EP04 เราชักจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วนะ

“เฮียไปไหนมาคะ? เมื่อคืนเฮียไม่ได้กลับบ้านมาทั้งคืน” ริสา ไม่รอช้า รีบถามอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมาพร้อมด้วยแววตาที่คาดหวังในคำตอบของอีกฝ่าย

เธอคาดหวัง ว่าอีกฝ่ายจะยินดีอธิบายในทุกๆเรื่องราวและให้คำตอบเธอได้ถึงสาเหตุที่เขานั้นหายไปทั้งคืน อย่างน้อยขอเพียงแค่เขายอมอธิบาย แม้จะเป็นเพียงคำอธิบายเล็ก ๆ น้อยๆ เธอนั้นก็ยินดีที่จะรับฟัง

“เฮียไปค้างที่คอนโด ช่วงนี้มีงานยุ่งๆ” มังกรตอบอีกฝ่าย โดยเลี่ยงที่จะลงรายละเอียดอะไรให้มากความ เมื่อกล่าวจบก็ไม่คิดที่รั้งรอหรือพูดจาอะไรต่อไปให้มากกว่านี้ สองขายาวเตรียมก้าวจากไปโดยไม่นึกใส่ใจถึงสีหน้าของคนรับฟังอย่างริสา ที่ตอนนี้หัวใจแทบแตกสลายไปทั้งใจแล้ว

ริสาพยายามฝืนกลืนก้อนความรู้สึกเจ็บและเสียใจลงคอ ก่อนที่จะข่มเสียงไม่ให้สั่นมากจนเกินไปกว่านี้ เพื่อถามสิ่งที่ยังค้างคาใจออกไป

“คอนโดเฮียหรือคอนโดใครคะ แล้วที่ยุ่งๆ เนี่ย เฮียยุ่งอยู่กับคนหรือยุ่งอยู่กับงานเหรอคะ” ริสายังคงถามอีกฝ่ายต่อไป แม้จะรู้คำตอบอยู่แก่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายไปไหนมา

แต่กระนั้นเธอก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะลองคาดคั้นดูอีกสักหน่อย แม้สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร เธอเองก็คงไม่มีค่าในสายตาของมังกรอยู่ดี

“ริสา เฮียคิดว่าเราชักจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วนะ วันนี้เฮียเหนื่อยมามากแล้ว ไม่อยากเสียเวลามาทะเลาะกับเราแบบนี้” มังกรกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า และเริ่มหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดจนเจ้าตัวเผลอใส่อารมณ์ไปกับถ้อยคำก่อนหน้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“ไม่รู้เรื่องเหรอ เฮียหรือริสากันแน่ที่คุยไม่รู้เรื่อง เฮียบอก ริสาว่าไม่ว่างไม่มีเวลา แต่ริสาก็เห็นเฮียไปไหนมาไหนกับแม่เลขาคนสนิทนั่นอยู่เสมอๆ เฮียเห็นริสาเป็นตัวอะไร ตอนนี้บนหัวของริสามันมีเขางอกออกมารึยัง” ริสาที่ปกติแล้วค่อนข้างจะใจเย็นและไม่ค่อยมีปากเสียงสักเท่าไหร่ ในที่สุด เธอก็ได้ระบายความในใจมากมายออกมา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นก็เริ่มที่จะอดทนกับเธอไม่ไหวแล้วเช่นกัน

เมื่อเรื่องราวได้เลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว ให้ปิดหูปิดตาต่อไปก็คงไม่ไหว ถ้าอยู่กันดีๆ ไม่ได้ ก็คงถึงคราวที่ไม่ต้องให้อีกฝ่ายมาฝืนทนกับตัวเองอีกต่อไป

มังกรชอบออกงานต่างๆ และควงเลขาคนสนิทที่พ่วงมาด้วยตำแหน่งเพื่อนสนิทออกงานไม่เว้นแต่ละวัน ในขณะที่ริสานั้นกลับได้เพียงเฝ้ารอเพื่อรับรู้ข่าวคราวของทั้งสองจากที่บ้าน

แม้จะเป็นภรรยา แต่เนื่องด้วยริสานั้นยังเรียนไม่จบ ทางตระกูลเฉินจึงยังไม่อยากให้เจ้าตัวต้องมาแบกรับตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเฉินให้วุ่นวาย

โดยนอกจากเหตุผลทางด้านความวุ่นวายแล้ว ยังจะมีในเรื่องของอิสรภาพและความปลอดภัย ที่ริสานั้นจะต้องยอมแลกถ้าหากต้องเปิดเผยตัวตนในฐานะของสะใภ้เพียงหนึ่งเดียวของตระกูล เฉิน และเป็นภรรยาของคนปัจจุบันของผู้นำตระกูลอย่าง มังกรนั่นเอง

แต่ในทุก ๆ การกระทำที่ไม่มีคำอธิบายและไร้ซึ่งความชัดเจน แม้จะปรารถนาดีสักเพียงใด ใครเล่าจะตรัสรู้ได้

ซึ่งแน่นอนว่าความเป็นจริงใจข้อนี้นั้น ริสาได้มีโอกาสรับรู้มาเพียงบางส่วนเท่านั้น

ในขณะที่กำลังโมโหร่วมด้วยอารมณ์น้อยใจที่มากล้นจนเจ้าตัวนั้นไม่อาจอดกลั้นน้ำตาไว้ได้ ริสาก็พลันนึกถึงในแต่ละเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาระหว่างมังกรและกานดา

‘เพื่อนร่วมงาน?’ ริสาเพียงคิดว่า ในสายตาของมังกร บนหัวของเธอนั้นไม่แน่ว่าอาจจะมีเขาโผล่มาแล้วทั้งสองข้างแล้วก็เป็นได้