ตอนที่ 1 บทนำ
ที่ขอบฟ้าเริ่มมีแสงเรืองรองของอาทิตย์ส่อง ขับไล่ความมืดแห่งราตรีกาลที่ยังทิ้งรอยไว้ในแสงสีเทาหม่น บนท้องฟ้าฝูงนกโผบินบินกลุ่มใหญ่
มองไปดังใครเอาผ้าสีเข้มมาโบกสะบัดบนท้องฟ้า ลมหนาวยามอรุณรุ่งพัดมาต้องผิวเหล่าบรรดาคนที่กำลังวุ่นอยู่ในครัว
“ข้าวน่ะสุกหรือยัง เดี๋ยวพระก็บิณฑบาตช้าไปหรอก”
หญิงสูงวัยผมสีดอกเลาเร่งฝีเท้าเข้ามาในห้อง ละอองไอจากเครื่องปรุงรสในกระทะที่กำลังผัดผักส่งกลิ่นคลุ้ง
“เสร็จแล้วค่ะ”
คนกำลังเฝ้าหม้อหุงข้าวอย่างใจจดใจจ่อบอก
“กับข้าวเสร็จหมดแล้วนะคะ”
อีกหนึ่งที่ผัดผักในกระทะเรียบบอก
“ดี...เร็วเลย รีบจัดใส่ถุง ข้าวน่ะเอาใส่โถ เตรียมถาด ยกไปหน้าบ้าน คุณนิ่มรอนานแล้ว”
ในครัวรีบเร่งทำตามคำสั่งในทันใด ขบวนคนขนของไปจนถึงบ้าน ประตูรั้วเหล็กเปิดไว้อยู่แล้ว ร่างหญิงมีอายุนั่งอยู่บนเก้าอี้พับ บนศีรษะมีผมดำแซมเส้นขาว ไหล่งุ้ม หลังงอ ใบหน้าไม่ต้องเดาได้เลย เต็มไปด้วยความทนทุกข์ ไร้สุข
“พระมาแล้วค่ะ คุณนิ่ม”
เมื่อผู้ทรงศีลหลายรูปเดินใกล้เข้ามา หญิงสาวผู้ยืนอยู่ข้างเก้าอี้กระซิบบอก มือผิวสีน้ำผึ้งจับมือย่นขาวนวล ประคองช่วยนำของใส่บาตร พระท่านให้ศีลให้พร ทั้งสองพนมมือเหนือหัว
ตาที่โรยราตามอายุมองตาหลังจีวรสีส้มอยู่นาน ไม่มีใครพูดอะไร ต่างปล่อยให้หญิงผู้เป็นเจ้านายของบ้านนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น กระทั่งเจ้าตัวถอนหายใจยาวออกมาเอง
“ตาเหนือล่ะ”
หญิงที่นำขบวนคนรับใช้มาเหลือบมองหญิงสาว
“ยังอยู่บนห้องค่ะ”
เธอฝืนยิ้ม
“กินเหล้าทั้งคืนอีกล่ะสิ”
ไม่มีใครแก้ตัวให้ข้อสันนิษฐานนี้เลย
“ฉันได้ยินเสียงอาละวาดเมื่อคืน”
คนรับใช้มองตากันเลิ่กลั่ก ก่อนส่งกลับมาทางหญิงสาวเพื่อขอความช่วยเหลือ
“คุณเหนือแค่เรียกใช้คนอื่นเสียงดังเท่านั้นเองค่ะคุณนิ่ม ไม่มีใครเป็นอะไรทั้งนั้น”
คุณนิ่มหรือสุดถนอมมองค้อน
“ฉันเลี้ยงหลานมาเอง ฉันรู้นิสัยตาเหนือดี อย่ามากลบเกลื่อนให้มันเลยแอ้ม”
เกิดความเงียบไปทั่วบริเวณ ดูเหมือนบุญที่เพิ่งทำเมื่อสักครู่จะยังไม่มาถึง ทุกคนในที่นี้รู้สึกร้อนเหมือนอยู่ในนรก
“บอกมา ใครเป็นอะไรล่ะทีนี้”
แอ้มผู้มีชื่อจริงตามบัตรประชาชนว่าณิชาฝืนยิ้มอีกครั้ง
“พี่เกริกค่ะ โดนจานกับแกล้มเฉียดนิดหน่อย...หัวโน” สุดถนอมมองเธอนิ่ง แล้วในตาก็รื้นไปด้วยน้ำตา
“หนูให้พี่เกริกไปโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ ผลสแกนสมองไม่เป็นอะไร”
ณิชาทำงานได้ดี รู้ว่าสุดถนอมกังวลอะไร
“ขอบใจ”
ตั้งแต่เกิดเรื่องกับหลานชาย สุดถนอมรู้จักใช้คำว่าขอบใจ บ่อยขึ้น ทำอย่างไรได้เล่า คนรอบกายนางเหลือน้อยลงทุกที ที่ระริกระรี้อยากมาหาก็จะแอบมาสืบข่าวไปเม้าท์ทั้งนั้น หายนะของคนอื่นเป็นอาหารรสเด็ดนักในสังคมไฮโซจอมปลอม
“ฉันกลัวว่าสักวันหนึ่งตาเหนือจะฆ่าคนตาย”
สุดถนอมรำพึงด้วยใจอันสั่นไหว ณิชาอมยิ้มชืด
“หนูว่าคุณเหนือจะตายเพราะกินเหล้ามากกว่าค่ะ”
ด้วยเก็บมาเลี้ยงกันนาน ณิชาจึงทั้งรักและเคารพสุดถนอมเหมือนญาติผู้ใหญ่ เกรงใจ แต่เธอไม่คิดเอ่ยคำหวานออดอ้อน บางครั้งเห็นอย่างไรก็บอกแบบนั้น
“นั่นนะสิ...ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วแอ้ม”
