บทที่2 รักแรกพบ (4)
“ไม่เป็นไรครับพี่เปรม เรียบร้อย เอาล่ะทีนี้คุณหยกลองขยับข้อเท้าดูนะว่ายังเจ็บไหม?” ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยน แล้วเก็บอุปกรณ์ใส่กล่อง
จะว่าอคติไปไหม มยุราคิดว่าพ่อครัวหนวดเหล็กรูปร่างใหญ่โตกำลังจิกสายตาไม่พอใจมาให้เธอ แต่เธอก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณมาก” เธอบอกเสียงแผ่ว ยิ้มหวานให้ชายหนุ่มตรงหน้า แล้วรอยยิ้มของเธอก็ทำให้เทพบุตรหนุ่มมองตาค้างไปเลย
“อะแฮ่ม แล้วเรื่องเค้กที่พี่ฝากคุณน้องฝนจัดการถึงมือลูกค้าแล้วใช่ไหมคะ?” เปรมศักดิ์จิกสายตาพร้อมเข้ามาเกาะไหล่ของพิรุณ เมื่อเห็นว่าพิรุณมัวแต่สนใจผู้หญิงตรงหน้ามากกว่า
“เรียบร้อยแล้วครับ ผมส่งให้ถึงมือลูกค้าเลย” พิรุณยิ้มขยาด พลางแกะมือหนาของเชฟมือหนึ่งของโรงแรมออกอย่างสุภาพ
“ทำได้ดีมากเลยค่ะคุณน้องฝน มามะ พี่เอมี่ให้รางวัล” เปรมศักดิ์ประคองใบหน้าหล่อเหลาทำท่าว่าจะจุมพิตดื้อ ๆ แต่พิรุณก็ขัดขืนเต็มที่
“พี่เปรมเล่นบ้าอะไรเนี่ย! พี่ก้อย พี่อิ๋วช่วยผมด้วย พี่เปรมจะปล้ำผมอีกแล้ว” พอทำอะไรไม่ได้พิรุณก็รีบตะโกนขอความช่วยเหลือจากลูกน้องคนอื่น ๆ นั่นล่ะเปรมศักดิ์จึงสะบัดสะบิ้งปึ่งงอนพร้อมเชิดหน้าใส่
“แหม เอมี่แค่ล้อเล่น คุณน้องฝนไม่เห็นต้องจริงจังเลย”
“ก็ผมไม่ชอบ ดูสิ พี่เปรมทำผมขนลุก” พิรุณให้ดูขนแขนที่ลุกชัน แล้วหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงมาเช็ดเหงื่อด้วยสีหน้าซีดเผือด จากนั้นก็หันมายิ้มแหย ๆ ให้หญิงสาวที่มองหน้าเปรมศักดิ์สลับกับหน้าของเขา
เปรมศักดิ์ที่ชอบแทะโลมพิรุณเป็นชีวิตจิตใจกระหยิ่มยิ้มย่องกับสายตาที่เปลี่ยนไปของหญิงสาว พอได้ทีเขาก็แกล้งเอาคางมาเกยไว้บนไหล่ของพิรุณอีก แน่นอนว่าพิรุณรีบขยับตัวออกห่างในทันที
“รบกวนช่วยยืนให้ห่าง ๆ ผมได้ไหม หรือมีอะไรก็รีบๆ ไปทำเถอะ”
“แหม แตะนิดแตะหน่อยความหล่อไม่บุบสลายหรอกค่ะ แล้วนี่ใครล่ะคะ หน้าตาไม่คุ้นเลย ดูซิ เอมี่แค่วานให้คุณน้องฝนเอาเค้กไปให้ลูกค้าเดี๋ยวเดียว กลับมามีลูกชะนีห้อยติดมาได้ยังไงคะเนี่ย?” ไม่ถามอย่างเดียวเปรมศักดิ์ยังจิกสายตามาที่มยุราอีกครั้ง พร้อมย่นจมูกใส่
“นี่เพื่อนผมเองครับ” พิรุณแนะนำคร่าว ๆ
