บทที่ 19 ทำร้าย
“พี่ไซ” กาซี่หันมาตามเสียงที่ค่อนข้างห้วน
“แกกำลังจะทำอะไร” ไซฟาลก้าวเร็วมาหยุดตรงหน้าน้องชาย สายตาจับที่ใบหน้าน้อง
“ผมอยากคุยกับคุณแพรดาว ให้เธอขอโทษพี่แล้วก็ ให้สัญญาว่าจะไม่ทำในสิ่งที่พี่ไม่ชอบ”
“ไม่ได้” แทบเป็นเสียงตะคอก
“พี่ไซ มีเหตุผลหน่อยสิครับ พี่ทำอย่างนี้มันผิดนะครับ ถ้าคุณลุงรู้จะว่ายังไง”
“แกจะฟ้องคุณลุงล่ะสิ เชิญตามสบาย แต่กว่าคุณลุงจะกลับมา ฉันก็พาเชลยของฉันไปไกลแล้ว”
ไซฟาลปกป้องความเป็นอิสระของหญิงสาวโดยไม่รู้ตัว กาซี่ชะงักนิดหนึ่ง พี่ชายของเขาเปลี่ยนไปเพราะหญิงสาวที่ชื่อแพรดาว เขาอยากเห็นหน้าเธอแต่ช่างเถอะ วันนี้ไม่ได้เห็น สักวันเขาต้องรู้จักตัวจริงไม่ใช่เพียงแค่รู้จักชื่อเช่นวันนี้ เขากะพริบตาเร็วๆ อมยิ้มกับใบหน้าเครียดของพี่ชาย
“พี่รู้ตัวรึเปล่าว่าพี่เปลี่ยนไปมากเลยนะ เมื่อวานยังดีๆ อยู่เลย วันนี้เป็นเอามากพี่ชายฉัน”
กาซี่หัวเราะ ก้าวเท้าเดินเฉียดไหล่พี่ชายไปที่บันได ไซฟาลขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจคำพูดของน้องชาย
“เดี๋ยวกาซี่ แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“พี่ก็ตีความเอาเองสิครับ ผมไปทำงานก่อน ตอนนี้ไม่ห่วงอะไรแล้วครับ วันนี้ไม่รู้จักคุณแพรดาว พรุ่งนี้ต้องได้รู้จักแน่นอน แต่ถ้าพรุ่งนี้พี่ยังไม่อนุญาตให้ผมพบคุณแพรดาวอีก ผมจะรอต่อไป ราตรีสวัสดิ์ตรงนี้นะครับ”
“อะไรของแกวะ”
คนที่กังวลเปลี่ยนจากน้องชายเป็นพี่ชายตัวสูงคนนี้แทน ไซฟาลคิดตามคำของน้องเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ความหงุดหงิดจึงไปตกที่หญิงสาว เขาไขกุญแจเปิดประตูก้าวเข้าไปโดยไม่รู้เลยว่าหญิงสาวที่เขาโกรธอยู่แอบอยู่ข้างผนังห้องติดกับบานประตู พอประตูเปิดออก เธอผลักร่างสูงเข้าไปด้านในแล้ววิ่งสวนออกมา
ไซฟาลหันขวับแม้จะเสียหลักเซไปบ้างแต่ตั้งตัวเร็วกว่าที่แพรดาวคิด เขาหมุนตัวพุ่งไปที่ประตู แขนยาวยื่นไปข้างหน้า มือคว้าแขนแพรดาวแล้วกระชากกลับเข้ามาในห้อง ปล่อยมือที่กำต้นแขนเธอ ทำให้ร่างบางเสียหลักเซถลาเข้าไปหาเก้าอี้ หน้าท้องแบนกระแทกเข้ากับที่วางแขนของเก้าอี้เต็มแรง
“โอ๊ย!” เสียงดังออกมาไม่ดังนักแต่ก็ดังพอที่ไซฟาลได้ยินและรู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งร่าง
