1 “เออ...ก็แล้วแต่พรหมลิขิตเลย!”

...ทำใจให้สงบ...

...ทำจิตให้ว่าง...

ก่อนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามอง ไพ่ tarot หลังดำขอบทอง ที่เรียงกรีดเป็นครึ่งวงกลมเอาไว้ อยู่ตรงหน้า

สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนผ่อนออกช้าๆ

“ไพ่จ๋า...บอกทีเถิดว่า จะให้ไปต่อหรือพอแค่นี้” เธอกระซิบซ้ำอีกครั้ง ก่อนใช้เรียวนิ้วจากมือข้างซ้าย แตะต้องไปบนหลังไพ่ที่ดึงดูดใจที่สุด ทีละใบ

จนครบทั้งสิบ...

“ถ้าเราเป็นคู่กันจริงๆ ก็ให้ขึ้นว่าเป็นคู่ แต่ถ้าไม่ใช่...หรืออยากให้หยุดแค่นี้ ก็ขึ้นดาบมาให้หมดเลยนะคะ” พูดแบบนั้นซ้ำอีกครั้ง ในคราที่เรียงไพ่ไปแบบที่ร่ำเรียนมา

ใช่ เธอเรียนการดูไพ่ เพื่อที่จะเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ไม่เคยคิดที่จะไปดูดวงให้คนอื่น เพราะเชื่อเรื่องพวกนี้จนคิดว่าเมื่อมีปัญหาอะไร อย่างน้อยก็มีที่พึ่งทางใจเอาไว้พึ่งพา

แน่ล่ะ...ที่ผ่านมา เธอก็เชื่อและพึ่งพามาตลอด!

สุนทรี มาลัยร่วม ค่อยๆ เปิดไพ่ตำแหน่งที่หนึ่งขึ้นมา ซึ่งมันก็คือกงล้อแห่งโชคชะตา The wheel of fortune

หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย ก่อนพลิกตำแหน่งที่สองขึ้นมา

‘3 of swords’ ใจดวงน้อยก็หักวาบ ราวกับดาบนั้นได้ทิ่มลงไปในใจตน รีบเปิดตำแหน่งข้างๆ นั้นขึ้นมา ก็พบว่ายังเป็นใบเดิมกับที่เปิดในทุกครั้งที่ถามเรื่องนี้มา ซึ่งมันก็คือ

“The emperor อีกแล้วเหรอเนี่ย...” ไพ่ผู้ชายที่ใหญ่และดีที่สุดในสำรับ หมายถึงใครคนนั้น ที่เธอถามถึง

ไพ่ใบนี้หมายถึงผู้ชายที่เก่ง มากไปด้วยความสามารถ อีโก้สูง เย็นชา ไม่แสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาง่ายๆ

ใช่...เขาเป็นแบบนั้น แต่เธอเริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่า

เขาแค่ไม่ได้แสดงความรู้สึก หรือไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกันแน่!

คิดได้ดังนั้นก็รีบเปิดตำแหน่งที่ 5 ที่อยู่ถัดลงมา...เป็นตัวบอกพื้นฐานของเรื่องราวหรือฐานสำคัญของเรื่อง ที่เกิดในอดีตหรือภพชาติที่แล้ว หรือเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องทั้งหมดจะต้องดำเนินไป

‘2 of cups’ ใจหญิงสาวเต้นแรงขึ้น ก่อนถอนหายใจออกมา

“เหอะ เนื้อคู่อีกแล้วเหรอ...เนื้อคู่กันแล้วทำไมมันไม่ง่ายเลยล่ะ” เธอว่าพร้อมเหลือบมองไปยังไพ่ 3 ดาบ ที่บ่งบอกถึงความผิดหวัง

3 ดาบมันอยู่ในตำแหน่งที่เป็นสถานการณ์ต่างๆ ที่ยังไงเราก็ต้องเจออยู่เนืองๆ ซึ่งมันก็จริงตามนี้...เธอทราบดี แต่ไม่รู้ว่ามันจะต้องจบลงเมื่อไหร่

ยิ่งตัวสำคัญอย่างกงล้อแห่งโชคชะตา ที่หมายความว่ายังไงก็จะหนีไม่พ้น เพราะมันเป็นเหมือนกับพรหมลิขิต โชคชะตาได้กำหนดมา เธอยิ่งจะต้องถอนหายใจ และเปิดตำแหน่งถัดไป

ที่กำลังจะบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น...

