ตอนที่4
ประธานคนใหม่กำลังนั่งพูดคุยกับหุ้นส่วนคนสำคัญตั้งแต่ที่พ่อของเขายังไม่วางมือ ส่วนเลขาสาวก็ยังคงทำหน้าที่ของตนเองคือการจดรายละเอียดที่ทั้งคู่คุยกันเพื่อเป็นหลักฐานอีกชั้น
"ขอบคุณนะครับที่ยังเชื่อใจโรงแรมของเรา"
"จะไม่เชื่อใจได้ยังไงล่ะคะ ที่บ้านฉันก็ทำงานกับพ่อของคุณมาตั้งหลายปี พอรู้ว่าเปลี่ยนประธานคนใหม่ฉันก็ตกใจเหมือนกันนะคะ" หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับคาลอสเอ่ยพลางส่งสายตายั่วยวนมองมาที่เขา
วัลวารีที่นั่งอยู่รู้สึกตนเองกำลังเป็นส่วนเกินในวงสนทนานี้ แต่จะให้ลุกขึ้นก็ดูจะเสียมารยาท สายตาเหลือบเห็นแก้วไวน์ที่วางตรงหน้าจึงยกขึ้นดื่มเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตนเองไม่ให้มองชายหญิงสองคนที่เหมือนจะเกี้ยวพาราสีใส่กัน
"คุณคาลอสหล่อเหมือนกับที่เขาพูดถึงกันเลยนะคะ ฉันดีใจมากเลยค่ะที่ได้ร่วมงานกับคุณ" นิ้วเรียวสวยค่อยๆ ลูบหลังมือหนาอย่างแผ่วเบาเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการของเธอ
หญิงสาวที่ตั้งใจจิบไวน์ให้พอรู้รสชาติ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอเผลอดื่มไวน์ในแก้วจนหมด เธอไม่รู้ว่าเพราะไวน์ที่ดื่มไปนั่นแรงหรือเพราะคออ่อนกันแน่ถึงได้รู้สึกร้อนวูบวาบ สายตาเริ่มพร่ามัวแบบนี้
"เรามาดื่มให้กับมิตรภาพทางธุรกิจของเราดีกว่านะครับ" ชายหนุ่มแก้สถานการณ์ทำทีเป็นยกแก้วไวน์ขึ้นชนกับหุ้นส่วนคนสำคัญก่อนจะหันไปเห็นเลขาสาวที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้างๆ
"ไหวหรือเปล่า" คาลอสเห็นท่าทีคนข้างๆ ไม่ค่อยดีจึงกระซิบถามเบาๆ
"วะ…ไหวค่ะ" เสียงหวานตอบตะกุกตะกัก เธอรู้สึกในกายร้อนราวกับมีไฟมอดไหม้อยู่ในตัว หัวใจเต้นแรงผิดปกติ อีกทั้งมือของเธอเริ่มชาไม่มีความรู้สึก แต่ก็ยังแสร้งส่งยิ้มให้กับเขากลับไป
"ฉันว่าไม่ไหวนะ" จู่ๆ มือหนาที่อยู่ใต้โต๊ะก็ลูบไล้ตนขาขาวขึ้นลงเบาๆ โดยไม่ให้หุ้นส่วนคนสำคัญได้ทันสังเกต
หญิงสาวพอถูกกระตุ้นด้วยมือสากของเขาก็เริ่มเก็บอาการไม่อยู่ วัลวารีรีบจับมือคาลอสที่กำลังลูบวนให้หยุด แววตาอ้อนวอนมองหน้าเขาเชิงขอร้องให้เขาเลิกทำแบบนี้
"ผมว่าคืนนี้ดึกมากแล้ว เราแยกย้ายกันดีไหมครับคุณลอว์เรนจะได้พักผ่อนด้วย" คาลอสเอ่ยตัดบทสนทนาของคนตรงหน้าที่กำลังเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวให้เขาฟัง
"คะ...ค่ะ ก็ได้ค่ะ" ลอว์เรนถึงกับไปไม่เป็น ทีแรกเขามีท่าทีสนใจเธอไม่น้อย แต่จู่ๆ ก็ตัดบทเสียได้
"ขับรถกลับดีๆ นะครับ"
เมื่อหุ้นส่วนคนสำคัญกลับไป ห้องรับรองแขกวีไอพีของโรงแรมก็เหลือเพียงวัลวารีกับเจ้านายเพียงแค่สองคนท่ามกลางห้องที่เงียบสงัด
"ถะ…ถ้างั้นวันนี้ฉันขอตัวก่อนนะคะ" ขาเรียวยืนบิดเร้าไปมาจนชายหนุ่มแสยะยิ้มมุมปากราวกับทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้
"ฉันว่าเธอกลับไม่ไหวหรอก…วารี" มือหนารั้งร่างเล็กที่กำลังหมดแรงอ่อนปวกเปียกเข้ามาในอ้อมแขน น้ำเสียงทุ้มปนกระเส่ากระซิบข้างหูของคนที่กำลังตาพร่ามัว สติใกล้เลือนราง
"วะ...ไหวค่ะ ฉันกลับไหว" วัลวารีนยืนกรานคำเดิมแม้น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจะสั่นเครือจนแทบจับคำไม่ได้
