กามเทพร้ายหมายรัก

61.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
38
บท
4.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอคือผู้หญิงปริศนาที่กล้าขโมยหัวใจเขา โทษของเธอคือต้องชดใช้ด้วยร่างกายและหัวใจ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักรักแรกพบฟินๆเศรษฐีรักหวานๆโรแมนติก

บทที่ 1

รถเอสยูวีคันใหญ่ขับมุ่งหน้าไปบนถนนที่มืดสนิท ซึ่งจุดหมายปลายทางนั้นคือจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย โดยเจ้าของรถคือเกื้อกูลหรือพ่อเลี้ยงเกื้อ เจ้าของไร่กาแฟอันโด่งดังในจังหวัดเชียงรายที่ปีๆ หนึ่งนั้น สร้างกำไรให้อย่างมากมาย นั่นเพราะกาแฟทุกเมล็ดของพ่อเลี้ยงเกื้อกูลล้วนมีความพิเศษ เขาค่อยๆ เลี้ยงให้ต้นกาแฟเติบโตอย่างช้าๆ โดยใช้ร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ พื้นที่ปลูกก็รักษาต้นน้ำไว้เพื่อให้ต้นกาแฟได้ซึมซับสารอาหารจากผืนดินจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้กาแฟจากไร่ของเขานั้นมีรสชาติที่เข้มและหอมอร่อย

“ปั๊มๆ” ชายหนุ่มอุทานออกมาเมื่อเห็นป้ายปั๊มน้ำมันอยู่ไกลๆ ก่อนจะชะลอความเร็วของรถลงเพื่อจะได้แวะเข้าไปทำธุระส่วนตัว เพราะตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯ มาเขาก็ขับรถยิงยาวมาจนถึงนครสวรรค์ ความอัดอั้นเพราะอยากเข้าห้องน้ำจึงเรียกร้องให้ชายหนุ่มแวะปั๊ม

แต่เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จก็แวะไปซื้อกาแฟดื่มแก้ง่วงเสียหน่อย แต่ลึกๆ แค่ต้องการเทสต์รสชาติของกาแฟเจ้าดังที่เปิดสาขาตามปั๊มน้ำมันแทบจะทั่วประเทศ ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้างก็เท่านั้น แต่พอได้ชิมก็ตอบได้ทันทีว่า

“เหมือนเดิม” พ่อเลี้ยงเกื้อกูลเอ่ยชม นั่นเพราะซื้อกินกี่ปีต่อกี่ปี รสชาติของกาแฟก็ไม่เคยเปลี่ยน เขาเป็นคนชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ดื่มได้หมดเรียกได้ว่าเกือบจะมีกาแฟในสายเลือด

พ่อเลี้ยงเกื้อกูลเดินถือแก้วกาแฟดำตรงไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล เมื่อเปิดประตูขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยเสร็จ ก็ขอดื่มกาแฟเรียกพลังเสียหน่อย

วันก่อนพ่อเลี้ยงเกื้อกูลลงมากรุงเทพฯ เพื่อร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทที่คบหากันมานาน แต่พอเสร็จจากงานแต่งเขาก็มีนัดหมายประชุมกับลูกค้ายาว แทบจะไม่มีเวลาไปไหน พอประชุมเสร็จก็ต้องรีบขับรถกลับเชียงรายทันที คิดไปคิดมาก็เหนื่อยดีเหมือนกัน กระทั่งสายตาก็พลันมองเห็นของชำร่วยของเพื่อนที่วางอยู่หน้ารถ จู่ๆ บทสนทนาอันคุ้นเคยก็หวนกลับมาในความคิด

“แต่งงานแต่งการได้แล้วไอ้เกื้อ” เจ้าบ่าวของงานเอ่ยบอกเพื่อนเจ้าบ่าว ที่ตอนนี้ยังคงหวงความโสด

“ใช่...ข้าเห็นด้วย เอ็งจะหวงความโสดไว้ทำไมกัน หา” เพื่อนเจ้าบ่าวอีกคน ที่แต่งงานแล้วเมื่อปีก่อน และตอนนี้ก็ขยับไปเป็นคุณพ่อมือใหม่เอ่ยเห็นด้วย

“ถ้าพร้อมแต่งเมื่อไหร่ ข้าจะบอกเอ็งสองคนก่อนใคร” พ่อเลี้ยงเกื้อกูลเอ่ยบอกประโยคนี้อีกครั้ง แต่เขาก็ตอบไม่ได้จริงๆ ว่าเมื่อไหร่

