บทที่ 1 เชลยสาว (1)
“หมายเลข 21 มิสไทยแลนด์”
พอกรรมการบนเวทีเรียกชื่อ หญิงสาวร่างบาง สูงโปร่ง ใบหน้าสวยหวานสวมชุดว่ายน้ำทูพีชสีขาวสะอาดตาคล้องสายสะพายสีขาวมีตัวอักษรสีน้ำเงินเขียนว่า Miss Thailand จึงก้าวออกมาจากหลังเวทีด้วยรอยยิ้มสดใสและความมั่นใจ เธอเดินโบกมือทักทายคนดูพร้อมกับกรรมการด้วยลีลาที่เป็นธรรมชาติ หมุนตัว และส่งจูบให้ผู้ชม ก่อนไปยืนรอฟังหมายเลขที่ผ่านเข้ารอบ
นางงามจากหลายประเทศก้าวออกจากหลังเวทีมาทีละคน จนเวทีเต็มไปด้วยสาวงามจากหลายประเทศ
บรรยากาศบนเวทีเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อหมายเลขของผู้ผ่านเข้ารอบอยู่ในมือของพิธีกรชื่อดัง อารยาตั้งใจฟังชื่อประเทศต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ารอบพร้อมกับปรบมือแสดงความยินดีให้บรรดาเพื่อนนางงาม หญิงสาวลุ้นจนมือเย็นด้วยความตื่นเต้นว่าจะมีหมายเลขของเธอมั้ย กรรมการอ่านหมายเลขไปเรื่อย ๆ
สาวงามจากหลายประเทศที่ผ่านเข้ารอบมีทั้งสาวผิวขาวสะอาดตา และสาวผิวสีถูกแยกตัวออกมาด้านหน้า อารยาที่เท้าสะเอวโพสต์ท่ายังยืนยิ้มตลอด ทั้งที่หัวใจเต้นรัวแรงจนแทบทะลุออกนอกอก เธอตื่นเต้นมากถึงมากที่สุดจนมือบางชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“และหมายเลขที่ผ่านเข้ารอบคนสุดท้าย... คือ หมายเลข... หมายเลข...”
อารยาหลับตาปี๋ กลั้นหายใจเอาไว้ เธอตั้งใจฟังกรรมการบนเวที มือที่เท้าสะเอวอยู่บีบเอวด้วยความตื่นเต้นจนหัวใจแทบหยุดเต้น
“หมายเลข 22 มิสอินเดีย!”
อารยาแทบถอนหายใจออกมาตรงนั้น เธอไม่ได้เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น!!
ใช่แล้วเธอตกรอบ!!
“เฮ้อ” หญิงสาวถอนหายใจด้วยความโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอกเมื่อก้าวลงจากเวทีการประกวด ถึงจะตกรอบและชวดมงกุฎนางงามในการประกวดครั้งนี้ แต่การตัดสินของคณะกรรมการกลับทำให้เธอรู้สึกโล่งใจและหายใจได้คล่องขึ้น ส่วนสาเหตุเพราะเธอไม่ต้องแบกรับภารกิจใหญ่หลวงหลังจากได้มงกุฎและสายสะพายนั่นเอง
พอมาอยู่หลังเวที พี่เลี้ยงนางงามจึงเข้ามาปลอบใจพร้อมให้กำลังใจ
“ทำดีที่สุดแล้วค่ะน้องเจน ไม่ต้องเสียใจนะคะ”
“ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนมากค่ะ เจนโอเคมากเลย” อารยากอดพี่เลี้ยงนางงามซึ่งเป็นสาวประเภทสองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เพราะการตกรอบเท่ากับว่าเธอหมดหน้าที่ในส่วนนี้แล้ว
“เตรียมตัวเปลี่ยนชุดเลยค่ะ”
“เจนขอเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ เดี๋ยวมาค่ะ” หญิงสาวบอกเสียงเรียบก่อนคว้าชุดคลุมมาสวม
พี่เลี้ยงนางงามพยักหน้า “เร็ว ๆ นะคะ ต้องทำเวลา เดี๋ยวต้องขึ้นเวทีอีก”
“ค่ะ” อารยาตอบรับเสียงยานคาง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ
พอจัดการตัวเองเรียบร้อยหญิงสาวกลับรู้สึกถึงความผิดปกติ เหมือนมีใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่!
