บทที่ 4

รายงานการสืบสวนที่วิภาวีส่งมาให้ครบถ้วนและหนักแน่น

ศิรินและตะวันคบกันมาแล้วห้าปี อารยาคือบุตรสาวของเขาจริงๆ

สิ่งที่ทำให้ใจฉันเจ็บที่สุดคือ

การที่ฉันรู้จักตะวันในงานนิทรรศการศิลปะนั้น ไม่ใช่แค่ “บังเอิญ”

การสืบสวนของวิภาวีแสดงให้เห็นว่าคุณจิรายุ ได้สืบหาประวัติของฉันอย่างละเอียด

และงานนิทรรศการนั้นก็ถูกจัดขึ้นเพื่อล่อ ฉัน

“สามีของคุณเป็นคนที่ถูกจ้างมา”วิภาวีกล่าวไปพร้อมกับผลักภาพถ่ายกองใหญ่บนโต๊ะ

“ครอบครัวเสียงสมบุญ รู้เรื่องมรดกของคุณ

พวกเขารู้ว่าคุณเติบโตมาโดยไม่มีใครคอยดูแลและวงสังคมของคุณก็แคบ ตะวันถูกจ้างให้เข้ามาหาคุณและล่อให้คุณแต่งงาน เพื่อจะได้มรดกของคุณ”

เธอยังแสดงให้ฉันดูการโอนเงินจากธนาคารเมื่อสี่ปีที่แล้ว

คลินิกเด็กของศิริน ไม่สามารถทำกำไรได้

ต้องเผชิญกับการฟ้องร้องจากเหตุการณ์ทางการแพทย์และเป็นหนี้

บริษัทสถาปนิกของตะวันใกล้จะล้มละลาย

แกลเลอรีของตระกูลเสียงสมบุญ ก็ประสบปัญหา

ต้องพึ่งพาทรัพย์สินส่วนตัวของคุณจิรายุ เพียงอย่างเดียวเพื่อประคับประคองชีวิต

แต่ทรัพย์สินของพวกเขาไม่ได้หนาแน่นอย่างที่ทุกคนคิด

“มรดกของคุณไม่ใช่แค่สำคัญ สำหรับพวกเขา”วิภาวีกล่าวต่อ

“แต่มันคือความจำเป็นที่ถึงตาย ถ้าไม่มีมัน พวกเขาจะล้มเหลวทั้งหมด”

สิ่งที่โหดร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง

วิภาวีค้นพบว่า “เพื่อนสนิท” ของฉัน สายไหม ผู้ที่เหมือนพี่สาวแท้ๆ แท้จริงแล้วเป็นแม่ทูนหัวของอารยา

เธอมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ระหว่าง ตะวันและศิรินตั้งแต่แรก

“ฉันมีรูปจากงานวันเกิดของคุณสายไหมเข้าร่วม”

วิภาวีพูดเสียงเบา

“เธอเข้ามามีบทบาทในชีวิตของอารยา อย่าง ‘จริงจัง’”

ฉันมองไปที่ภาพของสายไหมที่หัวเราะกับอารยา ที่สวนสาธารณะที่ฉันไม่เคยไป และในกิจกรรมของโรงเรียน

เธอปรากฏตัวในฐานะ “เพื่อนของครอบครัว”

เพื่อนรักของฉันกับลูกสาวนอกสมรสของสามี

ดูเหมือนจะมีชีวิตประจำวันที่ฉันไม่เคยรู้

“พวกเขาวางแผนที่จะเปิดเผยเรื่องนี้หลังจากที่คุณผ่านวันเกิดแล้ว”

วิภาวีเสริมอีก “ฉันเห็นตารางเวลาในอีเมล พวกเขาจะบอกคุณว่าตะวันเพิ่งเจอเพื่อนเก่า และพบว่าเขามีลูก แล้วขอให้คุณเข้าใจและสนับสนุน—พวกเขาเดิมพันกับความขอบคุณของคุณที่มีต่อครอบครัวนี้

หวังว่าคุณจะยอมเอามรดกออกมาช่วยกันแบกรับ”

“ถ้าฉันไม่ยอมล่ะ?” ฉันถาม แม้ว่าฉันจะรู้อยู่ในใจแล้ว

วิภาวีสีหน้าหมองลง“จากข้อมูลที่ฉันมี พวกเขาน่าจะเริ่มกระบวนการหย่า

เพื่อขอครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินคุณ แต่อาจจะเริ่มต้นด้วยการใช้การควบคุมทางอารมณ์ ให้คุณยอมมอบเงินให้พวกเขาเอง”

ฉันนั่งอยู่ในห้องทำงานของวิภาวีรายล้อมไปด้วยหลักฐานทุกชิ้น—เป็นการหักหลังที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่ฉันเคยคิด แต่ในตอนนั้นเอง บางอย่างในใจฉันแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง แล้วเปลี่ยนเป็นเหล็กกล้า พวกเขาคิดว่าฉันอ่อนแอ ไร้เดียงสา แค่รู้จักขอบคุณและอยากใช้ชีวิตเรียบง่ายเท่านั้นเอง แต่พวกเขาคิดผิดหมดทุกอย่างแล้ว

พวกเขาจะรู้เร็วๆ นี้ว่า พวกเขาผิดมากแค่ไหน

“ฉันจะสำรองข้อมูลทั้งหมด” ฉันบอกกับ วิภาวี

“อีกเรื่องหนึ่ง ฉันต้องการให้คุณช่วยทำอะไรสักอย่าง”

สัปดาห์ถัดมา ฉันยังคงแสดงตัวเป็นภรรยาที่อ่อนโยนและเชื่อใจ

ในขณะที่วิภาวีขับเคลื่อนแผนการขั้นที่สองในเบื้องหลัง

ฉันยังคงไปกับสายไหมพูดคุยอย่างสนุกสนาน ฟังคุณจิรายุ เล่าเรื่องการบริหารแกลเลอรี

และปล่อยให้คุณรศนามาคอยเตือนเรื่องร่างกายและชีวิตคู่ของฉัน

กลางคืน ฉันนอนข้างๆ ตะวัน ดูเขานอนหลับอย่างสงบ

บางครั้งมือถือสั่น เป็นข้อความจากศิริน

เขาจะหยิบมือถือไปตอบในห้องน้ำ

และเมื่อออกมาจะจูบหน้าผากฉันและบอกว่าเขารักฉัน

การแสดงทั้งหมดดูเหมือนจะไร้ที่ติ

ถึงเวลาแล้วที่ทุกอย่างจะจบลง