บทที่ 18 ทำผิดกฎ
“ขอบคุณครับ ความจริงไม่ต้องยกมาเองก็ได้ ลำบากคุณลิลลี่เปล่าๆ” กาซี่เอ่ยขึ้น รอยยิ้มจางปรากฏบนใบหน้า
“ไม่ลำบากหรอกค่ะ ดิฉันเต็มใจ ความจริงดิฉันทำหน้าที่นี้เสมอนะคะ คุณกาซี่ไม่ค่อยเรียกดื่มกาแฟ ไม่เหมือนคุณไซ รายนั้น เข้าห้องทำงานทีไรเรียกหากาแฟทุกที”
ลิลลี่จีบคำให้ดูอ่อนหวานเช่นใบหน้าของหล่อน กาซี่ยอมรับว่าลิลลี่เป็นหญิงไทยที่มีรูปร่างหน้าตาดี ริมฝีปากอิ่มย้อย ดวงตาคมหวานรับกับจมูกโด่งเชิดเล็กน้อย ร่างสูงสมส่วน ผิวขาวเนียน หล่อนงดงามทั้งตัว คำพูดของหล่อนก็น่าฟัง แต่มากไปกว่านั้นเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไร เขารู้ว่าหล่อนเข้ามาสอนภาษาไทยให้ไซฟาลและขอพักอยู่ในบ้านคุณลุงของเขาเพื่ออะไร
“พี่ไซชอบกาแฟ แต่ผมไม่เท่าไหร่”
เขายกแก้วกาแฟขึ้นจิบหางตาชำเลืองมองหญิงสาวที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ไม่จาง เขาวางแก้วลงบนจานรอง
“คุณลิลลี่มีอะไรจะพูดกับผมรึเปล่าครับ”
เขาเอ่ยถามตรงๆ ไม่อยากให้ลิลลี่นั่งจ้องเขาอยู่เช่นนี้ หล่อนยิ้มมากขึ้นก่อนจะอ้อมแอ้มว่า
“คุณกาซี่รู้เรื่องทีมสารคดีเข้ามาถ่ายในสวนอินทผลัมแล้วใช่มั้ยคะ”
“นึกแล้วเชียวว่าต้องมีเรื่องจะถามเรา” กาซี่คิดในใจแล้วพยักหน้า
“ครับ มีอะไรหรือครับ”
“คุณกาซี่คิดยังไงคะ คุณไซทำเกินไปหรือเปล่า ฉันคิดว่าคุณแพรดาวคงไม่ตั้งใจจะเข้าไปในเขตหวงห้าม”
“ครับ ผมก็คิดอย่างนั้น แต่พี่ไซไม่ฟังใคร ผมกำลังคิดหาทางช่วยพวกเขาอยู่ คุณลิลลี่มีอะไรจะแนะนำมั้ยครับ” กาซี่ใช้คำถามตรงประเด็นอีกครั้ง ลิลลี่ยิ้ม หล่อนรอคำถามนี้อยู่แล้ว
“ฉันคิดว่าคุณกาซี่ไปพบคุณแพรดาว ให้เธอขอโทษคุณไซ แล้วก็รับปากจะไม่เข้าไปยุ่งในส่วนที่คุณไซห้ามไว้ คิดว่าคุณไซน่าจะใจอ่อนยอมปล่อยตัวเธอค่ะ”
“คุณลิลลี่รู้จักพี่ไซดีไม่ใช่หรือครับ ลองได้ตัดสินใจทำอะไรแล้ว ยากที่พวกเราจะเปลี่ยนใจได้” กาซี่ยิ้มบางยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มแล้ววางลง
“ถ้าคุณแพรดาวรู้สึกผิด คุณไซก็อภัยให้ได้นะคะ” หล่อนยังคงยืนยันคำแนะนำเดิม
“จริงสิครับ” กาซี่เห็นด้วยกับเหตุผลนี้ของลิลลี่ เขายิ้มอีกครั้ง
“ขอบคุณมากนะครับ ผมจะทำตามที่คุณแนะนำ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากช่วยพวกนั้น ยังไงเขาก็เป็นคนไทยเหมือนฉัน ถ้าฉันนั่งมองเฉยๆ เขาจะว่าฉันใจดำไม่ช่วยพวกเดียวกัน”
หญิงสาวลุกขึ้นยืนเมื่อสิ่งที่หล่อนตั้งใจทำสำเร็จอย่างที่คิด กาซี่รับปากจะเข้าไปพบแพรดาวเพื่อให้หญิงสาวขอโทษไซฟาล แค่นี้ความร้อนรุ่มในใจของหล่อนก็จางลงแล้ว ยิ่งถ้ากาซี่ทำให้ไซฟาลยอมปล่อยตัวแพรดาวในวันนี้ได้ หล่อนจะมีความสุขมากทีเดียว
“ฉันขอตัวไปดูคุณไซก่อนนะคะ ยังไงฉันจะช่วยพูดด้วยค่ะ”
“เชิญครับ”
กาซี่ไม่ลุกขึ้นยืนส่งหญิงสาวที่รับหน้าที่เป็นแม่ครัวอาหารไทยและคอยดูแลเรื่องอาหารว่างที่ไซฟาลต้องการรับประทานเป็นแบบไทยๆ ไซฟาลให้เกียรติหล่อนมาก รับฟังหล่อนทุกเรื่องแต่บางเรื่องชายหนุ่มไม่เห็นด้วย ไม่ทำตามที่หล่อนแนะนำ เขาเป็นตัวเองมากเกินกว่าใครจะชักจูงได้
“ขอให้ความคิดของคุณสำเร็จทีเถอะคุณลิลลี่ แต่ผมว่าคุณแนะนำเพื่อตัวเองมากกว่า ไม่ใช่เพื่อช่วยพวกเดียวกัน”