‘The moon’ ภาวะแห่งความกังวล เหงา เศร้าและคิดถึง ซึ่งเธอก็ยอมรับอีกว่า มันเกิดขึ้นอย่างนั้นมาตลอด

ก่อนรีบเปิดตำแหน่งถัดไป ที่ขึ้นว่า

‘4 of swords’ สถานที่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนิ่งเฉยเอาไว้เท่านั้น และติดๆ กันคือ ‘10 of swords’

ที่บ่งบอกถึงการจบสิ้น อย่างสุดแสนจะเจ็บปวด

“ใช่...เจ็บแต่จบไง มันต้องเป็นแบบนั้น”

แต่พอเธอเปิดขึ้นไปอีกใบ กลับขึ้นว่า ‘The Lovers’ มันคือความรักและความปรารถนา ที่มีต่อกันอย่างสุดซึ้ง เป็นเหมือนแรงดึงดูด ที่ยังไงก็มิอาจตัดขาดหรือพรากไปจากกันได้

หญิงสาวส่ายหน้า พร้อมเปิดอีกสองใบสุดท้าย ที่บอกว่าท้ายที่สุดของเรื่องนี้ มันจะคืออะไร...

ตำแหน่งที่ 6 อนาคต : 10 of cups

ตำแหน่งที่ 10 : 3 of cups

“แต่งงานอยู่เป็นครอบเป็นครัวเลยเหรอ?” แล้วลมหายใจเฮือกใหญ่ ก็ได้เคลื่อนผ่าน ปลายจมูกโด่งรั้นเป็นสันเล็กๆ แต่พองาม

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก ที่ผลการทำนายออกมาเป็นแบบนี้

และเพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกนี่แหละ...ที่ทำให้เธอ ‘อดทน’ อยู่กับความสัมพันธ์นี้ มาตลอดเวลาเกือบจะ 6 เดือนได้

เขา...ตรงสเปคเธอทุกอย่างเลย

เขา...เข้ามาหลังจากที่เธอไป ‘มูเตลู’ กับพระแม่ลักษมี

เขา...ตรงกับทุกความต้องการ

แต่...กลับไม่ได้ชัดเจนพอว่า เป็นอะไรกันและต้องการเธอแค่ไหน และพอมาดูไพ่ ไพ่ก็บอกว่าใช่ แต่เธอกลับไม่ได้มีความสุขอย่างจริงจัง

แรกๆ มันก็เหมือนจะดีนะ แม้จะดีไม่สุดเท่าไหร่

แต่เพราะว่ามันคือช่วงเริ่มต้น เธอก็เลยพยายามอดทนและเชื่อว่าเวลามันน่าจะทำให้เขารู้สึกกับตัวเองมากขึ้น...

เธอดูดวงตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน ไพ่บอกว่าเขาคือ ‘เนื้อคู่’ และก็ยังดูมาจนถึงปัจจุบัน

และไพ่ก็ ‘ยืนยัน’ แบบนั้นอยู่ดี

จนเธอต้องไปหาดูกับแม่หมอคนอื่นๆ หลายต่อหลายคน ซึ่งก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘เขาคือพรหมลิขิตของคุณ...พรหมลิขิต ได้ลิขิตมาแล้วว่า เขาคือคนนั้น คนที่ยังไงก็ต้องเป็นคู่กัน’

ทั้งๆ ที่เธอไม่เห็นหนทางที่มันจะเป็นแบบนั้นได้เลย

“ออราเคิล นางฟ้าผู้ใจดี...ช่วยบอกเราเพิ่มเติมอีก 3 ใบหน่อยเถิดว่า เราควรจะต้องทำยังไงในความสัมพันธ์นี้ต่อไป Tarot ก็บอกนะว่ามันต้องจบก่อน แต่จบแล้วปลายทางก็ต้องไปเจอกันอยู่ดี จะจบเพื่ออะไร...เสียเวลามั้ยอ่ะ ถ้ามันจะใช่ก็ทำไมไม่ให้ใช่ไปเลย” เธอว่าทำนองบ่นยืดยาว ก่อนสับไพ่ความรักออราเคิล ที่มักจะใช้ดูเสริมจาก Tarot อีกที