"อย่ารั้นสิ เธอกลับไม่ไหวหรอก" คาลอสก้มมองคนตัวเล็กที่ค่อยๆ อ่อนระทวยลงช้าๆ แข้งขาใกล้หมดแรงค่อยๆ ล้มพับในอ้อมแขนของเขาก่อนจะสลบไปในที่สุด
"หึ! คิดว่าฉันจะปล่อยเหยื่อหลุดมือไปง่ายๆ เหรอ" เขาตวัดอุ้มเธอลอยขึ้นในท่าเจ้าหญิง ขายาวก้าวฉับๆ มุ่งตรงไปยังห้องพักที่คนสนิทเตรียมการไว้ให้ก่อนหน้านี้
ร่างเล็กที่หลับพริ้มถูกวางบนเตียงกว้างอย่างเบามือ วัลวารีไม่รู้เลยว่าการทำงานวันแรกของเธอจะต้องเจอกับสิ่งที่เขามอบให้โดยที่เธอไม่ได้เต็มใจจะรับมัน
"เธอเพิ่งจะมาทำงานวันแรกเองนะครับบอส ทำแบบนี้มัน…จะดีเหรอครับ" เสียงทุ้มของชายอีกคนเอ่ยด้วยสีหน้าปนกังวลกับสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายกำลังจะทำ
"แล้วไง ในเมื่อมีเหยื่อเข้ามาทำไมฉันต้องปล่อยให้หลุดมือ แกนั่นแหละไม่ต้องเอะอะไป รีบกลับบ้านไปได้แล้ว เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง" คาลอสเอ่ยพลางไล่ลูกน้องคนสนิทที่เปรียบเสมือนมือขวาของตน
พ้นหลังคนสนิทที่ออกจากห้องไปพร้อมล็อกประตูให้เสร็จสรรพ คาลอสก็เริ่มจัดการถอดเสื้อผ้าของตนเองและเริ่มปลดเปลื้องชุดเดรสตัวสวยของเธอออกช้าๆ
"อื้ม…" เสียงหวานครวญครางแผ่วเบา ดวงตากลมสวยค่อยๆ ลืมตามองอย่างลำบาก
"ไงคนสวย" คำทักทายของเขาทำให้วัลวารีขยับตัวลุกขึ้น แต่ทว่าเธอกลับไร้เรี่ยวแรง ในกายยังคงร้อนผ่าววูบวาบไม่หาย อีกสิ่งหนึ่งที่แปลกใจคือส่วนล่างของเธอรู้สึกสั่นระริกแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"คะ…คุณจะทำอะไรคะ" คนตัวเล็กพยายามรวบรวมสติอันน้อยนิดเอ่ยถามผู้เป็นเจ้านายที่ไร้เสื้อผ้าปกคลุม
"เธอก็น่าจะรู้นี่ว่าฉันรับเธอเข้ามาเป็นเลขาเพราะอะไร"
"แต่ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ" แววตาน่าสงสารพยายามอ้อนวอนขอให้เขาปล่อยเธอไป วัลวารีไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้
"สายไปแล้วแหละ คิดว่าฉันจะปล่อยเหยื่อที่จับมาเองกับมือง่ายๆ หรือไง" คาลอสมองเธอด้วยสายตาปรารถนาที่แฝงไปด้วยความน่ากลัว หญิงสาวส่ายหน้าไปมาอยู่ใต้ร่างของเขา
"อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ ได้โปรด…อ๊ะ" จู่ๆ เสียงหวานก็ร้องลั่นเมื่อนิ้วชี้แกร่งของเขาสัมผัสที่เนินอูมไร้ขนบดบัง
"เชื่อฉันสิว่าตอนนี้เธอต้องการฉันมากกว่าอยากให้ฉันปล่อยเธอไป" คาลอสมั่นใจกับภาพที่เห็น กายสาวบิดเร้าไปมาอย่างทรมานแม้ปากจะปฏิเสธอย่างไรก็ไม่สามารถต้านทานความต้องการนี้ได้
"คุณ…อื้อ…คาลอส…" วัลวารีสะดุ้งตัวโยนตกใจที่นิ้วของเขากรีดกลางรอยแยกกลีบกุหลาบที่ยังคงปิดสนิท
"แล้วเธอจะติดใจ..." ชายหนุ่มล่อลวงเธอด้วยคำพูดและการกระทำแสนเจ้าเล่ห์ คนตัวเล็กที่ไม่สามารถต่อต้านเขาได้จึงต้องหลับตาปล่อยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไป
วัลวารีตัดสินใจแน่วแน่ว่าหลังจากคืนนี้ผ่านไปเธอจะขอลาออกจากการเป็นเลขาของเขา เธอไม่สามารถทนทำงานกับคนร้ายกาจแบบเขาได้อีก
"ฉันเกลียด…อ๊ะ…คุณ" เสียงหวานเอ่ยสลับกับเสียงครางที่กลั้นไม่อยู่
"ก็ไม่ได้ขอให้รักสักหน่อย อย่าคิดไปเองสิ" คาลอสตอบเธอด้วยสีหน้าของผู้ชนะ เธอจะเกลียดหรือรู้สึกอย่างไรเขาไม่สน แต่ที่รู้คือจากนี้ไปวัลวารีต้องอยู่ใต้อาณัติของเขาโดยที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
