บทนำ
ประตูไม้แกะสลักลวดลายดอกพุดตานถูกกระชากออกกว้างด้วยแรงโทสะ จากนั้นร่างบางซึ่งถูกพันธนาการข้อมือข้อเท้าด้วยเชือกและพาดไว้บนไหล่แข็งแรงจึงถูกจับโยนลงบนที่นอนอย่างไม่ไยดี
ชายหนุ่มเท้าสะเอวมองด้วยสายตาพึงพอใจเมื่อเห็น ‘ตัวการ’ ล้มหน้าคว่ำลงไปบนที่นอน ก่อนกระชากเทปกาวที่ปิดปากหญิงสาวออกอย่างไม่ไยดี
การกระทำอุกอาจของชายหนุ่มทำให้เหยื่อสาวครางหน้าแหย แต่เธอก็พยายามทรงตัวลุกขึ้นมา
“เจ็บนะ ตาบ้า!” ทิชาแยกเขี้ยวใส่ชายร่างสูงใหญ่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราทันทีที่มีโอกาส พอเห็นสายตาพึงพอใจของฝ่ายนั้น เธอจึงรีบดีดตัวขึ้นเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่า ยังไงซะเธอไม่มีวันพ่ายแพ้แก่เขา
หญิงสาวใช้หัวไหล่เกลี่ยเส้นผมยุ่งเหยิงออกจากแก้ม พร้อมส่งสายตาโกรธกรุ่นจับจ้องอีกฝ่ายไม่ลดละ
"ต้องให้บอกสักกี่ครั้งว่าฉันไม่ใช่ธิดา!" เธอตะเบ็งเสียงขุ่นใส่ชายหนุ่มซึ่งดูเหมือนมหาโจรมากกว่านักธุรกิจ
มีรอยยิ้มเยาะเย้ยชอบใจ จากนั้นร่างสูงอันมอมแมมและมีกลิ่นคาวปลาติดตามร่างกายจึงขยับตัวเข้ามาใกล้ ทิชาขยับตัวหนีโดยอัตโนมัติพลางจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตานางเนื้อระวังภัย
“มันเรื่องของเธอ จะตะโกนให้กล่องเสียงแตกก็ตามใจ ยังไงผมก็ไม่มีวันเชื่อคำพูดผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างเธอเด็ดขาด”
หญิงสาวเม้มปากแน่นกับความดื้อรั้นของอีกฝ่าย รู้สึกอ่อนล้าไปทั้งใจเชียวที่อยู่ ๆ เทพธิดาแห่งความโชคร้ายกลั่นแกล้งเธอ ซ้ำยังจับเธอโยนใส่มือ ‘ผู้ชายงี่เง่า’ คนนี้
“ฉันไม่ใช่ธิดา ฉันไม่ใช่ธิดา ไม่ใช่ธิดา ไม่ใช่ธิดา ไม่ใช่ธิดา เข้าใจมั้ย!!!” เธอตะโกนลั่นห้องพร้อมชักเท้าหนีชายร่างสูงที่ย่างสามขุมเข้ามา พอแผ่นหลังสัมผัสผนังห้องทิชาถึงกับสะท้านเฮือก มือไม้เย็นเฉียบ เหงื่อชุ่มไปทั้งวงหน้าขณะจับจ้องชายหนุ่ม
“ไม่มีทางหนีแล้ว... ธิดา” น้ำเสียงดูแคลนกับสายตาดุดันของอีกฝ่ายทำเอาทิชาหน้าซีดเผือด ดวงตาสวยซึ้งเบิกกว้างอย่างหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรบ้า ๆ อีก กระนั้นเธอคงไม่ยอมรับในสิ่งที่เขายัดเยียดให้
“ก็ฉันบอกไปแล้วไง ว่าฉันไม่ใช่ธิดา” ทิชาสบตาอีกฝ่ายพร้อมยืนยันคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ปึ้ง!
หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเป็นครั้งที่สองเมื่ออีกฝ่ายทิ้งฝ่ามือลงผนังบ้าน เฉียดหน้าเธอไปอย่างหวุดหวิด
"งั้นก็พิสูจน์สิ ว่าเธอไม่ใช่" ลมหายใจร้อนของเขารดหน้าอยู่แค่คืบ
"พิ... พิสูจน์ยังไง?"
