บท
ตั้งค่า

บทที่1.แค่บรรณารักษ์หรือเป็นผู้ช่วยนักวิจัย

“ศาสตราจารย์เฉลิมชัยค่ะ”

“อ้าว มาแล้วเหรอ นั่งลงซิ”

“ขอบคุณค่ะ”

ณัชชา อาภาภัทร บรรจงวางเอกสารหอบโตที่เธอประคองมาลงบนโต๊ะกาแฟ ชายชราวัยหกสิบช่วยเลื่อนแก้วกาแฟของตนเองและจานใบเล็กที่มีเค้กชิ้นน้อยวางอยู่เพื่อให้บนโต๊ะมีพื้นที่พอจะวางของที่เธอหอบมา เมื่อเธอจัดการวางเอกสารกองโตได้สำเร็จก็นั่งลงที่เก้าอี้ว่างตรงข้าม นิ้วเรียวขยับแว่นสายตากรอบหนาให้ชิดใบหน้าและจ้องมองอีกฝ่ายด้วยใจจดจ่อ

“ต้องขอบใจเธอมากเลยนะที่อุตส่าห์เอามาให้ฉันถึงที่นี่”

“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ “ศาสตราจารย์ตรวจสอบดูก่อนไหมคะ ว่าครบตามที่ต้องการหรือเปล่า”

“ไม่เป็นไร” ชายชราท่าทางใจดีโบกมือไปมา “ทำงานกันมาตั้งหลายปีแค่นี้ฉันดูออกว่าเธอคงขนมาหมดที่ฉันต้องการ”

“ค่ะ” เธอยิ้มรับคำชม

“ฉันไปประชุมที่โตเกียวสองอาทิตย์ ถ้ายังไงก็ฝากรดน้ำต้นไม้ในห้องทำงานฉันด้วยนะ”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ หนูจัดการให้ได้ไม่มีปัญหาค่ะ”

“นั้นซินะ ฉันจะต้องห่วงทำไมมีเธอเป็นผู้ช่วย ฉันสบายตัวขึ้นเยอะ” ศาสตราจารย์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เออ...จริงซิ วิทยานิพนธ์ที่เธอส่งมาใช้ได้เลยนะ มันยอดเยี่ยมมาก ความรู้ความสามารถอย่างเธอเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาได้สบายๆไม่น่าจะเป็นแค่บรรณารักษ์หรือทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยฉันก็ได้”

“ศาสตราจารย์ก็รู้ว่าหนูมีปัญหาการสื่อสารกับคนอื่น”

ชายชราพยักหน้าเข้าใจ “ฉันหวังว่าการไปเที่ยวอิตาลี่จะเปลี่ยนบุคลิกของเธอได้นะ”

“หนูก็หวังอย่างนั้นค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อม “หนูต้องขอบพระคุณที่ศาสตราจารย์ช่วยรับรอง ทำให้หนูได้วีซ่าง่ายและเร็วมากค่ะ”

“วีซ่าท่องเที่ยวไม่ยุ่งยากอะไรหรอก” ศาสตราจารย์เอื้อมมือไปยกกาแฟขึ้นดื่ม “จะดื่มอะไรสักหน่อยไหม อีกสักเดี๋ยวลูกสาวฉันก็จะมารับไปสนามบินแล้ว”

“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหนูขอตัวกลับก่อน”

“งั้นก็ตามสบายเลยนะ แต่ฉันอยากให้เธอทบททวนข้อเสนอของฉันอีกครั้ง เอาไว้เธอไปเที่ยวให้สบายใจกลับมาแล้วค่อยให้คำตอบก็แล้วกัน”

หญิงสาวอยากจะยืนยันคำเดิมแต่ไม่กล้าปฏิเสธตรงๆ จึงได้แต่ก้มหน้ารับคำ เธอยกมือไหว้อีกครั้งกล่าวลาแล้วเดินออกมาจากร้านกาแฟในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอได้แต่ยิ้มขำให้กับตัวเอง ปกติเธอชงกาแฟกินเองไม่ค่อยได้ใช้บริการร้านกาแฟ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเอาเอกสารสำคัญที่ศาสตราจารย์ลืมไว้มาให้ที่นี่ เธอคงไม่มีโอกาสได้เข้ามาสถานที่แบบนี้หรอก

ณัชชาถอนหายใจเบาๆ เธอมองตัวเองในกระจกเงาหน้าร้านขายของที่ระลึกร้านหนึ่งใกล้ประตูทางออก ภาพหญิงสาวผอมบางผมยาวถักเปียหลวมๆ สวมแว่นตากรอบหน้ากับเสื้อผ้าเชยๆ ดูจะเป็นสิ่งคุ้นตาที่เธอก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จะเอาอะไรกับชีวิตเด็กที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ผ่านมาเธอหวังแค่มีข้าวให้กินอิ่ม มีที่ให้ซุกหัวนอน มีผ้าห่มอุ่นๆ นั้นก็มากพอแล้ว เธอแค่อาศัยที่ตัวเองมีความพยายาม มุ่งมั่นกับการศึกษาได้ทุนเล่าเรียนเสมอมา จนตอนนี้เธอทำงานเป็นบรรณารักษ์ในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง เธอเลือกที่จะอยู่กับหนังสือกองท่วมหัวมากกว่าพบปะพูดคุยกับผู้คน มันเป็นนิสัยเสียที่แก้ไม่หายจนเธอเองก็อ่อนใจ เธอเข้ากับใครไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยกล้าพูดคุยกับใคร ทำให้เธอไม่มีเพื่อนสนิท ชีวิตเธออยู่ในห้องสมุดมาตั้งแต่เด็กๆ มันเหมือนเป็นสถานที่วิเศษที่เธอหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก นั้นเป็นเหตุผลให้เธอเรียนมาทางด้านภาษาศาสตร์และเลือกที่จะทำงานในห้องสมุดแต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้ทำงานพิเศษเพิ่มคือการเป็นผู้ช่วยนักวิจัย ชีวิตโดดเดี่ยวอย่างเธอถ้าไม่ทำงานก็ไม่รู้จะเอาเวลาไปทำอะไร เธอไม่ชอบเที่ยวเตร่ ไม่ชอบดูหนัง ไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนจะเห็นเธอเหมือนยุ่งตลอดเวลา เพราะถ้าเธอยู่นิ่งเมื่อไหร่ ความเหงาก็จะเข้ามาเกาะกินหัวใจ.

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel