บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 หนูทดลอง

ตอนที่ 7 หนูทดลอง

โลกทั้งใบของพายเงียบสงัด เธอยังคงนั่งจ้องทาร์ตเลมอนเมอแรงก์บนโต๊ะในโซนคาเฟ่ ที่ตอนนี้ไร้ผู้คนไปเกือบหมดแล้ว กลิ่นเปรี้ยวอมหวานที่เคยหอมยั่วน้ำลายเมื่อชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับให้ความรู้สึกเหมือนยาพิษ

‘แพ้เลมอน แพ้แบบรุนแรง’

คำพูดของมีนายังคงดังก้องอยู่ในหัว ถ้าเมื่อกี้เขาไม่ได้ติดประชุม ถ้าเขาไม่ได้ไล่เธอออกมา แล้วถ้าเขาเกิดนึกอยากลองชิมมันขึ้นมา

พายยกมือขึ้นปิดหน้า เธอไม่อยากจะนึกภาพเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นมาเลย หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ความอับอายที่มีอยู่ก่อนจางหายไป เหลือเพียงความรู้สึกผิดที่เกือบจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะความคะนองของตัวเอง

การได้พบเจอกับคิมทันต์ทำให้ชีวิตที่วุ่นวายอยู่แล้วของเธอ กลับยิ่งวุ่นวายมากยิ่งขึ้น แม้ว่าก่อนหน้าเธอจะรู้สึกไม่ชอบหน้าของเขาสักเท่าใดนัก แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายเขาถึงขนาดนั้น

สงครามประสาทที่เธอคิดว่ามันตลกขบขันเมื่อเช้า ตอนนี้มันกลับไม่ตลกอีกต่อไปแล้ว

“เป็นอะไรของแกวะพาย นั่งจ้องขนมเหมือนกับเห็นผีอย่างนั้น”

เสียงทุ้มๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงของสิงห์ที่ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม วันนี้เขาดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย อาจเพราะจัดการเรื่องลูกค้ากลุ่มใหม่เข้าที่ได้แล้ว

พายส่ายหน้าช้าๆ “เปล่า ไม่มีอะไร”

“ไม่มีอะไร แต่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้” สิงห์มองหน้าเพื่อนสนิทอย่างจับผิด ก่อนจะเหลือบไปเห็นทาร์ตเลมอน “โอ้โห ทาร์ตเลมอนในตำนาน ไม่ได้กินนานแล้วนะเนี่ย ขอนะ”

สิงห์ยื่นมือมาหมายจะหยิบขนมสุดอร่อยที่นานๆ ทีเพื่อนรักจะยอมทำมันขึ้นมาสักครั้ง

“อย่า...” พายร้องเสียงหลง เธอตะปบมือเขาไว้แทบไม่ทัน ก่อนจะรีบหยิบจานเลื่อนออกมาให้ห่างตัวของสิงห์อย่างรวดเร็ว

สิงห์ชะงักค้างไป จ้องมองเพื่อนรักอย่างมีพิรุธ “อะไรของแกเนี่ย หวงเหรอ หรือว่า...ตั้งใจทำให้ใครเป็นพิเศษหรือเปล่า”

“เปล่าสักหน่อย” พายปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมจ้องมองด้วยสายตาดุ “คือฉันเพิ่งนึกได้ว่าฉันลืมใส่ส่วนผสมสำคัญน่ะ มัน...มันยังไม่สมบูรณ์ นายไม่ต้องกินหรอก มันไม่อร่อย” พายโกหกคำโต ไม่กล้าเล่าเรื่องน่าอายที่เพิ่งเกิดขึ้นบนชั้นสี่ให้เพื่อนฟัง

“เหรอ...” สิงห์มองอย่างไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ยอมชักมือกลับ “ช่วงนี้แกแปลกๆ นะพาย เครียดเรื่องยอดขายล่ะสิ”

พายถอนหายใจยาวๆ พร้อมบ่นออกมาอย่างท้อแท้ “เครียดสิ นี่ฉันกำลังคิดว่า ฉันควรจะปิดคาเฟ่ส่วนนี้ แล้วเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีไหม”

“เฮ้ย คิดอะไรแบบนั้น” สิงห์ขมวดคิ้ว “The Hub ที่ไม่มีคาเฟ่ของแก มันก็ไม่ใช่ The Hub สิ”

“แต่มันขาดทุนนะสิงห์ ตอนนี้ฉันกำลังถ่วงพวกนายทุกคน ฉันเองก็รู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่”

“แกก็รู้ว่าไอ้คินมันแบ่งงบประมาณไว้แล้ว” สิงห์พยายามปลอบ “คาเฟ่คือส่วนดึงคนเข้ามาที่นี่ มันอาจจะไม่กำไรเป็นตัวเงิน แต่...”

“แต่คินกำลังจะกลับมา” พายโพล่งออกมา พร้อมทำหน้าเบ้ใส่สิงห์ “นายก็รู้ว่าคินมันคิดทุกอย่างเป็นตัวเลข ถ้าเขากลับมาเห็นบัญชีสีแดงเถือกนี่ คินไม่ปล่อยฉันไว้แน่”

สิงห์เงียบไปชั่วขณะ เขารู้ดีว่าคิน เพื่อนผู้ชาญฉลาดด้านการเงินเข้มงวดแค่ไหน คินคือคนที่ทำให้ The Hub ยืนอยู่ได้ด้วยการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม และคาเฟ่ของพาย คือความเสี่ยงเดียวที่คินมองด้วยสายตาไม่พอใจมาตลอด

“เอาน่า” สิงห์ตบไหล่เธอเบาๆ “เดี๋ยวฉันช่วยพูดกับมันเอง อย่างน้อยลูกค้ากลุ่ม K-Innovate ก็เข้ามาแล้ว ยอดขายแกน่าจะดีขึ้นไม่ใช่เหรอ”

“เฮ้อ...ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” พายได้แต่พยักหน้ารับคำอย่างอ่อนล้า ยอดขายดีขึ้น แต่เธอกลับไปสร้างศัตรูกับหัวหน้าของลูกค้ากลุ่มนั้นเสียนี่

และในทันทีที่มีลูกค้าเข้าร้าน พายก็ปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว เธอยิ้มหวานตรงไปรับลูกค้าอย่างอารมณ์ดี “รับอะไรดีคะ”

สิงห์มองดูพายพร้อมส่ายหน้าอย่างเอ็นดู แต่เขาก็อดกลุ้มใจแทนพายไม่ได้ ในเมื่อคินใกล้จะกลับมาแล้ว พายคงได้เอาเท้าก่ายหน้าผากอีกหนเป็นแน่

ทางด้านชั้นสี่ โซน Private Office ของ K-Innovate บรรยากาศยังคงเงียบกริบ มีเพียงเสียงพิมพ์คีย์บอร์ดที่ดังเป็นจังหวะ

คิมทันต์นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของเขา สายตาไม่ได้จดจ่ออยู่ที่หน้าจอที่เต็มไปด้วยโค้ดโปรแกรมเหมือนปกติ แต่กำลังอ่านไฟล์ PDF ที่คุณมีนาเพิ่งส่งมาให้

มันคือไฟล์ “ข้อมูลทางการเงิน” ของ The Hub Cafe

คิมทันต์แทบไม่ต้องใช้เวลานานในการวิเคราะห์ ทว่าตัวเลขมันกลับฟ้องอย่างชัดเจน

ขาดทุนสะสมต่อเนื่อง ต้นทุนวัตถุดิบสูงเกินไป การจัดการสต๊อกไม่มีประสิทธิภาพ ยอดขายต่อหัวต่ำกว่ามาตรฐาน

พูดง่ายๆ คือ “เจ๊ง”

คิมทันต์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ยกนิ้วขึ้นมาเคาะที่ขมับเบาๆ

เขาไม่แปลกใจเลย ผู้หญิงที่บริหารงานด้วยอารมณ์ มากกว่าเหตุผล ก็มักจะลงเอยแบบนี้ ทำขนมอร่อย กาแฟก็พอใช้ได้ แต่นั่นมันไม่พอสำหรับการทำธุรกิจ

ตอนแรก เขาแค่คิดจะสืบดูเพื่อหาจุดอ่อนไว้ต่อรองหรือไว้ใช้เป็นข้อได้เปรียบในสงครามย่อยๆ ของพวกเขา แต่ตอนนี้ เขากลับเห็นโอกาสบางอย่างจากมัน

คิมทันต์เคาะนิ้วบนโต๊ะ พร้อมเบนกายมองไปนอกหน้าต่าง หัวสมองของเขาเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้าอย่างอารมณ์ดี

บริษัท K-Innovate ของเขากำลังพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ “K-Flow” ระบบจัดการร้านอาหารและคาเฟ่แบบครบวงจร ที่ใช้โปรแกรมในการวิเคราะห์สต๊อก, คำนวณต้นทุน, และสร้างโปรโมชันที่ตรงจุด

The Hub Cafe จะกลายเป็น “หนูทดลอง” ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

เขาแพ้เลมอนก็จริง แต่เขาไม่ได้แพ้ทางธุรกิจ

คิมทันต์ยกหูโทรศัพท์ภายใน “คุณมีนา”

“คะ คุณคิม”

“ติดต่อคุณพิชชาอรให้ผม บอกว่าผมอยากคุยกับเธอ เย็นนี้หกโมงตรงที่ห้องประชุมชั้นสี่”

“เอ่อ แต่เรื่องบราวนี่กับเรื่องทาร์ตนั่น...” มีนากระซิบถามอย่างกลัวๆ

“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก ผมต้องการคุยเรื่องธุรกิจกับเธอ และกำชับเธอด้วยว่า ถ้าเธออยากให้ร้านรอด เธอควรจะมาพบผม” คิมทันต์ตอบเสียงเรียบแต่ทว่ากลับเด็ดขาด

จนกระทั่งเวลาห้าโมงห้าสิบห้านาที พายยืนอยู่หน้าลิฟต์ หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอได้รับข้อความจากคุณมีนาแล้ว

‘คุยเรื่องธุรกิจ...ถ้าอยากให้ร้านรอด...นี่มันหมายความว่ายังไง หรือเขารู้เรื่องที่เธอเกือบทำให้เขาตายด้วยทาร์ตเลมอน แล้วเขาจะฟ้องเธอเหรอ หรือเขาจะยกเลิกสัญญาเช่า’

ความคิดของพายตีกันมั่วซั่วไปหมด แต่ขาของเธอก็ยังคงก้าวเข้าไปในลิฟต์ กดชั้นสี่อย่างเลี่ยงไม่ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel