Ep.3 จุดเริ่มต้น เจ้าสาวของอสูรแห่งรัตติกาล (3)
เธอจะไม่ขอให้เขารักเธอหรอก เพราะสิ่งที่เธอทำกับเขานั้น มันไม่น่าให้อภัยเลย
เมื่อประมาณสองร้อยกว่าปีก่อน
ก่อนที่จะถึงคืนเดือนมืดเพียงหนึ่งคืน ทัณฑกาลจะต้องได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขาปรารถนาอยากจะแต่งงานด้วย เพื่อความปลอดภัยที่ยืนยาวในชีวิตของเขาเอง
แต่เขาดันไปตกหลุ่มเสน่ห์ของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ไม่รู้จักมักจี่มาก่อน นางหลงมาจากโลกไหนก็ไม่รู้ พลัดหลงเข้ามายังโลกของเขา พร้อมกับรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่ในคืนนั้น
อีกห้าราตรีจะถึงคืนเดือนมืด เขาจะต้องได้ทำพิธีแต่งงานกับสตรีที่เขาถูกตาต้องใจตั้งแต่แรกเห็น เพื่อถอนคำสาปนั้น ตามที่ท่านหมอดูฯได้ทำนายเอาไว้
แล้วค่ำคืนนั้น เขาก็พบกับเธอ ขณะที่เขากำลังออกป่าล่าสัตว์อย่างเพลิดเพลิน
เธอกำลังยืนงงในดงดอกเยอบีร่าหลากสีสัน เธอไม่รู้จะไปทิศทางไหน เธอกำลังหลงทางจากการหัดขับรถด้วยตนเอง
เธอไม่กล้าหัดขับรถเข้าไปในเมือง แต่เธอเลือกที่จะขับรถเข้าป่า ป่าที่ตอนเด็กๆเธอเคยไปหาเห็ดกับคุณตาคุณยาย แต่ทว่า ยิ่งขับลึกเข้าไป ทางที่เคยเข้าไปกลับเป็นทางตัน
พอขับไปอีกทางก็เจอทางสามแพ่ง แล้วพอเลี้ยวขวาที เลี้ยวซ้ายที สัญญาณจีพีเอสก็หายวับไป แล้วแบตเตอรี่ก็หมด แถมน้ำมันรถก็หมดด้วยนี่สิ เธอจึงเดินออกมาจากที่ยืนอยู่ เดินไปเรื่อยๆ หวังว่าจะเจอหมู่บ้าน
เธอเดินไปเรื่อยๆสุดท้ายก็กลับมาที่เดิมคือทุ่งดอกเยอบีร่า เธอไม่รู้ว่าใครมาปลูกเอาไว้ สุดท้ายเธอก็คิดที่จะรอคนที่มาปลูกดอกไม้ทิ้งเอาไว้ เธอหวังว่าไม่นานเจ้าของดอกไม้พวกก็อาจแวะมา
แต่คนที่มาเจอเธอไม่ใช่คนที่ปลูกดอกเยอบีร่า แต่เป็นเขา พรานหนุ่มผู้หล่อเหลา ผิวแทน ผมยาวระบ่า มีผ้าสีน้ำตาลคาดที่หน้าผาก เขาตัวโตมาก ดวงตาคมดุจดวงตาของพญาอินทรีย์ ริมฝีปากสีสดหยักได้รูป มีหนวดเคราเขียวครึ้ม และมีคิ้วดกดำดุจปีกกา เสื้อผ้าราวกับบุรุษในยุคโบราณ โบราณมากๆ
‘อย่าบอกนะว่าเขากำลังถ่ายทำละครอยู่ แล้วไหนล่ะทีมงาน ทำไมถึงเห็นเขาคล้องปล่องไม้ไผ่ใส่ลูกธนู และถือคันธนูอยู่ในมือเพียงลำพัง และเขากำลังมองตรงมาที่เธอ แล้วก็กำลังย่างก้าวเข้ามาใกล้เธอ
พราวดาราถอยหลังโดยอัตโนมัติ แต่เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วกว่ามาก เขาเคลื่อนกายมาถึงตัวเธอในพริบตาราวกับล่องหน แต่เธอสะดุ้งตกใจจนล้มลงกับพื้นหญ้า เขาก็นั่งยองๆมองหน้าเธอ
“ทำไมเจ้าแต่งตัวประหลาดนัก”
‘ก็ฉันอยากสวมชุดที่มันเหมาะกับการหัดขับรถนี่’
ชุดของเธอก็เป็นกางเกงยีนขาสั้น เสื้อยืดพอดีตัวสีขาว กับรองเท้าผ้าใบสีขาวหม่น แล้วก็มัดผมรวบเอาไว้
“แล้วผู้หญิงของเผ่าข้าเขามีแต่ปล่อยผม อวดผมยาวสลวยกันทั้งนั้น แล้วเจ้ามัดผมเอาไว้ทำไม ผมของเจ้าออกจะเงางาม”
แล้วเขาก็ดึงยางมัดผมของเธอออก แล้วผมยาวสลวยมีน้ำหนักที่เพิ่งไปยืดมาได้สองอาทิตย์ก็แผ่กระจายเต็มแผ่นหลัง
“งามมาก” พราวดาราตะลึงมอง เมื่อเขาจับผมของเธอไปดมฟอดใหญ่อย่างถือวิสาสะ แล้วยิ้มตาพราวพร้อมกับพูดว่า
“ข้าพบแล้ว ผู้หญิงที่ข้าจะแต่งงานด้วย เจ้าคือผู้หญิงคนนั้น ที่ข้าปรารถนาอยากจะใช้ชีวิตร่วมด้วย”
พราวดาราแทบช็อคที่ได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น
“เจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใครรึ ข้าจะได้บอกให้ท่านพ่อของข้าไปสู่ขอเจ้า”
“คือ...เอ่อ... คือว่า...คุณควรถามฉันก่อนไหม ว่าฉันจะแต่งงานกับคุณหรือเปล่า”
เขาส่ายหน้าแล้วตอบว่า
“ไม่ ไม่จำเป็นหรอก หากข้าปรารถนาในตัวเจ้า ข้าย่อมให้คนที่ข้าเคารพบูชาไปสู่ขอเจ้าได้ในทันที และพ่อแม่ของเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธพ่อกับแม่ของข้าและไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธข้าด้วย เพราะข้าเป็นลูกชายของเจ้าของหัวหน้าเผ่า”
“ห๋า แล้วคุณก็มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรฉันก็ได้งั้นเหรอ เผด็จการที่สุด ฉันไม่ตกลงหรอกนะ”
“ทำไมเจ้าต้องทำหน้าตกใจขนาดนี้ด้วย ข้าหน้าตาดีที่สุดในหมู่บ้านแล้วนะ ผู้หญิงที่เป็นสาวแล้วทั้งหมู่บ้าน ต่างก็ต้องการจะเป็นเจ้าสาวของข้ากันทั้งนั้น เจ้าควรจะดีใจสิถึงจะถูก ไม่ใช่รีบปฏิเสธข้าแบบนี้”
