ตอนที่ 5
5
เสียงของผู้หญิงที่กำลังจะเป็นคู่หมั้นของเขาดังตามมาอีกระรอกก่อนจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย เมื่อแพรวดีเป็นลมล้มพับลงใกล้ๆ โดยที่บิดาและมารดาของหญิงสาวรับตัวเอาไว้ได้ทัน
“ผมว่าคุณจัดการเคลียร์เรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะครับคุณโยชิ ส่วนเรื่องของคุณกับลูกสาวผม เราค่อยมาตกลงกันใหม่” บิดาของแพรวดีบอกก่อนจะพาร่างหมดสติของบุตรสาวเดินออกไปจากงาน
โยชิตวัดสายตาคมดุมองไปยังร่างบางในชุดสีแดงเพลิงที่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่บนใบหน้ากลับยิ้มสมน้ำหน้าและสาสมใจปนอยู่ด้วย
ใบหน้าโยชิที่เรียบเฉยอยู่ขณะนี้เหมือนกับถูกหน้ากากแห่งความเย็นครอบอยู่ ชายหนุ่มขบกัดฟันจนแก้มขึ้นสัน ตวัดสายตาราวกับมีพายุเพลิงมองกราดไปหาทุกคนในงาน ก่อนจะเปล่งน้ำเสียงเย็นยะเยือกราวกับเคลือบน้ำแข็งถามหญิงที่เข้ามาป่วนงานเขา
“เธอเป็นใคร ทำไมต้องมาทำลายงานหมั้นของฉันด้วย” โยชิถามเสียงแข็งกร้าว ดวงตาคมดุมองไปยังหญิงสาวในชุดสีแดงเพลิงราวกับจะเผาไหม้ให้เป็นจุลในพริบตา
ในแววตาคู่นั้นแฝงไว้ด้วยอะไรบางอย่าง ทำปลาดาวรู้สึกหวั่นไหวหัวใจเต้นแรงอย่างไม่รู้สาเหตุ แววตาที่บอกเธอว่า...
เขาจะตามล่าค้นหา ไม่ว่าจะหลบลี้อยู่แห่งหนไหน ต่อให้มีทะเลขวางกั้นภูเขาขวางหน้า เขาจะตามหาตัวเธอจนเจอ เธอจะต้องได้รับโทษทัณฑ์จากเขาอย่างสาสมกับความผิดที่ได้กระทำในวันนี้
“พี่โยชิพูดแบบนี้กับโรซี่ได้ไงกันคะ พี่ก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ทำไม พี่ถึงทำ...อือๆ ทำไมพี่ถึงทำกับโรซี่แบบนี้ ไม่รักกันก็ไม่ว่า แต่ทำไมต้องหลอกลวงให้ความหวัง แล้วกลับมาแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นด้วย โรซี่ทำผิดอะไรคะ ทำไม...”
ปลาดาวยังคงแสดงละครว่าเป็นคนรักของโยชิต่อไป เธอต่อว่าเขาด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนจับคำพูดแทบไม่ได้ น้ำตาไหลอาบสองแก้ม แต่แววตาที่มองกลับสะใจและสาสมใจที่สามารถทำลายงานหมั้นในเช้าวันนี้ได้
เมื่อเห็นว่ามีคนกันตัวแพรวดีออกไปจากห้องจัดเลี้ยงแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องทำตัวให้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ว่าโยชิและคนของเขาจะเก่งแค่ไหน ก็ตามหาตัวไม่เจอ...แน่นอน
“ฮือๆ พี่โยชิใจร้าย”
เพี๊ยะ!