ริมฝีปากบางสั่นระริก มือไม้เย็นเฉียบซ้ำยังชุ่มไปด้วยเหงื่อ เธอรู้สึกกลัวสายตาคมกริบฉายแววดุดันของอีกฝ่ายนัก ยิ่งการมองของเขา ทำเอาหัวใจดวงน้อยของเธอไปกองที่ตาตุ่มเชียว
ลายครามเห็นสีหน้าของหญิงสาวจึงยกมุมปากขึ้น เพราะไม่คิดว่าแม่เลี้ยงคนสวยจะแสดงละครได้เก่งขนาดนี้ เขามองเธออยู่นานอย่างเกลียดชัง ก่อนเค้นเสียงเย็นลอดไรฟันปนเยาะเย้ยออกมา
"จูบผม"
“จูบ!” ทิชาตาโตอ้าปากค้าง ใบหน้าขาวซีดแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ด้วยทั้งโกรธและอายในเวลาเดียวกัน
“ไม่มีวิธีพิสูจน์ที่แย่น้อยกว่านี้เหรอ? หรือสมองอันชาญฉลาดของคุณคิดอะไรได้แค่นี้”
ชายหนุ่มแก้มกระตุกกับคำเหน็บแนม ริมฝีปากยกขึ้น นัยน์ตาดุดันมีแววครุ่นคิดก่อนเปลี่ยนเป็นวาววับเมื่อกวาดมาหยุดที่ริมฝีปากแดงระเรื่อน่าจุมพิตของหญิงสาว
“มีสิ” ลายครามตอบเสียงห้วน พลางเลียริมฝีปากแห้งผากของตนเอง ก่อนไล้มือหนาที่แก้มเนียนละเอียดของหญิงสาว ซึ่งคนถูกสัมผัสรีบเบือนหน้าหลบ ก่อนถลึงตาใส่พร้อมถามเสียงห้วน
“วิธีอะไร?”
รอยยิ้มหรือเปล่าทิชาไม่แน่ใจ แต่คำตอบของฝ่ายนั้นก็ทำให้เธอชาหนึบไปทั้งร่าง
“ร่วมรักกับผม!”
ถ้าข้อมือไม่ถูกพันธนาการเอาไว้ล่ะก็ เธอคงฝากรอยฝ่ามือไว้บนใบหน้ากวนโทสะของเขาแน่ แต่สิ่งที่ทิชาทำได้ในตอนนี้ก็คือรับฟังคำเหยียดหยามเกียรติเท่านั้น
“ไง ข้อเสนอของผมทำเอาพูดไม่ออกเลยเหรอคุณนายธิดา?”
ทิชายิ้มน้อย ๆ ขณะมองเขา ซึ่งรอยยิ้มของเธอได้ลอกเลียนผู้ชายตรงหน้ามาอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
“ใครว่า มันวิเศษจนฉันไม่กล้าปฏิเสธต่างหาก”
แค่นั้นร่างบางจึงถูกกระชากแล้วจับเหวี่ยงไปยังเตียงนอนอย่างไม่ไยดี!
“โอ๊ย!” หญิงสาวครางออกมาก่อนค้อนตาเขียวใส่อีกฝ่าย “ฉันพูดแทงใจดำคุณหรือยังไง?” ทิชายิ้มเยาะ ซึ่งรอยยิ้มชอบใจของเธอทำให้อีกฝ่ายโกรธจนควันออกหู จนอยากฉีกเนื้อผู้หญิงตรงหน้าเป็นชิ้น ๆ เลยเชียว
“แพศยา!”
“นั่นคำชมใช่มั้ยคะ?” ทิชายิ้มหวานตาพราวทั้งที่ในใจกำลังกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ซึ่งกิริยาของเธอส่งผลให้ลายครามหงุดหงิดหัวเสียกว่าเก่า
เขาบ่นพึมพำอะไรออกมาอีกทิชาไม่ได้ยิน แต่เธอก็โล่งใจไปเปาะหนึ่งเมื่อนายลายครามคร่ำครึปิดประตูกระแทกดังปังหัวเสียจากไป!