อารยากวาดสายตาไปรอบห้องน้ำที่เงียบสงบ พอไม่พบกับความผิดปกติใด ๆ เธอจึงเดินออกมาล้างมือที่อ่างน้ำด้านนอก ทว่าเธอกลับชะงักไปเมื่อเห็นภาพสะท้อนของชายชุดดำตัวสูงใหญ่จากกระจกเงานายหนึ่งเข้า พอสบตากับคนผู้นั้นเข้า ความกลัวเกิดขึ้นวินาทีนั้น
“พวกคุณเป็นใคร?” ไม่ถามอย่างเดียวหญิงสาวยังชักเท้าถอยหลังเพื่อหนีผู้ชายตัวโตที่ดูเหมือนจะพุ่งเป้าหมายมาที่เธอ
“แนะนำว่าอย่าโวยวาย แล้วไปกับพวกเราซะดีๆ”
“ไม่!” หญิงสาวปฏิเสธหน้าเจื่อนสี ตัดสินใจวิ่งหน้าตั้งเพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย โชคดีที่ห้องน้ำมีทางเข้าและทางออกได้สองทาง เธอจึงหนีคนแปลกหน้าพวกนี้ได้ แต่รองเท้าส้นสูงที่สวมอยู่กลับสร้างปัญหาใหญ่ให้กับเธอ เธอลื่นล้ม พอทรงตัวลุกขึ้นได้พร้อมอาการปวดข้อเท้า ผู้ชายชุดดำมากถึงสามนายก็ล้อมเธอไว้หมดแล้ว
“จะทำอะไรน่ะ?!” อารยาหน้าซีดเผือด “ช่วย...” หลุดปากออกมาได้คำเดียวเท่านั้น ชายร่างสูงใหญ่ดูน่ากลัวที่สุดในกลุ่มก็เข้ามาประชิดตัวแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูกของเธอไว้
อารยาไม่รู้ว่าผ้าเช็ดหน้านั้นมีอะไร แต่เธอก็ไม่สามารถขัดขืนได้ เรี่ยวแรงของเธอสู้กับชายตัวโตเหล่านี้ไม่ได้ เธอตั้งใจร้องขอความช่วยเหลือ แต่ใครสักคนก็เอาสก๊อตเทปปิดปากเธอเอาไว้ จากนั้นหนึ่งในสามก็อุ้มเธอพาดบ่าแล้วใช้ทางหนีไฟออกไปภายนอกอาคาร
“เรียบร้อยครับ” หนึ่งในสามซึ่งเป็นผู้ร้ายลักพาตัวรายงาน
“ดีมาก เอาตัวมาให้ฉัน”
อารยาได้ยินเสียงรายงานเป็นภาษาอารบิกแต่เสียงนั้นก็แผ่วเหลือเกิน เปลือกตาเริ่มหนักอึ่ง แล้วภาพสุดท้ายที่เธอเห็นก็คือ รอยยิ้มอย่างพึงพอใจของผู้ชายรูปหล่อมีดวงตาสีเขียวมรกตด้วยภาพกลับหัวจากจอภาพซึ่งใช้การติดต่อแบบคอนเฟเรนซ์ที่อยู่ในรถ จากนั้นภาพที่เห็นก็มืดลง
อาเรโซ่ซึ่งพักอยู่ที่คฤหาสน์และติดตามการทำงานของลูกน้องอย่างใกล้ชิดยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจเมื่อเขาชนะพนัน ใช่ เกมนี้เขาชนะ และเขาก็ได้ตัวสาวไทยที่สวยสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นมาครอบครอง…