“เป็นเพื่อนก็แล้วไป เอมี่คิดว่าคุณน้องฝนนอกใจคุณพี่แล้วซะอีก” ไม่เพียงคำพูดหยอกล้อ และทำสะดีดสะดิ้ง เปรมศักดิ์หรือที่รู้จักกันในนามเอมี่ เชฟมือหนึ่งของโรงแรมดาวแต้มเดือนยังย่นจมูกเชิดหน้าใส่มยุราด้วย
“พี่ศักดิ์ก็พูดเล่นไปนู่น เดี๋ยวคุณหยกก็เข้าใจผมผิดพอดี” พิรุณส่ายหน้า
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เปรมศักดิ์จะหยอกล้อและแทะโลมเขาอยู่เป็นประจำ เพราะความสนิทสนมและรู้จักกันตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นล่ะ อีกทั้งเปรมศักดิ์ยังเป็นเพื่อนสนิทของคุณแม่เขาด้วย พิรุณเลยไม่ใส่ใจอะไรมาก
บางครั้งอารมณ์ดีก็เล่นด้วย บางครั้งก็ปล่อยไหลตามน้ำ หรือบางครั้งก็มีต่อต้านบ้างถ้าเปรมศักดิ์เล่นมากเกินไป ซึ่งพนักงานในโรงแรมจะคุ้นชินกับภาพที่เห็น แต่สำหรับสาวน้อยตากลมผมยาวเป็นลอนสวยเหมือนตุ๊กตา ที่มองเขาแล้วทำตาปริบ ๆ นี่สิ จะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างก็ไม่รู้
“เอ่อ... ฉันรบกวนคุณมากแล้ว คิดว่า... ฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ”
มยุรายิ้มแหยให้ เมื่อรู้ว่าพ่อเทพบุตรรูปงามที่เธอปลื้มหนักหนากลายเป็นชาวสีม่วง ตอนนี้เธออยากกัดผ้าเช็ดหน้าร้องไห้กระซิก ๆ ให้หนำใจด้วยซ้ำ ที่เขาทำให้ความฝันสวยงาม และหัวใจดวงน้อยของเธอแตกสลายภายในพริบตา
“คุณหยกไม่ยื่นเอกสารสมัครงานก่อนเหรอ?”
“จริงด้วย ลืมสนิทเลย” เธอยกมือเกาใบหูแก้เก้อ ชายหนุ่มเลยส่งยิ้มชนิดที่ทำให้เธอหัวใจเต้นแรงอีก
“งั้นให้ผมพาคุณไปที่ประชาสัมพันธ์ดีกว่า เสร็จธุระแล้วผมจะได้พาคุณไปส่งบ้านด้วย” พิรุณอาสาอย่างเต็มใจ พร้อมส่งยิ้มมาให้หัวใจของสาวช่างฝันหวั่นไหวเล่นอีก
มยุราบอกตัวเองว่าเธอจะตกลงทันทีถ้าไม่เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่
ถึงเธอจะเป็นโรคแพ้ความหล่อเข้าขั้นรุนแรง
ถึงผู้ชายรูปงามตรงหน้าจะหล่อตรงสเป็คทุกอย่าง
ถึงเขาจะคุกเข่าให้เธอถึงสองครั้งสองคราในวันเดียว และแสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษ แต่เธอก็ไม่ปลื้มด้วยหรอกหากเขาจะเป็นพวกรักร่วมเพศ!
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ฉันก็รบกวนคุณมากแล้ว ขอบคุณมากนะคะ” มยุรายิ้มเฝื่อน คว้าเอกสารแล้วเดินกะเผลก กลับออกจากห้อง โดยไม่หันไปมองเทพบุตรสายฝนที่เธอเสียดายความหล่อแทบขาดใจอีก