ปลาดาวฟาดมือใส่หน้าโยชิหนึ่งครั้ง ก่อนจะวิ่งหนีออกจากงานเลี้ยง...หายลับไปจากตาโยชิและลูกน้องที่มัวยืนตะลึงงงงันกันทั่วทั้งงาน
ปลาดาวยิ้มหน้าบาน เธอตรงไปยังห้องพักที่แพรวดีจองไว้ให้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดเก่าออกไป รีบใส่เสื้อยืดกางเกงยีน ไม่ลืมหยิบแจ๊กเก็ตสีดำคลุมทับอีกที สองมือก็สาละวนเก็บผมรวบขึ้นไว้บนศีรษะสวมหมวกแก๊ปสีดำปกปิดอีกครั้ง ก่อนจะถอดคอนแท็กเลนส์สีน้ำตาลออกจากดวงตา ส่วนใบหน้าก็ใช้โลชั่นทาจนเปียกชื้นหยิบกระดาษทิชชูในกล่องเช็ดใบหน้าจนเกลี้ยงเกลา เก็บเสื้อผ้าและทุกอย่างใส่กระเป๋ายกขึ้นสะพายหลัง แต่ก็ไม่วายกวาดสายตาดูทั่วห้องว่าไม่ลืมอะไรไว้เป็นหลักฐานที่จะให้โยชิตามหาตัวเธอจนเจอหรือเปล่า เมื่อเห็นทุกอย่างหมดจดก็ก่อนหยิบรองเท้าผ้าใบใส่ เพื่อจะได้รีบทำตัวหายใจจากโรงแรมให้เร็วที่สุด
“โชคดีนะนายโยชิ ขอให้นายสนุกกับงานที่เหลือนะ”
“พวกนายสองคนรีบหาตัวผู้หญิงคนนั้นให้เจอเร็วที่สุด” โยชิพูดเสียงเรียบหากมีอำนาจ ทำให้ปลาดาวที่เดินสวนด้วยต้องรีบดึงหมวกแก๊ปลงมาปิดหน้าทันควัน แต่เพราะความตกใจหมวกสีดำใบโปรดเลยหลุดตกลงใกล้กับเท้าโยชิ หญิงสาวถึงตกใจจนหัวใจแทบหล่นหายไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม รีบยกมือปิดที่จะกรีดร้องออกไปอย่างเร็ว
โยชิมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างแปลกใจ กลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆ ปะปนกับกลิ่นน้ำหอมโชยมา ขณะมองเขาอย่างตะลึงงัน แววตาหวั่นไหวระคนตกใจเป็นอย่างมากทำให้รู้สึกสะดุดใจแบบแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก
หญิงสาวเอื้อมมือหยิบหมวกแก๊ปพอดีกับที่โยชิก็ยื่นมือไปหยิบเช่นกัน
ปลาดาวสะดุ้งเมื่อรู้สึกเหมือนกับโดนไฟช๊อต ใบหน้าเธอร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเบา ขณะรับหมวกจากโยชิมือไม้สั่น แทบจะไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำ
โยชิมองตามร่างบางอย่างสงสัย ใบหน้าเรียบเฉยแต่แววตากลับเปล่งประกาย ความรู้สึกคั่งแค้นเกิดอีกครั้งยามนึกถึงผู้หญิงที่เข้ามาป่วนทำลายแผนการและงานหมั้นของเขากับแพรวดี
ถึงจะไม่รักใคร่แพรวดี แต่ผู้หญิงคนนั้นคือใบเบิกทางพาเขาไปสู่จุดหมายปลายทางที่ต้องการ แต่ในเมื่อไม่เป็นดังที่คิดไว้ คนที่กล้าเข้ามาทำลายแผนการของเขาก็จะต้องได้รับผลการกระทำอย่างสาสม!
ปลาดาวรีบเปิดประตูห้องทันพอได้ยินน้องสาวตอบรับคำพูดของใครบางคนที่ทำให้ลินินมีสีหน้าซีดเผือดและทรุดกองลงใกล้กับโต๊ะตั้งโทรศัพท์
“ใครโทรมานะนิล” ปลาดาวทักด้วยความอิ่มเอมใจที่สามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทีนี้ก็รอรับเงินอีกงวดที่แพรวดีจะโอนให้ในวันพรุ่งนี้ เงินที่ทำให้เธอได้ใช้จ่ายไปหลายเดือน
ลินินไม่ตอบคำถามพี่สาว เธอจะบอกไปได้อย่างไรกัน คุณหญิงอาภรณ์โทรมาเรียกให้เธอทั้งคู่ไปหา ในเมื่อปลาดาวเคยบอกไว้แล้วว่าชาตินี้ เธอจะไม่เกี่ยวข้องและจะไม่กลับไปเหยียบที่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว
“กลับมาแล้วหรือคะพี่ปลา เป็นยังไงบ้างคะ งานราบรื่นดีไหม” ลินินเปลี่ยนไปถามเรื่องงานแทน
“อย่าเปลี่ยนเรื่องเลยนิล บอกพี่มาดีกว่าใครโทรมา น้องสาวพี่ถึงได้มีสภาพแบบนี้” ปลาดาวไม่ยอมให้เรื่องที่สนใจผ่านหูผ่านตาไปได้ วันก่อนก็ครั้งหนึ่งแล้ว ลินินไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ความหวาดกลัวถึงกลับมาอีกครั้ง
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร พอดีมีคนโทรมาผิดเท่านั้นเอง” ลินินปฏิเสธเสียงสั่น หลบหน้าหลบตาปลาดาวอย่างคนมีพิรุธชัดเจน
“บอกพี่มาดีกว่านิล ท่าทางเธอก็บอกอยู่ มีพิรุธชัดเจน หรือเดี๋ยวนี้เธอไม่เชื่อใจพี่ มีอะไรถึงได้ปิดบังไม่ยอมบอกกัน” ปลาดาวเริ่มใช้ไม้อ่อน พูดด้วยความน้อยใจและสั่นไหว ตาแดงน้ำตาคลอเบ้าและค่อยไหลอาบสองแก้มช้าๆ
“เปล่านะคะพี่ปลา ไม่ใช่สักหน่อย เพียงแต่นิล...”
“ไม่จริง! นิลมีเรื่องปิดบัง ไม่ไว้ใจพี่” ปลาดาวยังคงตัดพ้อ ขณะปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม
ให้มันรู้ไปสิ น้ำตาของเธอจะทำให้ลินินใจอ่อนไม่ได้
ปลาดาวเช็ดน้ำตาพร้อมทำเสียงสะอื้นให้น้องสาวได้ยิน “นิลไม่ไว้ใจ...ไม่รักพี่แล้ว พี่เสียใจ ฮือๆ ”
“ค่ะๆ นิลบอกแล้ว แต่ถ้าบอกไปแล้ว พี่ปลาจะต้องไม่โกรธนะคะ” ลินินต่อรองพี่สาวดวงตาละห้อย เพียงแค่เห็นน้ำตาพี่สาว ถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายแกล้งก็ตามทีเถอะ แต่มันก็ทำให้เธอใจเสียได้แล้วกัน
ปลาดาวหยุดคิดเล็กน้อยก็พยักหน้ารับ “ฮื่อ”
“คุณหญิงป้าโทรมาขอให้นิลกับพี่ปลาไปพบที่บ้านวันพรุ่งนี้”
“และเธอก็รับปากคุณหญิงไปแล้ว” ปลาดาวลืมตัวตวาดน้องสาวเสียงสูงจนลินินสะดุ้ง
ในเมื่อโกรธใส่ลินินไม่ได้ ปลาดาวเลยใช้วิธีเตะลมไปเรื่อยระบายอารมณ์โกรธกรุ่น
“เปล่านะคะ นิลจำได้ พี่ปลาเคยพูดเอาไว้ จะเป็นจะตาย จะเดือดร้อนแค่ไหน ก็จะไม่ไปเหยียบบ้านหลังนั้น นิลก็เลย...” ลินินมองปลาดาวอย่างประจบ ยิ้มแหยๆ ให้
“ก็เลยอะไรยะแม่คนใจอ่อน” ปลาดาวจับแขนเรียวลินินจ้องเข้าไปในดวงตา
“นิลก็เลยบอกให้คุณหญิงมาที่บ้านเรา นิลจะได้ทำอาหารให้ท่านทานด้วย”
“พี่ว่าคุณหญิงคงไม่ตกลงใช่ไหม”
“พีปลาทายผิดค่ะ” ลินินส่ายหน้า “คุณหญิงยินดีที่จะมาคุยกับนิลและพี่ปลาที่บ้านวันพรุ่งนี้ตอนเย็น เพราะท่านว่าคุยที่นี่ก็ดีเหมือนกัน เรื่องมันจะได้เป็นความลับไม่มีคนคอยสอดรู้สอดเห็น เอาเรื่องไปนินทาลับหลัง บ้างก็หาเรื่องฟ้องคนที่เกี่ยวข้อง”