เขาทำร้ายผู้หญิงอย่างนั้นหรือ เขาไม่เคยทำร้ายใคร นอกจากให้ลงโทษตัวเองถ้าทำผิดกฎของบ้านหรือบริษัท แต่เวลานี้เขาทำร้ายแพรดาวด้วยมือของเขาเอง เขาทำลงไปได้อย่างไร
“คุณ!” ร่างสูงถลาถึงร่างบางที่ทรุดตัวลงไปนอนกับพื้นห้อง
“เป็นยังไงบ้าง” น้ำเสียงที่ดังออกมาแฝงไว้ด้วยความห่วงใย
“อย่ามายุ่งกับฉัน ออกไป ไอ้คนใจโหด ไอ้บ้า ออกไป๊”
ความเจ็บปวดทำให้แพรดาวไม่ยอมให้ไซฟาลถูกตัวเธอ คำด่าทอเป็นภาษาไทยพร่างพรูออกมา น้ำตาซึมแต่ไม่ถึงกับไหลริน เธอยังทนไหวและจะไม่ยอมร้องไห้แสดงความพ่ายแพ้กับความโหดร้ายของหลานชายอิบราฮิมคนนี้
“คุณทำตัวคุณเอง ถ้าไม่คิดหนีก็คงไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้”
“ความเข้าใจของฉันถูกทุกอย่าง ไอ้คนเมืองนี้มีแต่ใจโหดร้าย ฉันไม่น่าหลงเชื่อพี่นีมาทำงานที่นี่เลย อย่าคิดว่าฉันจะยอมแพ้คนอย่างนาย”
ไม่ใช่เพียงคำขู่ไซฟาลรู้ดี เขารู้จักผู้หญิงมามากและจากหลายประเทศ ลิลลี่เป็นเอเชียอีกคนที่เขายอมรับในความสามารถของหล่อน ความอ่อนหวาน ช่างเอาใจเป็นจุดเด่นของหล่อนแต่สำหรับแพรดาว ตรงข้ามกับลิลลี่โดยสิ้นเชิง
แพรดาวเป็นผู้หญิงอีกแบบหนึ่งที่ไซฟาลไม่เคยสัมผัส รูปแบบของเธอต่างจากผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยใกล้ชิด หากทีมถ่ายทำสารคดีชุดนี้เป็นผู้ชายทั้งหมด เขาจะไม่แปลกใจกับความบ้าบิ่นของหญิงสาวคนนี้เลยสักนิด
ไซฟาลนั่งรอทีมงานของประพนธ์ที่ห้องอาหาร ลิลลี่ชี้นิ้วสั่งสาวใช้วางจานอาหารตรงโน้น ตรงนี้อยู่รอบโต๊ะ เหยือกกาแฟเซรามิกสีขาว วางคู่กับแก้วกาแฟชุดเดียวกัน อาหารเช้าของบ้านจัดสำหรับแขก 10 กว่าชีวิต
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่” กาซี่เดินยิ้มเข้ามานั่งข้างไซฟาล
“อรุณสวัสดิ์ แขกยังไม่มารึว่าไม่ทานอาหารเช้า” ไซฟาลมองไปทางประตู มีเด็กรับใช้ยืนสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณกาซี่ เมื่อครู่ฉันให้เด็กไปเชิญแล้วค่ะ เดี๋ยวคงมา”
