13. ชิ...คนเลว
“เอาล่ะเรามาเริ่ม..การหารือเกี่ยวกับการจัดงานวันชาติกันดีกว่านะ เริ่มจากท่านแกรนด์ดยุคก่อนเป็นไง ท่านมีข้อเสนอแนะอะไรที่ต้องการเป็นพิเศษรึเปล่า”
ไมเนอร์ที่กำลังมองสบตากับจานีคพลันสะดุ้ง เมื่อชื่อของเขามันถูกกล่าวออกมาจากริมฝีปากของท่านคาดินัน แต่ไหนแต่ไร ท่านคาดินันผู้นั้นไม่เคยสนใจเขาเลย ทว่าในยามนี้กลับเอ่ยชื่อเขาและเอ่ยถามความเห็นจากเขาเนี่ยนะ?
ช่างน่าตลกยิ่งนัก
ไมเนอร์ขยับท่าทางให้ดี ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้กับทุกคนด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแฝดกันแต่มาไคเป็นพวกพูดไม่เก่ง ตรงข้ามกับไมเนอร์อย่างสิ้นเชิง
“เรื่องนั้นข้าเห็นดีเห็นงามด้วยกับทางวิหารอยู่แล้วครับ และองค์รัชทายาทเองก็คิดเช่นเดียวกัน แต่ข้าอยากจะเสนอให้ท่านนักบุญหญิง อยู่ในขบวนรถม้าที่จะวิ่งไปตามท้องถนนหนทางเพื่อให้ชาวบ้านหรือว่าชาวเมืองได้ยลโฉมสตรีที่เป็นเทพธิดาของพระเจ้า..”
จานีควางคางของเธอลงบนขาของไมเนอร์ เพราะใต้โต๊ะนี่มันไม่ได้กว้างอะไรเลย อีกทั้ง..ในร่างกายของเธอยังมีแท่งมหัศจรรย์นั่นที่กำลังกวนสมาธิของเธออยู่
เขาต้องการอะไรกันแน่..ถึงได้เสนอไปแบบนั้น หรือต้องการให้นักบุญหญิงอย่างเธอมีอำนาจขึ้นมาบ้าง..เธอไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลยสักนิดเดียว
“เรื่องนั้นย่อมได้อยู่แล้วแกรนด์ดยุค ข้าคิดเอาไว้แล้วว่าจะให้นักบุญหญิงของเราขึ้นรถม้าคันเดียวกันกับข้าและพานางนั่งรถม้าของวิหารเพื่อให้ชาวบ้านได้ยลโฉม..”
“แล้วตอนนี้นางอยู่ที่ใดกับท่านคาดินัน นักบุญหญิงที่พึ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่”
เคาน์ดาโกแบทเอ่ยถามออกมาด้วยรอยยิ้ม วันพิธีสถาปนานักบุญหญิงเขาไม่ได้มาที่นี่ ก็เพราะวันนี้มีโสเภณีคนใหม่มาที่ซ่องทีน่า เขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไปตรวจตราความเรียบร้อยและเช็คของใหม่ด้วย..
ไร้มารยาท!
ฟลินมองไปที่ท่านเคาน์ดาโกแบทที่กล้าเอ่ยออกมาเพื่อขัดท่านคาดินัน ท่านผู้สูงส่งของเขายังไม่ทันจะพูดจบเลยหมอนี่ก็กล้าพูดแทรกออกมา ช่างไร้อารยธรรมเสียจริง
แซลัสยังคงยิ้มแย้มด้วยความเมตตาและอารมณ์ดี
“ในวันพิธีสถาปนาท่านเคาน์มิได้มา เช่นนั้นก็นับว่าท่านพลาดช่วงเวลาดีๆ ไปแล้วนะครับ..”
สิ้นเสียงของแซลัส เคาน์ดาโกแบทก็จิ๊ปากอย่างเสียดาย
“น่าเสียดายเหลือเกินนะครับที่ข้าพลาดช่วงเวลาดีๆ เช่นนั้นไป แล้ววันนี้ทำไมท่านนักบุญหญิงถึงไม่มาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ล่ะครับ..นี่คือการประชุมเพื่อหารือเรื่องการจัดงานวันชาติ เป็นขอบเขตการดูแลของท่านนักบุญหญิงด้วย..การที่นางไม่มาที่นี่เพราะนางมาไม่ได้หรือว่าเพราะท่านไม่ให้นางมา..”
“อย่ากล่าวคำให้ร้ายท่านคาดินันนะครับท่านเคาน์! หากมิได้รู้ซึ้งถึงความจริงก็ไม่ควรจะกล่าวออกมาเพื่อทำให้ชื่อเสียงของท่านคาดินันเสียหาย”
ฟลินอดไม่ได้ที่จะขัดขวางคำพูดลอยๆ ของท่านเคาน์
จานีคกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากของตัวเอง ขนาดเธอกำลังนั่งอยู่ใต้โต๊ะนี่ยังสัมผัสได้ถึงความกดดันที่มีอยู่ในห้องประชุมนี้เลย พวกเขากำลังเอ่ยชื่อฉันบนหัวข้อของการสนทนา แล้วดันมาเถียงกันเรื่องฉันอีกต่างหาก
ไมเนอร์ลดสายตามองลงมาที่ด้านล่างของโต๊ะ เขาไม่รู้ว่าที่ใบหน้าของนักบุญหญิงจานีคมันแดงเช่นนั้นเพราะอากาศใต้โต๊ะมันร้อนหรือว่าเพราะอย่างอื่นกันแน่ แต่การที่เธอกำลังนั่งแล้วเอาคางมาเกยที่ต้นขาของเขาเช่นนั้นมันอันตรายมากทีเดียว
อีกทั้งเขายังต้องช่วยเธอปิดบังเรื่องที่เธออยู่ที่นี่อีกต่างหาก เพราะเราจำเป็นต้องใช้ชื่อเสียงอันดีงานของท่านนักบุญหญิง..ฉะนั้นแล้วไม่ควรอย่างยิ่งที่จานีคจะมีข่าวเสียหาย
คาดินันแซลัสเบนสายตามามองที่ใบหน้าของเขา และการจ้องมองนั้นราวกับจะเชือดเขาให้ตายตรงนั้น มันทั้งแข็งกร้าวและแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความไม่พอใจ
สายตานั้นเองทำให้ไมเนอร์..เข้าใจ
ว่าการที่นักบุญจานีคนั่งอยู่ใต้โต๊ะของเขานั้นที่จริงแล้ว คาดินันต้องการให้นางนั่งอยู่ใต้โต๊ะของตนเองมากกว่า..นี่หมอนั่นคิดจะทำเรื่องสกปรกกับท่านนักบุญหญิงจริงๆ ..!!