“รีบๆ แต่ง เถอะ อย่าให้ผู้หญิงเขารอนาน เพราะวันดีคืนดีเขาจะไม่รอเอ็ง” เจ้าบ่าวของงานเอ่ยบอกขึ้น พร้อมกับหันไปมองผู้หญิงที่พ่อเลี้ยงเกื้อกูลควงมาเกือบปีอย่าง ‘แซมมี่’ สาวสวยในแวดวงไฮโซ ที่หนุ่มๆ เองก็หมายปองเธออยู่ไม่น้อย พ่อเลี้ยงเกื้อกูลเองก็หันไปมอง แซมมี่เช่นกัน ก่อนจะตอบออกไป

“เออ...รู้”

“เอ็งรั้งท้ายสุดในกลุ่มแล้วนะครับคุณพ่อเลี้ยง เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้กันพอดี” คุณพ่อมือใหม่เอ่ยด้วยสีหน้าและแววตามีความสุข นั่นเพราะพึ่งเข้าใจความรู้สึกของคนมีลูกว่ามันสุขมากขนาดไหน

“ไม่เป็นไร ข้าไม่รีบ” พ่อเลี้ยงเกื้อกูลตอบยิ้มๆ

“อย่าให้รู้เชียวว่าเอ็งซุกเมียไว้ที่ไร่” เจ้าบ่าวสุดหล่อเอ่ยดัก พ่อเลี้ยงหนุ่มจึงรีบแก้ต่างให้ตัวเองทันที

“มีที่ไหนกันเล่า พวกเอ็งนี่ก็เพ้อเจ้อ”

“ให้มันจริงเถอะ ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บมีทั้งเมียมีทั้งลูกนะโว้ย ขืนเป็นแบบนั้นข้าช็อคกันพอดี”

“พอๆ เลิกพูดไร้สาระได้แล้วนา” พ่อเลี้ยงเกื้อกูลบอกปัด

พอหวนกลับไปคิดถึงคำพูดเหล่านั้นแล้ว พ่อเลี้ยงหนุ่มก็ได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง ดูท่าบรรดาเพื่อนๆ ดูจะอยากให้เขาแต่งงานแต่งงานมีเมียมีลูกกันเสียเหลือเกิน พอยังไม่แต่งก็ถูกแซวเรื่องที่เขายังคงโสดบ้าง เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้บ้าง เพราะตอนนี้อายุอานามก็ไม่ใช่จะน้อยๆ อีกไม่กี่ปีจะเข้าใกล้เลขสี่ พอเลยหลักสี่คราวนี้อะไรๆ ในร่างกายมันอาจไม่ฟิตเหมือนหนุ่มๆ พอถูกกรอกหูมากเข้า พ่อเลี้ยงเกื้อกูลก็ชักจะเอนเอียง

แต่ใครกันจะอยากมาแต่งงานกับผู้ชายแบบเขากัน วันๆ เอาแต่ทำงานแล้วก็ทำงาน เวลาของตัวเองยังแทบไม่มีแต่จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ก็ทำให้พ่อเลี้ยงเกื้อกูลต้องเอื้อมไปหยิบมาเพื่อรับสาย

“ครับ...แซมมี่”

“ถึงไหนแล้วคะเกื้อ” น้ำเสียงอ่อนหวานที่แฝงความเป็นห่วงเอ่ยถามมาตามสาย แซมมี่คบหากับเกื้อกุลมาเกือบปี แวะเวียนไปที่ไร่กาแฟของชายหนุ่มบ้าง ชายหนุ่มเปิดใจให้เธอเผื่อว่าแซมมี่จะคือคนที่ใช่ แต่ก็ยอมรับว่าการใช้ชีวิตและอะไรอีกหลายอย่างระหว่างเขากับเธอมันแตกต่างกันเกินไป ซึ่งหวังว่าอนาคตอะไรๆ มันจะดีขึ้น

“อืม...ใกล้ถึงไร่ครับ” แม้จะบอกว่าใกล้ แต่ความจริงแล้วจุดที่รถอยู่ตอนนี้มันห่างกับไร่ของชายหนุ่มเกือบร้อยกิโล

“โล่งอกไปที แซมมี่เป็นห่วงคุณจนนอนไม่หลับแนะ” หญิงสาวคุยโวเกินความจริง นั่นเพราะเธอเข้านอนแต่หัวค่ำแล้ว เพราะไม่อยากให้ตาบวมไปทำงานช่วงเช้า

อันที่จริงแซมมี่ขอให้พ่อเลี้ยงเกื้อกูลนอนค้างที่กรุงเทพฯ สักคืนก่อนแล้วค่อยขับรถกลับเชียงราย เพราะชายหนุ่มประชุมงานตลอดเวลาเธอกลัวเขาจะหลับในตอนขับรถเข้า แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ไม่ฟังเธอเลย โดยบอกแค่ว่ามีงานที่ไร่ต้องรีบไปจัดการเช่นกัน

“ขอบคุณครับแซมมี่”

“นี่ถ้าไม่ติดว่าเช้านี้แซมมี่มีงานที่ยกเลิกไม่ได้ แซมมี่คงนั่งรถไปเป็นเพื่อนคุณด้วย” แซมมี่เอ่ยบอกอย่างมีน้ำใจ เพราะรู้ว่าชายหนุ่มคงปฏิเสธ อุตส่าห์ตั้งใจไว้ว่าพ่อเลี้ยงเกื้อกูลลงมากรุงเทพฯ รอบนี้ เธอและเขาจะได้ใช้เวลาด้วยกันให้หายคิดถึง แต่เขากลับทำแต่งานแล้วก็งานจนเธอแอบน้อยใจ

“แค่คุณโทร.มาถามแบบนี้ ผมก็ดีใจมากแล้วครับ”

“ก็แซมมี่รักคุณนี่คะ”

“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ

“เกื้อจะไม่บอกอะไรแซมมี่หน่อยเหรอ”

“อะไรครับ”

“ก็...ช่างเถอะค่ะ ขับรถดีๆ ไว้เจอกันค่ะเกื้อ” เอ่ยจบแซมมี่ก็รั้งรอนิดหน่อย นั่นเพราะแม้เธอจะรอคำว่า ‘รัก’ จากพ่อเลี้ยงเกื้อกูลมากแค่ไหน แต่ตลอดเวลาที่คบหากันมา ชายหนุ่มไม่เคยเอ่ยคำนี้ออกมาให้เธอได้ยินเลย อย่าว่าแต่เอ่ยคำว่ารักเลยขนาดเรื่องบนเตียงเขายังไม่เคยมีอะไรกับเธอ

“ไว้เจอกันครับ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกมาตามสาย คราวนี้แซมมี่ก็ไม่ได้ยินคำว่ารักจากชายหนุ่มอีกเช่นเคย เธอจึงกดวางสายไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ ในขณะที่พ่อเลี้ยงเกื้อกูลก็ยังไม่รับรู้ว่าตนทำอะไรผิดเช่นกัน นั่นเพราะเขาเป็นผู้ชายแมนๆ ติดจะปากแข็งด้วยซ้ำ จึงไม่ชอบพูดคำว่า ‘รัก’ แบบพร่ำเพรื่อ ให้ดูที่การกระทำมากกว่า

หลังจากวางสายแซมมี่ไปแล้ว พ่อเลี้ยงเกื้อกูลก็สตาร์รถแล้วขับออกไปทันที เพราะเป้าหมายยังอีกครึ่งค่อนทางกว่าจะกลับถึงไร่ แต่ระหว่างทางที่ขับรถก็ดื่มกาแฟดำไปด้วย ผ่านไปสามชั่วโมงก็เกิดอยากจะเข้าห้องน้ำอีก นั่นทำให้ชายหนุ่มร้อนรนเพราะแถวๆ นี้หาห้องน้ำยาก

กระทั่งมองเห็นปั๊มน้ำมันไกลๆ จึงเลี้ยวเข้าไปจอดเพื่อทำธุระส่วนตัว แต่เพราะปั๊มนี้เป็นปั๊มเล็กๆ ร้านสะดวกซื้อก็แบบบ้านๆ ไม่ใช่เจ้าใหญ่ที่ชื่อนั้นคุ้นหู ร้านขายของกินของฝากก็มีให้เห็นแค่ไม่กี่ร้าน หนำซ้ำยังไม่ใช่เวลาทำการของปั๊มผู้คนจึงไม่มาก แต่ถึงอย่างนั้นก็มีรถจอดอยู่สองสามคัน คงแค่แวะเข้าห้องน้ำเหมือนเขาก็เป็นได้