ลิลลี่ทักทายกาซี่เช่นทุกวัน หล่อนจัดแจงบนโต๊ะอาหารด้วยคำสั่งเสียส่วนใหญ่ กาซี่ชำเลืองมอง ไม่พูดอะไร คุ้นชินกับหน้าที่ของลิลลี่ บางวันหล่อนไม่ประหยัดถ้อยคำจึงเหมือนเป็นแม่บ้านใหญ่ในเทพนิยาย จู้จี้ ขี้บน เจ้าระเบียบจนทุกคนเอือมระอา อาหารเช้าที่หลายคนรอคอยเวลากลับกลายเป็นไม่อยากเฉียดเข้ามาในห้องนี้ ไซฟาลเคยเตือนทางอ้อมกับหล่อน
“คุณลิลลี่ ไม่ต้องวุ่นวายมากนักก็ได้นะครับ เดี๋ยวไม่ได้ทานอาหาร นั่งดีกว่า ให้เด็กเขาทำหน้าที่ของเขาเถอะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ลิลลี่ทำได้”
“นั่งเถอะครับ” ไซฟาลยิ้มแต่น้ำเสียงเข้มเล็กน้อย หญิงสาวจึงนั่งแต่ไม่กี่วันหล่อนก็ทำตัวเช่นเดิม วันนี้ก็เช่นกัน
ไซฟาลมองเหยือกกาแฟ ลิลลี่รู้ใจยกเหยือกรินน้ำสีดำใส่ถ้วยสีขาวสะอาดตา เสิร์ฟไซฟาลและกาซี่ ประพนธ์เดินนำน้องๆ ในทีมงานเข้ามา ลิลลี่ทำหน้าที่เจ้าของบ้านอีกตามเคย
“เชิญค่ะคุณประพนธ์ เชิญทุกคนค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
สำเนียงไทยชัดเจนแต่ในโทนเสียงเรียบ ใบหน้าของคนพูดแม้ยิ้มทักทายหลานชายเจ้าของบ้านทั้งสองและลิลลี่แต่ไซฟาลรู้สึกถึงความทุกข์ที่ประพนธ์รับไว้ กาซี่ชำเลืองมองพี่ชาย สีหน้าของพี่เรียบเช่นเดียวกับแขก
“คุณประพนธ์ไม่ขัดข้องใช่มั้ย ถ้าผมจะช่วยงานของคุณ” ไซฟาลเอ่ยทำลายความเงียบหลังจากทุกคนลงมือทานอาหารได้ครู่หนึ่ง
“ผมขัดข้องได้หรือครับ” ประพนธ์ย้อนถาม ความไม่พอใจวาบขึ้นในดวงตาแล้วหายไป
“นั่นสินะ คุณขัดไม่ได้อยู่แล้ว แต่ที่ผมต้องทำแบบนี้เพราะเพื่อนคุณทำผิดกฎของผมก่อน คุณจะเรียกร้องอะไรไม่ได้”
รอยยิ้มเย็นปรากฏบนเรียวปากบางของชายหนุ่ม กาซี่มองพี่ชายแล้วหันไปที่ประพนธ์
“คุณประพนธ์ ถ้าไม่สะดวกให้พี่ชายผมช่วยก็บอกนะครับ พวกคุณจะได้ไม่ลำบากใจ”
“ถ้าจะให้ผมสบายใจ ปล่อยแพรดาวสิครับ ผมสัญญาจะไม่ให้แพรดาวทำอะไรเกินเลยกับพวกคุณอีก”
ประพนธ์ลดความเรียบของเสียงได้มากทีเดียวเมื่อกาซี่ยิ้มให้เขาและเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร
“ไม่ได้ บอกแล้วไงว่าผมจะทำหน้าที่แทนเพื่อนคุณจนกว่างานจะเสร็จ วันที่พวกคุณเดินทางกลับประเทศผมจะพาแพรดาวไปที่นั่น”
“แต่ว่า..” ประพนธ์ค้าน
“ไม่มีแต่ ทานอาหารต่อเดี๋ยวต้องทำงานแล้วไม่ใช่หรือ”
ไซฟาลยกมือขึ้น ดวงตาคมเข้มจ้องตาประพนธ์ไม่กะพริบ อีกฝ่ายหลบตายอมทำตามคำที่เหมือนคำสั่งมากกว่าความหวังดี