ร่างสุดถนอมโงนเงน ยืนไม่รู้ บรรดาคนรับใช้ต้องรีบมาพยุง ประคับประคองกันเข้าบ้านไป
อาหารที่ควรจะเป็น “อาหาร” จริง ๆ กลับเป็นยาหอม สุดถนอมนอนโอนไปบนโซฟาหลุยส์ มีข้าทาสบริวารคอยพัดวี
“แอ้ม! เอ็งนี่บอกไม่ดีจริง ๆ พูดอะไรแย่ ๆ ทำคุณนิ่มเสียใจ”
สมรข้าเก่าเต่าเลี้ยงของสุดถนอมติณิชาเสียงดัง นางเป็นไม้เบื่อไม้เมากับณิชานัก ด้วยกลัวเธอจะทำตัวเสมอคุณท่านทั้งหลายที่นางรับใช้อยู่
“แย่จริงเชียว”
“หนูขอโทษค่ะ”
ณิชาไม่มองสมร เพราะรู้อย่างไรเจ้าตัวก็ไม่มองเธอในแง่ดีอยู่แล้ว แต่เธอขอโทษสุดถนอมจากใจจริง
“อย่าไปดุแอ้มเลยสมร ฉันก็กลัวตาเหนือตายเพราะกินแต่เหล้าเหมือนกัน”
สมรฮึดฮัดที่ครั้งนี้แพ้เด็กเมื่อวานซืน ก่อนที่นางจะหาเรื่องมาเหน็บเด็กที่ไม่ชอบหน้า เสียงห้าวก็ดังลั่นมาจากด้านบน
“เฮ้ย! มีใครอยู่บ้างวะ ไปตายกันหมดแล้วหรือยังไง” เหล่าคนรับใช้สะดุ้ง เหลือบตาไปทางด้านที่มาของเสียง
“เฮ้ย!”
มันยังดังอย่างต่อเนื่อง ที่นั่งกันอยู่ในห้องนั่งเล่นนี้มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น นายเกริกณิชาให้พักงานเป็นกรณีพิเศษหนึ่งวัน ที่ยังเหลือผู้ชายก็มีคนสวนแก่ ๆ มีหลานเรียนมัธยม วันธรรมดาอย่างนี้เด็กไปเรียน
อีกคนก็เป็นคนขับรถวัยกลางคน นั่น...เคยโดนคนข้างบนผลักหลังติดกำแพงจนยอกมาแล้ว
“เฮ้ย! กูอยู่บ้านผีสิงเหรอ หายหัวกันไปไหนหมดวะ”
เกิดอาการสะดุ้งรอบวงอีกรอบ จนทุกสายตามองมาที่ณิชา ไม่เว้นแม้แต่สมร ทุกคนส่งสายตาว่าให้เธอทำอะไรสักอย่างสิ
“หนูจะไปดูคุณเหนือเองค่ะ”
ณิชาพรูลมหายใจออก เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นทุกอย่างของบ้านนี้
เป็นเด็กในอุปการะของสุดถนอม
เป็นคนรับใช้
เป็นคนให้สมรจิกกัดโขกสับ
และเป็นกระโถนท้องพระโรงให้เจ้าของเสียงที่ชั้นบนระบาย
“ให้คนอื่นไปด้วยสิ ผู้หญิงผู้ชายอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องหับมันไม่งาม”
...นั่นไง คนคิดอกุศลยังไงก็คิดอกุศล
“งั้นป้าสมรจะไปกับหนูหรือเปล่าละคะ”
ณิชาเลิกคิ้ว นางมองแล้วค้อน
“เพล้ง... ”
เสียงอะไรสักอย่างข้างบนแตก สาวน้อยสาวใหญ่พากันผวาเฮือก
“ไปเถอะแอ้ม ฝากดูตาเหนือด้วย ให้มันได้กินข้าว ได้เป็นผู้เป็นคนกับเขาสักที”
สุดถนอมสูดยาดมเฮือกใหญ่ สมรเม้มปากไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ร่างโปร่งเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของบ้าน มุ่งสู่ห้องริมสุดปีกซ้าย ประตูห้องไม้สักตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า สลักลายเถาวัลย์พันเกลียวต้นไม้อ่อนช้อย
แต่เธอรู้ว่าเจ้าของห้องนั้นนิสัยตรงกันข้าม เมื่อเปิดประตูเข้า ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศก็ปะทะผิวกายทันที
เขาชื่อเล่นเหนือ...เหนือสมชื่อจริง ๆ หมายถึงความชอบอากาศหนาวน่ะนะ เปิดแอร์ราวกับอยู่ขั้วโลกเหนือ
ตากลมกวาดดูบนเพดาน เช็ก! ยังดีอยู่ ไม่เลอะ ไม่บุบสลาย
ผ้าม่าน เช็ก! มีคราบเหล้ารดเป็นทางยาว เดี๋ยวค่อยเรียกช่างมาซัก
พื้น เช็ก! เละ ทั้งคราบน้ำสีอำพัน คราบกับแกล้ม จานแตก แก้วแตก
“เธอขึ้นมาทำไม!”
คุณเหนือ เช็ก! ยังไม่ตาย ทรงผมเผ้า หนวดเครารุงรังเหมือนเก่า นั่งถอดเสื้อสวมแต่กางเกงนอนบนเตียง ตาแดงก่ำจากฤทธิ์สุรามองเธอไม่เป็นมิตรเหมือนเคย
“ก็คุณเหนือเรียกหาคนให้ขึ้นมานี่คะ”
ณิชาไม่นอบน้อม อ่อนใจเสียด้วยซ้ำ
“ฉันหมายถึงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ”
เสียงทุ้มที่เจือแหบด้วยร่ำสุรามานานตะโกน
“คนอื่นคุณก็ทำร้ายเขา ที่เหลือก็กลัวคุณกันหมด หรือจะให้ฉันเรียกป้าสมรมาคะ”
ดวงตายาวรีภายใต้ผมไม่เป็นทรงมีประกายวาวโรจน์
“หน้าไม่อายนะเธอน่ะ เข้าห้องผู้ชายมาคนเดียว คิดจะจับฉันตอนอ่อนแอละสิ ผู้หญิงชั้นต่ำ”
ณิชาเม้มปาก สงสัยว่าเหล้าจะไม่เป็นเพียงน้ำเปลี่ยนนิสัย แต่อาจเป็นน้ำเผยความจริงในใจด้วย นี่สินะ คือสิ่งที่เขาคิดกับเธอ
“ถึงฉันต่ำแต่ก็เลือกค่ะ อย่างคุณเอาด้วยไปก็ไม่สนุก”
เธอจงใจใช้คำอีกระดับตามเขาด่า คนนั่งบนเตียงขบกรามแน่น
“ป้านิ่มเลี้ยงงูพิษคิดจะปีนเตียงฉันอย่างเธอไว้ได้ยังไงนะฮึ! ”
“ก็เลี้ยงไว้เก็บเศษซากรก ๆ ที่คุณทำไว้ยังไงคะ”
ณิชาประมวลผลในหัวว่าตนเองต้องเริ่มทำความสะอาดจากจุดไหนดี บนเตียงก็...เฮ้อ เละเทะเสียไม่มี ผู้ปูที่นอนยับยู่ยี่
“ฉันจะให้ป้านิ่มไล่เธอออก”
“ให้ตัวคุณยืนได้โดยไม่ล้มก่อนเถอะค่ะ ค่อยก้าวเท้าออกไปข้างนอก”
“เธอ!”
คนเจ้าอารมณ์ลุกพรวดจากเตียง ณิชาสะดุ้งก่อนอ้าปากค้าง เมื่อร่างนั้นล้มเค้เก้ลงบนพื้นเสียงดังตึง
“ว๊าย! ใครก็ได้มาช่วยดูคุณเหนือหน่อยค่ะ คุณเหนือล้ม อย่าขยับตัวนะคะ บนพื้นมีแต่เศษแก้ว”
เธอยกมือปางห้ามญาติ เมื่อคนตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุราไม่ยอมแพ้ ขยับตัวฮึดฮัด เศษแก้วห่างปลายเท้าไปอีกนิดเท่านั้น
“ยัยตัวดี...ยัยตัวซวย เพราะเธอแท้ ๆ ถ้าเธอไม่รักฉัน ฟ้าคงไม่ทิ้งฉันไป”
ฉึก! เท้าขาวปักลงบนเศษแก้วเสียแล้ว
“โอ๊ย! เธอเข้ามาทำร้าย เธอจะฆ่าฉัน”
คนนอนพื้นยิ่งโวยวาย เหลือดไหลซึมเปื้อนพื้นกันเลยละทีนี้ ณิชายกมือขึ้นกุมศีรษะ ท่ามกลางเสียงฝีเท้าอยู่คนที่ใกล้เข้ามา
...ก็บอกแล้ว ณิชาเป็นทุกอย่างในบ้านหลังนี้ โดยเฉพาะเป็นคนที่แอบรักหลานชายเจ้านาย
และเป็นกระโถนท้องพระโรงให้เขาระบาย ยามรักไม่สมหวังด้วย