ใบที่ 1 ‘Soul mate’

ใบที่ 2 ‘Separation’

ใบที่ 3 ‘Wedding’

ออราเคิลก็บอกในทำนองเดียวกัน เป็นเนื้อคู่ แต่ต้องแยกจาก แล้วก็กลับมาลงเอยด้วยการแต่งงาน

“โห พูดเหมือนกันอีกละ” หญิงสาวหน้างอเข้า ไม่ใช่ไม่เชื่อหรือลบหลู่ต่อพลังอำนาจของไพ่แต่อย่างใด

แต่เธอแค่ไม่ชอบอะไรแบบนี้ ไม่ชอบการวนกลับของอะไรสักอย่าง เพราะความรู้สึกของเธอนั้นมีค่า...ยามรักก็คือรัก ยามเลิกก็คือเลิก เลิกแล้วเลิกเลย

ไม่มีทางที่จะกลับมารักได้อีก!

ว่าแล้วก็เหลือบไปมองช่องข้อความของใครคนหนึ่งที่เงียบหายกันไปได้สามวัน

เป็นสามวันที่มากเกินไปสำหรับเธอ พอเธอหยุดที่จะส่งข้อความไป เขาก็ไม่เคยที่จะส่งมาก่อน เวลาที่เธอส่งไปเขาก็อ่านช้า อ่านไม่ตอบบ้างล่ะ

ตอบนิดเดียวบ้างล่ะ จนเธอรู้สึกว่าไม่ส่งไปยังจะดีซะกว่า

อยากจะ move on แต่พอมาดูไพ่ มันก็ไม่ได้...พอถามเขาออกไปตรงๆ เขาก็บอกว่าคิดมาก เขาแค่มีสิ่งที่ต้องทำ มีสิ่งที่สำคัญจะต้องจดจ่อ

ตำแหน่งหน้าที่การงานของเขา มันก็ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้น แต่แค่บอกว่าทำงานคำเดียวในแต่ละวัน เขาก็ไม่เคยจะทำให้

“แล้วเราจะทนอยู่ไป เพียงเพราะพรหมลิขิตเป็นคนกำหนดมา ว่าคือเนื้อคู่แค่นั้นน่ะเหรอ?” สุนทรีหันไปมองที่กระจกบานเล็กบนโต๊ะกว้างแห่งนี้ เธอใช้เอาไว้ทำนั่นนี่ ทั้งทำงาน เปิดไพ่และแม้แต่รับประทานอาหาร

เงากระจกสะท้อนใบหน้าโทรม ซีดเซียว ขอบตาดำคล้ำ ราวกับว่านอนไม่หลับติดกันมาหลายคืน แววตาใสเต็มไปด้วยความว้าวุ่น จนเธอต้องสะดุด

“นี่เราปล่อยให้ตัวเองโทรมขนาดนี้เลยเหรอ?”

ผู้หญิงรักสวยรักงามและดูแลตัวเองดีมาตลอดอย่างเธอ ละเลยตัวเองมาได้ขนาดนี้...ตั้งแต่ที่มีเขาเข้ามา

“ถ้ามีแล้วมันไม่ได้ดีกว่าอยู่คนเดียว แล้วจะมีไปเพื่ออะไรวะ?” เธอส่ายหน้า รู้สึกบรรลุอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ง่ายๆ

แต่พรหมลิขิตบอกว่าคนนี้คือเนื้อคู่ แสดงว่าคู่กันแล้ว...ก็ต้องไม่แคล้วกันอยู่ดี?

เสียงในหัวทักท้วงออกมาแบบนั้น จนเธอต้องรีบถอนหายใจและสะบัดศีรษะตัวเองไปมา

“เออ...ก็แล้วแต่พรหมลิขิตเลย!”