บทนำ กับดักมยุรา
ร่างบางสวมชุดนอนสายเดี่ยวสีฟ้าอ่อนสั้นเต่อ สวมกางเกงผ้ายืดขาสั้นสีขาว เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนอนซึ่งเต็มไปด้วยลังกระดาษมากมายอย่างมีเรื่องให้ครุ่นคิดตัดสินใจไม่ได้
มือบางแตะบานกระจกใส ทอดสายตาเหม่อลอยออกไปนอกกรอบหน้าต่างซึ่งเป็นภาพของตึกรามบ้านช่อง โรงแรม และรีสอร์ตรองรับนักท่องเที่ยว สลับกับต้นไม้สูงต่ำเป็นเงาตะคุ่มคราอาบแสงจันทร์ภายใต้บรรยากาศเดิม ๆ ที่เธอคุ้นชินมาตั้งแต่เด็ก มยุรากวาดสายตามองสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา แล้วหมุนตัวหันหลังให้เป็นพิงกรอบหน้าต่าง
แสงสว่างนวลตาจากโคมราตรีในคืนเดือนเพ็ญพอให้มยุราเห็นสิ่งของที่วางระเกะระกะ และไม่เดินเตะข้าวของซึ่งเตรียมขนย้ายพวกนี้ กระนั้นเธอยังลังเลไม่แน่ใจ ว่าจะพาข้าวของพวกนี้ไปไว้ที่ไหนดี ระหว่างบ้านพักบังกะโลในภูเก็ต กับกรุงเทพฯ มือบางคว้าเอกสารใบสมัครงานของโรงแรมดาวแต้มเดือน ซึ่งอ่านจนจำรายละเอียดได้ขึ้นใจมาม้วนเล่น และเคาะกับลำตัวเบา ๆ
“เอาไงดีนะ” น้ำเสียงแผ่วเบาหวานใสอัดแน่นด้วยความลังเลไม่แน่ใจ
หากอยู่ภูเก็ตต่อ เธอจะเปลี่ยนฐานะจากคุณหนูมยุรามาเป็น ‘ผู้รับจ้าง’ คุณนายดวงประกายเต็มตัวทันที แต่ถ้ากลับขึ้นกรุงเทพฯ เธอจะหางานประจำทำที่นั่น ระหว่างรองานที่ถูกใจนั้น เธอคงต้องแบมือขอเงินคุณนายดวงประกาย ตามคอนเซปต์ที่ว่า ‘อยู่บนเกาะ ต้องเป็นลูกชาวเกาะ’ อีกแน่นอน
ซึ่งตัวเลือกอย่างที่สอง นอกจากได้เงินใช้แล้ว เธอยังต้องทนฟังคุณนายดวงประกายบ่นจนหูชาเป็นของแถมอีกเป็นแน่
“ลองดูนะมยุรา” หญิงสาวพูดกับตัวเอง เมื่อวิธีแก้ไขปัญหาที่เธอใช้ประจำผุดขึ้นมาในหัว
ลองในที่นี้คือ การโยนเหรียญเสี่ยงทายประกอบการตัดสินใจเพื่อความชัวร์อีกครั้ง พอหาเหรียญบาทมาถือไว้ในมือได้แล้ว มยุราจึงรวบรวมสมาธิ กำเหรียญเสี่ยงทายในมือจนแน่น ก่อนโปรยเหรียญทั้งหมดลงบนเตียงนอนที่ปูด้วยผ้าคลุมเตียงลายดอกไม้จุ๋มจิ๋มสีฟ้า จากนั้นจึงขยับตัวมาอ่านผลการเสี่ยงทาย
ดวงไฟในห้องสว่างขึ้นอีกครั้งเมื่อร่างบางเดินมาเท้าสะเอวหลุบเปลือกตามองเหรียญบาททั้งห้าเหรียญที่กระจายอยู่บนเตียงนอน และคำตอบที่ได้รับนี่เองจึงปัดเป่าความกังวลให้หมดไป...
ต้องไปที่นั่น โรงแรมดาวแต้มเดือน
“ฉันตัดสินใจได้แล้วล่ะ ยัยดา” เธอพึมพำอย่างดีใจเมื่อหาทางออกให้ตัวเองได้ จากนั้นจึงหยิบเอาโทรศัพท์ไอโฟนมาเข้าโปรแกรมเฟซบุ๊ค โพสต์บอกรายละเอียดคร่าว ๆ บนหน้าเพจของชญาดาเพื่อให้เพื่อนสนิทได้รู้
มยุรา หัชเทพินทร์ > ชญาดา บ.ก.บ้างาน
‘ขออยู่ภูเก็ต พิชิตเงินแสนจากคุณนายดวงประกายก่อนนะยะ’
พอจัดการเรื่องส่วนตัวที่ค้างคาเป็นสัปดาห์ได้แล้ว มยุราจึงอารมณ์ดีขึ้นมา เธอโดดขึ้นเตียงนุ่มโดยไม่ลืมส่งจูบให้พระจันทร์ที่คล้อยต่ำลงมาทักทายน้ำทะเล ก่อนปิดเปลือกตาลงช้า ๆ
“ราตรีสวัสดิ์นะคะ คุณพระจันทร์”
##### บทที่1
คุณนายดวงประกาย
‘กริ๊งงงงง’
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเมื่อผ่านรอบวงของโมงยามที่ตั้งปลุกไว้ ร่างบางซึ่งหลับปุ๋ยและซุกตัวใต้ผ้าห่มนุ่มเพราะอากาศเย็นชื้นนั้นขยับตัวอย่างขี้เกียจ พลางควานมือบนโต๊ะตัวน้อยสำหรับวางของกระจุกกระจิกอย่างเคยชิน แต่เธอก็ไม่พบสิ่งนั้น
เสียงร้องชวนให้หงุดหงิดรำคาญนี่เองที่ทำให้มยุราดีดตัวลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังไม่ลืมตาได้ พอจำได้เลา ๆ ว่าเมื่อหัวค่ำเธอเก็บนาฬิกาปลุกใส่ลังกระดาษไปแล้วมยุราจึงรวบผ้าห่มไปไว้อีกทาง ยังไม่ลงจากเตียงด้วยซ้ำเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“ค่า” หญิงสาวขานรับเสียงยานคาง เสยเส้นผมที่ดัดเป็นลอน ย้อมสีมะฮอกกานีไปด้านหลังลวก ๆ พยายามลืมตามองคุณนายดวงประกาย มารดาสุดที่รักซึ่งยืนเท้าสะเอวทำหน้ายักษ์อยู่ตรงบานประตู
“จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนยะยัยคุณหนูมยุรา รถบรรทุกมาขนของแล้ว”
“รู้แล้วค่า” มยุราอิดออด บิดขี้เกียจไปมาสุดตัวเพื่อไล่ความเมื่อยขบ ทำท่าว่าจะล้มแผละนอนต่อ ถ้าไม่ติดว่ามารดายืนเท้าสะเอวปั้นหน้าบอกบุญไม่รับจ้องเธออยู่ มยุราทำปากยื่นนิดหนึ่งก่อนตัดใจจากที่นอนนุ่มแล้วคว้าผ้าขนหนูเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