กาซี่ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มรวดเดียวก่อนจะวางลงที่เดิมแล้วลุกขึ้นยืน สูดลมหายใจลึกแล้วพ่นออกมา
“ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร” เขาก้าวยาวๆ ไปที่ประตู เปิดออกแล้วก้าวออกไป
ไซฟาลถอนใจหลายครั้ง กรามขบเป็นสันนูนเป็นระยะ ดวงตาจับนิ่งที่แผ่นกระดาษในแฟ้มเอกสาร รายเซ็นของอิบราฮิมอยู่ด้านล่างขวามือ ส่วนด้านซ้ายเป็นรายเซ็นของนางสาวสุนีย์ เจ้าของรายการสารคดี การขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรถูกต้องทุกอย่างและเจ้าของสถานที่ลงชื่ออนุญาตถูกต้องเช่นกัน ชายหนุ่มถอนใจอีกครั้ง
“ถึงคุณลุงอนุญาตแต่เธอไม่มีสิทธิ์เข้าไปในเขตที่ฉันห้าม เพราะฉะนั้น ฉันมีสิทธิ์กักขังบริเวณสำหรับผู้ที่ทำผิดกฎของฉัน”
ชายหนุ่มผู้ถือสิทธิ์ถูกผิดอยู่ที่ตัวเขา กำมือทุบลงบนแผ่นกระดาษตวัดมือปิดแฟ้มด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก เขาลุกจากเก้าอี้เดินไปที่ประตูแต่ยังไม่ทันดึงประตูเปิด เสียงเคาะดังขัดไว้
“ใคร” คำถามค่อนข้างห้วน
“ลิลลี่ค่ะ ขอเข้าไปได้มั้ยคะ” เสียงหญิงสาวตอบรับอ่อนหวาน
ไม่มีเสียงตอบจากด้านในแต่ประตูเปิดออก ลิลลี่ยืนยิ้มหวานอยู่หน้าประตู ไซฟาลยิ้มเพียงนิดเดียว
“มีอะไรหรือครับ”
“ลิลลี่อยากคุยกับคุณค่ะ” หล่อนตอบเสียงอ่อน
“เรื่องอะไรครับ ถ้าเป็นเรื่องกับข้าว คุณตัดสินใจได้เลย จะทำอะไรให้พวกนั้นทานก็ตามสบาย”
“เรื่องนั้นแม่บ้านใหญ่รับหน้าที่ไปแล้วค่ะ แม่บ้านบอกว่าให้พวกนั้นชิมอาหารเมืองซัสส์บ้าง เปลี่ยนบรรยากาศน่ะค่ะ” หล่อนตอบคำของเขา รักษาระดับน้ำเสียงและรอยยิ้มไว้อย่างดีเยี่ยม
“ถ้าอย่างนั้นคุณจะคุยอะไรกับผม”
เขาหมุนตัวเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ไม้สีโอ๊ก เบาะรองนั่งและพนักพิงเป็นผ้าฝ้ายสีขาวสลับน้ำตาลเข้ม ชุดรับแขกในห้องทำงานของไซฟาลต่างจากห้องกาซี่โดยสิ้นเชิง พี่ชายชอบพวกไม้มากกว่าหนังสัตว์ราคาแพง ส่วนน้องชายชอบความหรูหราและงดงามของหนังสัตว์ พวกเนื้อไม้มีบ้างที่กาซี่สั่งทำเก้าอี้แต่เป็นเก้าอี้พักผ่อนภายนอกตัวตึกเสียส่วนใหญ่
“มีอะไรว่ามาเลยครับ” ชายหนุ่มใช้ภาษาไทยกับลิลลี่แต่ถ้ามีแขก เขาจะพูดภาษาอังกฤษเพื่อให้คนอื่นๆ เข้าใจด้วย
“เรื่องทีมงานสารคดีค่ะ คือ ลิลลี่อยากจะขอ..”
“ถ้าจะขอให้ผมปล่อยตัวผู้หญิงคนนั้น เสียเวลาเปล่า เพราะผมจะไม่ปล่อยแม่นั่นจนกว่างานของพวกเขาจะปิดกล้อง” เสียงดังทันทีที่ลิลลี่เอ่ยถึงทีมงานสารคดี
“แต่คุณไซคะ ลิลลี่คิดว่า เราควรสร้างมิตรดีกว่าสร้างศัตรูนะคะ อย่างน้อยก็แสดงความมีน้ำใจของคนที่นี่ให้พวกเขาเห็น” หล่อนไม่ละความพยายาม
“ผมบอกคุณแล้วไง อย่าพูดเรื่องนี้ ผมขอตัว ถ้าคุณจะนั่งอยู่ที่นี่ต่อก็เชิญตามสบาย”
เขาลุกพรวดก้าวยาวๆ ไปที่ประตู ลิลลี่ลุกขึ้นยืนเขาก็เปิดประตูก้าวออกไปแล้ว
“บ้าจริง ไม่ยอมฟังเราเลย” หล่อนกำมืออย่างขัดใจ ความหวังของหล่อนอยู่ที่กาซี่แล้วสินะ
“ขอให้คุณกาซี่ทำสำเร็จทีเถอะ”
การขอของลิลลี่ไม่ประสบผลสำเร็จเพราะไซฟาลเดินเข้ามาในบ้านขณะที่กาซี่ยืนเคาะประตูห้องที่ขังแพรดาวไว้
“ทำอะไรกาซี่”