ไมเนอร์สะดุ้งเฮือกเมื่อมือของจานีคเลื่อนไล้ไปแตะลงบนจุดที่สูงมากกว่าหน้าขา เธอกำลังเอียงหน้าออกมาเพื่อที่จะฟังให้ชัดหรือว่าจะหายใจให้ถนัดอะไรสักอย่างนี่แหละ แต่การกระทำเช่นนั้นมันทำให้แก้มที่ขึ้นสีกุหลาบแนบลงไปบน..ส่วนนั้นของเขา
“เรื่องนั้น..มันมิใช่เจตนาของข้าเลยท่านเคาน์ นักบุญหญิงจานีคกำลังป่วย..นางไม่สบายหลายวันมากทีเดียว วันนี้นางยังไม่หายไข้ ด้วยเหตุนั้นเราทุกคนจึงไม่เห็นนางที่นี่ มิใช่ความต้องการของข้าสักหน่อยที่ไม่ให้นางมา..ท่านกล่าวได้ผิดแล้ว..หากไม่เชื่อก็ลองถามแกรนด์ดยุคดูสิ”
คำกล่าวเดียวแต่ทำเอาชะงักทั้งสองคน ทั้งจานีคและไมเนอร์รู้สึกว่าคาดินันกำลังทำให้ไมเนอร์ตกเป็นเป้าของสายตา
“ใช่แล้วครับทุกท่าน ข้ามาอยู่ที่นี่ได้หลายวันแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะมาเยี่ยมเยียนน้องชายและอีกส่วนเพื่อมาติดต่อเรื่องพิธีวันชาติ ทำให้ข้าต้องพักอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราวจนกว่างานวันชาติจะเสร็จสิ้น แล้วในช่วงเวลาที่ข้าอยู่ที่นี่เพราะน้องชายของข้าคืออัศวินของท่านนักบุญหญิงนั่นทำให้ข้าล่วงรู้ว่าท่านนักบุญจานีคกำลังป่วย..เรื่องที่ท่านคาดินันกล่าวออกมานั้นถูกต้องทุกคำ ข้าเป็นพยานให้ได้เลยครับ”
คนเรามีความถนัดไม่เหมือนกันอย่างที่มาไคบอกเธอเอาไว้จริงๆ ด้วยสิ เขาบอกกล่าวว่าไมเนอร์นั้นมีทักษะการเจรจาที่อยู่ในขั้นดีมาก การที่คนมากความสามารถเช่นนี้เป็นแกรนด์ดยุคจะทำให้แกรนด์ดัชชีและราชวงศ์มั่นคง
ว่าแต่เธอรู้สึกโกรธท่านคาดินันอีกครั้ง แค่ได้ยินเสียงก็รู้ในทันทีว่าเขากำลังทำหน้าแบบไหนในตอนนี้เขาโบ้ยมาให้ถามท่านไมเนอร์ คงกำลังทำหน้าแบบที่นึกสนุกอยู่อย่างนั้นสินะ
ชิ! คนเลว
จานีคกำลังก่นด่าคาดินันแซลัสในใจจนแก้มของเธอขยับไปโดนบางอย่างที่มัน..แข็งและร้อนภายใต้กางเกงของท่านแกรนด์ดยุค
ให้ตายสิเกมบ้านี่ทำให้เธอเห็นบั้งไฟติดๆ กันจนตาเธอจะเป็นกุ้งยิงอยู่แล้วนะ
มือของไมเนอร์รีบยกมากุมส่วนนั้นของเขาเอาไว้ในทันทีที่เขารู้ว่าเธอเห็นถึงความผิดปกติของร่างกายเขาแล้ว
บอกตามตรงว่าเขาไม่เคยเห็นใครงดงามเช่นท่านนักบุญหญิงมาก่อน แต่ทว่าเขาคิดว่าเธอขาดเสน่ห์หรือว่าขาดการตรึงตาตรึงใจไปหน่อย เขาจึงคิดว่าสตรีผู้นี้คงมีดีแต่ความสวยเท่านั้น
แต่จากที่เห็นแววตาคู่นั้นทอประกายความโกรธในช่วงเวลาที่คาดินันแซลัสกล่าวออกมา ทำให้เขาเห็นถึงนักสู้ที่อยู่ในร่างกายของสตรีตัวเล็กๆ นี่ อีกทั้งกลิ่นวนิลา..ที่หวานราวกับขนมทำให้เขาอยากจะสูดดมมันใกล้ๆ มากกว่านี้
ส่วนเรื่องปฏิกิริยาของร่างกาย ไมเนอร์คิดว่ามันเป็นเรื่องปกตินะ..
