บทที่ 1: การกลับมาของนางพญา
เสียงเคาะปากกาแบรนด์หรูลงบนโต๊ะกระจกราคาแพงดังขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่กลับมีอานุภาพพอที่จะทำให้ห้องประชุมขนาดใหญ่ที่บรรจุผู้บริหารระดับสูงกว่าสิบชีวิตต้องเงียบกริบลงในทันที
ทุกสายตาจับจ้องไปยังร่างสง่าของประธานหญิงแห่ง V-Crown Corporation ที่นั่งอยู่ ณ หัวโต๊ะ
"อารยา วงศ์วริศ" ในวัย 35 ปี คือนิยามของคำว่าอำนาจที่สมบูรณ์แบบ ชุดสูทสีขาวสั่งตัดจากห้องเสื้อชื่อดังโอบรัดเรือนร่างอรชรที่ซ่อนความลับอันน่าทึ่งเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน ใบหน้าที่งดงามราวกับรูปสลักซึ่งถูกศัลยกรรมขึ้นใหม่นั้นเรียบเฉยไร้อารมณ์ แต่ดวงตาคมกริบคู่สวยกลับทอประกายแห่งความเฉียบขาดและสติปัญญาที่ไม่มีใครกล้าสบตาสู้
"ดิฉันต้องการคำอธิบายค่ะ ว่าทำไมโปรเจกต์
'The Celestial River' ของเรา ถึงถูกบริษัท
'ไทยธนากิจ' ปาดหน้าแย่งที่ดินแปลงสำคัญไปได้ ทั้งที่เรายื่นข้อเสนอที่สูงกว่า" น้ำเสียงของเธอราบเรียบแต่แฝงไปด้วยแรงกดดันมหาศาล
เหล่าผู้บริหารต่างก้มหน้า ไม่มีใครกล้าตอบคำถามนั้น มีเพียง "เพียงขวัญ" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) และเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวของอารยา ที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ข้างกายเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นกัน แต่แววตาของเธอกลับฉายความกังวลออกมาวูบหนึ่ง
"เป็นฝีมือของนายวิชัยครับคุณอารยา" หนึ่งในผู้บริหารรวบรวมความกล้าตอบขึ้น "เขาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อที่ดินของไทยธนากิจ ได้ข่าวว่าเป็นจอมละโมบและมีวิธีสกปรกในการเจรจากับเจ้าของที่ดินโดยตรงครับ"
"วิชัย..." อารยาพึมพำชื่อนั้นเบาๆ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่อ่านความหมายไม่ออก
"ดีค่ะ...ขอบคุณสำหรับข้อมูล" เธอกล่าวปิดท้าย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเป็นสัญญาณว่าการประชุมที่น่าอึดอัดนี้ได้จบลงแล้ว
เมื่อเหล่าผู้บริหารทยอยเดินออกจากห้องไปจนหมด เหลือเพียงอารยาและเพียงขวัญตามลำพังในห้องประชุมที่โอ่อ่า เพียงขวัญจึงหันมาหาเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
"อาย...เธอคิดจะทำอะไร" เพียงขวัญเรียกชื่อเล่นที่พวกเธอใช้กันเพียงสองคน
อารยาเดินไปหยุดยืนริมกระจกบานใหญ่ มองลงไปยังทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ เบื้องล่าง "ก็ทำในสิ่งที่ต้องทำไงเพียง...สั่งสอนพวกที่คิดจะมาลองดีกับ V-Crown"
"ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องธุรกิจ แต่สายตาของเธอเมื่อกี้...มันมีอะไรมากกว่านั้น" เพียงขวัญรู้จักเพื่อนของเธอดีกว่าใคร เธอมองเห็นเปลวไฟแห่งอดีตที่ลุกโชนขึ้นมาในดวงตาคู่นั้น โลโก้ของ 'ไทยธนากิจ' มันช่างคล้ายคลึงกับชื่อบริษัทเล็กๆ ที่ 'ชานนท์' เคยใช้หลอกลวงพวกเธอในอดีตเหลือเกิน
ภาพความทรงจำอันเลือนลางผุดขึ้นมาในหัว
ของอารยา...ภาพรอยยิ้มอันอบอุ่นและคำพูดหวานหูของชานนท์ในวันที่เขาขอให้เธอช่วยเรื่องเงินทุน...ภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวังของพ่อกับแม่ในวันที่พวกท่านยอมเอาบ้านและที่ดินไปจำนองเพื่ออนาคตของลูกสาว...
ความเจ็บปวดผุดขึ้นมาในอกจนเธอต้องกำมือแน่น อารยาหลับตาลงเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งด้วยแววตาที่แข็งกร้าวดุจเหล็กกล้า
"ฉันแค่จะไป 'เจรจา' กับคุณวิชัยเป็นการส่วนตัวเท่านั้นเอง" เธอบอกเพื่อนสนิท "ไม่ต้องห่วงนะ"
คืนนั้น...
ณ Rooftop Bar สุดหรูใจกลางเมือง แสงสีและเสียงดนตรีแจ๊สเคล้าคลอสร้างบรรยากาศที่น่าลุ่มหลง อารยาในชุดเดรสผ้าไหมสีแดงเลือดนกเปล่งประกายราวกับอัญมณีเม็ดงามที่สุดในงาน ทรวงอกขนาด
40 คัพ J ที่ถูกขับเน้นด้วยคอเสื้อที่คว้านลึก ดึงดูดทุกสายตาของบุรุษในที่แห่งนั้นให้จับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียว
และหนึ่งในนั้นคือ "วิชัย" ชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมที่กำลังนั่งดื่มอยู่กับกลุ่มเพื่อน เขามองอารยาตาไม่กะพริบราวกับต้องมนตร์สะกด
อารยารู้ดีถึงสายตาที่จาบจ้วงนั้น เธอยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะแสร้งทำเป็นเดินสะดุดเล็กน้อยใกล้กับโต๊ะของเขา
"อุ๊ย! ขอโทษค่ะ"
วิชัยรีบลุกขึ้นประคองเธอทันที สัมผัสแรกที่ได้แตะเนื้อต้องตัวหญิงสาวทำให้เขาแทบคลั่ง "ไม่เป็นไรครับคุณ...เอ่อ..."
"อารยาค่ะ" เธอแนะนำตัวเองพร้อมกับส่งสายตาหวานให้ "พอดีเพิ่งใส่รองเท้าคู่นี้ครั้งแรกเลยยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่"
"ผมวิชัยครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณอารยาคนสวย" วิชัยรีบแนะนำตัวกลับ ดวงตาของเขาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเธออย่างไม่ปิดบัง "ไม่ทราบว่าคุณอารยามาคนเดียวเหรอครับ ให้เกียรตินั่งดื่มกับผมสักแก้วได้ไหม"
บทสนทนาเริ่มต้นขึ้นอย่างง่ายดาย อารยาใช้ทั้งเสน่ห์ วาจาที่ฉลาด และเรือนร่างอันน่าทึ่งของเธอค่อยๆ หลอมละลายชายผู้ละโมบตรงหน้า เธอแสร้งทำเป็นสนใจในเรื่องธุรกิจของเขา ชื่นชมในความสามารถของเขา และปล่อยให้เขาเข้าใจผิดว่าเธอหลงใหลในตัวเขาอย่างหัวปักหัวปำ
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง วิชัยตกอยู่ในมนตร์สะกดของเธออย่างสมบูรณ์ เขาไม่สนใจเพื่อนฝูงที่โต๊ะอีกต่อไป ในหัวของเขาปรารถนาเพียงสิ่งเดียวคือการได้ครอบครองนางพญาตรงหน้า
"ที่นี่เสียงดังไปหน่อยนะครับคุณอารยา" เขากระซิบชิดใบหูของเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนเจือกลิ่นแอลกอฮอล์ "ผมว่า...เรารู้จักกันดีพอที่จะไปคุยกันในที่ที่...เป็นส่วนตัวกว่านี้แล้วนะครับ"
อารยาแสร้งทำเป็นเขินอายเล็กน้อย ดวงตาหวานเยิ้มช้อนมองเขาอย่างเชื้อเชิญ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขยับตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าและเซ็กซี่ที่สุด
"แล้วจะรออะไรอยู่ล่ะคะ...คุณวิชัย"
เธอลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ปล่อยให้ชายหนุ่มโอบเอวเธอเดินออกจากบาร์ไป ท่ามกลางสายตาอิจฉาของผู้คนรอบข้าง แต่ไม่มีใครเลยที่จะได้เห็น...รอยยิ้มเย็นชาที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยสะกดของเธอขณะที่ประตูกำลังจะปิดลง
'ติดกับแล้ว...ปลาโง่'