดกับอกแกร่งของเขาโดยไม่ตั้งใจ ความร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปทั่วร่าง

“คะ...คีรัณย์...” เสียงเรียกชื่อที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางเบา ราวกับเสียงครางที่เกิดจากความปรารถนาอย่างไม่รู้ตัว

“ดีมาก” เขากระซิบตอบรับ ก่อนที่ ริมฝีปากของเขาจะปะทะเข้ากับริมฝีปากของเธออย่างร้อนแรง ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำดูดกลืนทุกสิ่ง มือใหญ่ของเขาสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตบางเบานั้น ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังที่ยังคงเปียกชื้นจากหยาดฝนอย่างโหยหาและปรารถนาไม่สิ้นสุด

ริมฝีปากของเขาโลมเลียไปตามซอกคอหอมกรุ่น ปลายลิ้นร้อนๆ ตวัดไล้ลงมาที่กระดุมเม็ดแรก...เม็ดที่สอง...ที่ค่อยๆ คลี่ออก เผยให้เห็นเนื้อสาวเนียนผ่องที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้า พิมพ์ดาวหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ดวงตาที่ปรือปรอยบ่งบอกถึงความมึนเมาจากสัมผัสของเขา

“บอกฉันว่าไม่อยากให้หยุด” เสียงแหบพร่ากระซิบถามข้างใบหู คีรัณย์จงใจเน้นย้ำทุกถ้อยคำ ราวกับต้องการให้เธอตอกย้ำความปรารถนาของตัวเอง

“อย่าหยุด...ได้ไหม” เสียงหวานใสตอบกลับแผ่วเบา เป็นการยอมจำนนต่อความต้องการที่อัดแน่นอยู่ภายใน

เท่านั้นเอง... เขาผลักแฟ้มในมือเธอทิ้งลงกับพื้นลิฟต์อย่างไม่ไยดี ก่อนจะใช้มือแกร่ง ยกตัวเธอขึ้นนั่งคร่อมบนราวจับผนังด้านข้างของลิฟต์ แรงยกที่กระทำอย่างรวดเร็วทำให้กระโปรงของพิมพ์ดาวแหวกขึ้นสูง เผยให้เห็นชั้นในลูกไม้สีครีมที่เปียกชื้นจนแนบเนื้อ ยิ่งยั่วยวนสายตาของเขาให้ร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

คีรัณย์ย่อตัวลงเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาจรดลงใกล้กับต้นขาเนียนนุ่มของเธอ ปลายลิ้นร้อนๆ ของเขาไล้เลียไปตามหน้าขาด้านในอย่างช้าๆ พิมพ์ดาวสะท้านเฮือก สะโพกของเธอสั่นระริกอย่างห้ามไม่ได้ ร้อนผ่าวไปทั่วทั้งร่าง

“หวานกว่าที่คิด” เขาพึมพำเสียงพร่า พลางลากปลายลิ้นแทรกเข้าไปในซอกนุ่มละมุนที่ซ่อนอยู่ พิมพ์ดาวร้องครางเสียงแผ่วเมื่อปลายลิ้นร้อนๆ ตวัดวนลึกซ้ำๆ ในจุดที่ไวต่อสัมผัสที่สุด ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง มือเรียวสวยเผลอจิกเข้ากับเส้นผมสีเข้มของเขาอย่างแรง

ร่างกายของเธอสั่นระริกราวกับลูกนกเมื่อเขากดกายขึ้นมาแนบชิด พิมพ์ดาวรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่เบียดเสียดอยู่ระหว่างเรียวขา

“ฉันอยากเป็นคนแรกของเธอ...ในบริษัทนี้” เขากระซิบเสียงพร่า พลางสอดกายเข้าหาอย่างแนบแน่น ช้า...ละมุน...แต่เร่าร้อนราวกับไฟที่ลวกผิวกาย ความอุ่นร้อนแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างของพิมพ์ดาว จนเธอต้องหอบหายใจแรงขึ้น ดวงตาที่ปรือปรอยมองขึ้นไปสบกับดวงตาคมกริบของเขาที่กำลังกดจูบบนหน้าผากของเธอราวกับหลงรักอย่างสุดหัวใจ

ชายหนุ่มเริ่มเคลื่อนไหวในจังหวะสม่ำเสมอ อ่อนโยนแต่หนักแน่นและลึกซึ้ง มือหนึ่งประคองเอวคอดกิ่วของเธอไว้มั่นคง อีกมือหนึ่งลูบไล้แก้มร้อนผ่าวของเธออย่างทะนุถนอม ราวกับเธอกำลังเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุด เสียงครางผะแผ่วที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของพิมพ์ดาวสะท้อนก้องไปทั่วทั้งลิฟต์ที่ถูกกักขัง

“อ่า...คีรัณย์...” เสียงหวานเรียกชื่อเขาอย่างออดอ้อน

“พิมพ์ดาว...เธอคือของฉัน เข้าใจไหม” เขาเอ่ยเสียงเข้มราวกับต้องการตอกย้ำความเป็นเจ้าของ

ติ๊ง!

เสียงลิฟต์เปิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ดูเหมือนเวลาหยุดนิ่งไปเกือบครึ่งชั่วโมง ความอึดอัดที่หายไปก่อนหน้านี้กลับเข้ามาแทนที่ พิมพ์ดาวรีบจัดเสื้อผ้าที่ยับย่นให้เข้าที่ด้วยมือที่ยังคงสั่นเทา เขาเองก็เพียงดึงเนกไทที่หลุดลุ่ยขึ้นกลับเข้าที่เดิม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออกเต็มที่และมีใครบางคนก้าวเข้ามา คีรัณย์หันกลับมาหาเธอ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในดวงตาคู่สวยของเธอ

“จำไว้...ความลับของเราคือความเร่าร้อนที่ฉันจะไม่มีวันลืม”

เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเพียงแค่นั้น แล้วเขาก็เดินออกไปจากลิฟต์ ทิ้งให้พิมพ์ดาวยืนหน้าแดงก่ำ อกกระเพื่อมตามแรงหายใจที่ยังคงหอบถี่ ร่างกายยังอ่อนไหวไม่หายจากสัมผัสเมื่อครู่

นี่มันคือการเริ่มต้นวันแรกของการฝึกงานจริง ๆ หรือ...ที่เธอได้พบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันถึงเพียงนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel